ปราจีนบุรี-ชาวบ้านลุกฮือขับไล่ปลัดอบต.ทำงานล่าช้าพร้อมปล่อยคลิปรับเงินสินบน ขณะที่เจ้าตัวยืนยันว่าบริสุทธิ์

ปราจีนบุรี-ชาวบ้านลุกฮือขับไล่ปลัดอบต.ทำงานล่าช้าพร้อมปล่อยคลิปรับเงินสินบน ขณะที่เจ้าตัวยืนยันว่าบริสุทธิ์วันที่ 16 สิงหาคม 2561 ที่บริเวณหน้าองค์การบริหารส่วนตำบลบางพลวง ได้มีกลุ่มชาวบ้านจำนวนเกือบ 50 คน ได้รวมตัวประท้วงขับไล่นายมนตรี พวงทอง ปลัดองค์การบริหารส่วนตำบลบางพลวง พร้อมกับชูป้ายที่มีการเขียนข้อความต่างๆ เช่น เราไม่เอาคนทุจริต ปลัดมนตรีออกไป ออกไป คนบางพลวงเลี้ยงควายแต่ไม่ใช่ควาย ก่อนที่จะมีการมอบหนังสือร้องเรียน พร้อมกับแผ่นซีดีที่มีการบันทึกคลิปวิดีโอว่าปลัดอบต.มีการเรียกรับเงินสินบน ต่อนายเสถียร แก้วไทรเลิศ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลบางพลวงนายชิน อินเอี่ยม อดีตกำนันตำบลบางพลวง ตัวแทนกลุ่มชาวบ้านที่ได้ยื่นหนังสือกับนายกองค์การบริหารส่วนตำบลบางพลวงกล่าวว่า ตนเองและชาวบ้านตำบลบางพลวงมีความรู้สึกอึดอัดใจต่อการทำงานของปลัดมนตรี มาตลอดเวลากว่า 4 ปี เนื่องจากปลัดมนตรี มักจะมาทำงานสาย หรือไม่ค่อยมาทำงานอยู่บ่อยครั้ง ทำให้การติดต่อประสานงานทางราชการเกิดความล่าช้า รวมทั้งไม่รับฟังความคิดเห็นของชาวบ้าน รวมไปถึงการทุจริตเรียกรับผลประโยชน์ในการขอใบอนุญาตต่างๆ โดยได้มอบหลักฐานทั้งหมดเพื่อให้ตรวจสอบไว้แล้ว หลังจากนั้นกลุ่มชาวบ้านทั้งหมดได้เดินทางไปยังอำเภอบ้านสร้าง เพื่อยื่นหนังสือให้กับนายอำเภอบ้านสร้างเพื่อตรวจสอบ
เมื่อกลุ่มชาวบ้านได้เดินทางมารวมตัวกันที่อำเภอบ้านสร้างเพื่อยื่นหนังสือต่อนายอำเภอ โดยมีเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ และอส. ได้ดูแลความสงบให้อยู่ในขอบเขต ก่อนที่จะเชิญชาวบ้านทั้งหมดเข้าพบนายชัยวรรณ นิยม นายอำเภอบ้านสร้าง ที่หอประชุมอำเภอบ้านสร้าง โดยนายอำเภอได้ร่วมรับฟังปัญหาจากชาวบ้าน และรับมอบหนังสือ ก่อนที่จะได้มีการพูดคุยกับชาวบ้าน ว่าจะต้องมีการตรวจสอบทั้งเอกสาร คลิปวิดีโอ รวมไปถึงการเรียกสอบเจ้าหน้าที่ต่างๆ ซึ่งจะต้องดำเนินการไปตามขั้นตอนของราชการ ซึ่งอาจจะต้องใช้ระยะเวลาอย่างน้อย 15 วัน ซึ่งชาวบ้านได้มีการเรียกร้องเสนอให้มีการถอดถอนปลัดออกจากพื้นที่ไปก่อน หากตรวจสอบแล้วไม่พบว่ามีความผิดจริง ก็ยินดีที่จะให้กลับมาปฏิบัติราชการต่อไปได้
จากการสอบถามนายมนตรี พวงทอง ปลัดองค์การบริหารส่วนตำบลบางพลวง กล่าวว่าตนเองก็ไม่ได้รู้สึกหนักใจกับเหตุการณ์นี้ เพราะรู้ดีว่าตนเองทำงานได้ดีและถูกต้องแล้ว สำหรับในเรื่องของการมาทำงานสายหรือล่าช้านั้น เป็นเพราะว่าตนเองต้องลงพื้นที่โครงการไทยนิยมยั่งยืนถึง 4 เดือน รวมทั้งต้องเดินทางไปเป็นวิทยากรให้ความรู้กับชาวบ้านถึงเรื่องไทยนิยมยั่งยืน จึงทำให้ไม่ค่อยมีเวลาเข้าไปประจำอยู่ในอบต. โดยส่วนรวมแล้วไม่รู้สึกอึดอัดใจในการทำงาน แต่สำหรับเหตุการณ์นี้ เป็นเพียงกลุ่มผู้เสียผลประโยชน์ และเจ้าหน้าที่ภายในองค์กร ต้องการที่จะขับไล่ตน ซึ่งตนเองก็ยืนยันว่าทำงานด้วยความบริสุทธิ์มาโดยตลอด สำหรับเรื่องคลิปที่อ้างว่าตนเองรับเงินสินบน ต้องให้ความเป็นธรรม และตรวจสอบอย่างละเอียดว่าเป็นเงินรับสินบนจริงหรือไม่ พร้อมยืนยันว่าไม่เคยทำงานทางราชการเสียหาย ซึ่งตนเองก็พร้อมที่จะให้มีการตรวจสอบตามขั้นตอน //////////ภาพ/ข่าว ณัฐวัฒน์ กุลเศรษฐ์สุวภา ผู้สื่อข่าว จ.ปราจีนบุรี