สงขลา/สะเดา เจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่5ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดน เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนภูธรจังหวัดสงขลารวบ 3ใน 4 ผู้ต้องหาลักลอบขนแรงงานชาวโรฮิงญา เอี่ยวคดีค้ามนุษย์ ปี2558
วันนี้ 9พ.ย.62เจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่5ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดน เจ้าหน้าที่กองกับการสืบสวนภูธรจังหวัดสงขลา รวบตัว นาย สุทัศน์ แก่นสาร อายุ51ปี เป็นบุคคลตามหมายจับศาลจังหวัดนาทวี ในข้อหาร่วมกันให้ที่พักอาศัยช่วยเหลือแรงงานต่างด้าว และเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายและให้แรงงานต่างด้าวพ้นจากการจับกุม โดยสามารถจับกุมตัวได้ที่บ้านพักอาศัยของนาย สุทัศน์ ที่บ้านควนกุน ม3 ต.สำนักขาม อ.สะเดา จ.สงขลา โดยในขณะที่เจ้าหน้าที่เข้าทำการจับกุมตัว นายสุทัศน์ ไม่ได้มีท่าทางที่จะหลบหนี เจ้าหน้าที่จึงได้นำตัวนาย สุทัศน์ ไปยัง กองร้อยทหารราบ ร้อย ร.5021 บ้านทับโกบ เพื่อทำการสอบสวนและซักถามหาข้อเท็จจริง ส่วน นายเก่งกาจ ล่าเห อายุ23ปี นายวรวิทย์ อิตัน อายุ 39ปี ซึ่งเป็นบุคคลตามหมายจับศาลจังหวัดนาทวี ในข้อหาเดียวกัน คือ ร่วมกันให้ที่พักอาศัยช่วยเหลือแรงงานต่างด้าว และเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายและให้แรงงานต่างด้าวพ้นจากการจับกุม ทางเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมได้ก่อนหน้าที่แต่ยังคงอยู่ในขั้นตอนการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ และไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าทำการบันทึกภาพ และ ผู้ต้องหารายสำคัญคือ นาย มูฮัมหมัด หมินเย๊าะ อายุ 31ปี เป็นผู้ต้องหาตามหมายจับในคดีเดียวกัน แต่ได้หลบหนีก่อนเจ้าหน้าที่เข้าจับกุมตัว จากการจับกุมในครั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อวันนี้31ตุลาคม ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ทหารเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองสะเดาเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สะเดา สามารถจับกุมแรงงานเถื่อน ซึ่งเป็นแรงงานชาวโรฮิงญา จำนวน28 ได้ที่บ้านทุ่งหมอ อ.สะเดา จ.สงขลา ขณะตั้งด่านจุดตรวจจุดสกัด ก็ได้มีรถยนต์กระบะยี่ห้อ อีซูซุ สีบอร์นเงินเลขทะเบียน บร 1958 สงขลา ขับผ่านมา โดยมีนาย วรวิทย์ อิตัน เป็นคนขับรถ และบรรทุกแรงงานมาจำนวน28คน เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ตั้งด่าน จึงได้เร่งเครื่องหลบหนี และทิ้งรถยนต์กระบะพร้อมกับแรงงานต่างด้าวไว้ ในพื้นที่ ตำบล ปาดังเบซาร์ จนทำให้นำมาซ฿งการออกหมายจับและจับกุมตัวได้ดังกล่าว โดยขบวนการขนแรงงานเถื่อนทั้งหมดนี้ ที่เจ้าหน้าที่สามารถรบบตัวได้ มีส่วนเอี่ยวและเชื่อมโยงกลุ่มเจ้าหน้าที่รัฐบางคนในพื้นที่ และ เอี่ยวโยงคดีค้ามนุษย์ เมื่อปี2558 ที่ผ่านมา แต่ทางเจ้าหน้าที่ยัคงต้องดำเนินการหาหลักฐานเพิ่มเติม เพื่อ ที่จะเอาผิดบุคคลกลุ่มนี้ได้ทั้งหมด
ภาพ-ข่าว มณีรัตน์ แก้ววิเชียร ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดสงขลา