ยิ่งใหญ่!! วันสถาปนาครอบรอบ 117 ปี กองทัพภาคที่ 3 ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก เป็นประธาน– อดีตแม่ทัพภาคที่ 3 ตบเท้าเข้าร่วม….
พลเอก วิจักขฐ์ สิริบรรสพ ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก เป็นประธานงานวันสถาปนากองทัพภาคที่ 3 ครบรอบปีที่ 117 เพื่อบำเพ็ญกุศลอุทิศให้อดีตผู้บังคับบัญชา และกำลังพล ที่ล่วงลับไปแล้ว โดยมี พลโท ฉลองชัย ชัยยะคำ แม่ทัพภาคที่ 3 ให้การต้อนรับ มี พลโท สุภโชค ธวัชพีระชัย แม่ทัพน้อยที่ 3 , พลตรี จิรเดช กมลเพ็ชร รองแม่ทัพภาคที่ 3 ร่วมต้อนรับ ณ กองบัญชาการกองทัพภาคที่ 3 ค่ายสมเด็จพระนเรศวรมหาราช อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก เมื่อวันอังคารที่ 20 สิงหาคม 2562
โอกาสนี้ พลโท ฉลองชัย ชัยยะคำ แม่ทัพภาคที่ 3 พร้อมด้วย คุณศิริพร ชัยยะคำ ประธานสมาคมแม่บ้านทหารบก สาขา กองทัพภาคที่ 3, พลโท สุภโชค ธวัชพีระชัย แม่ทัพน้อยที่ 3, พลตรี จิรเดช กมลเพ็ชร รองแม่ทัพภาคที่ 3, ผู้บังคับบัญชา ,กำลังพลหน่วยขึ้นตรงกองทัพภาคที่ 3 ร่วมพิธีถวายราชสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช และ พระบรมรูปสมเด็จพระนเรศวรมหาราช และประกอบพิธีบวงสรวงสมเด็จพระนเรศวรมหาราช สมเด็จพระเอกาทศรถ และพระรูปพระสุพรรณกัลยา ณ ค่ายสมเด็จพระนเรศวรมหาราช อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก เนื่องในโอกาสวันสถาปนากองทัพภาคที่ 3 ครบรอบปีที่ 117
และในการนี้ พลเอก วิจักขฐ์ สิริบรรสพ ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก ได้กรุณาให้เกียรติเดินทางมาเป็นประธาน เนื่องในวันสถาปนากองทัพภาคที่ 3 ครบรอบปีที่ 117 โดยได้ขึ้นแท่นรับความเคารพจากแถวทหารกองเกียรติยศ จากนั้น ได้ถวายราชสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช สมเด็จพระเอกาทศรถ และพระรูปพระสุพรรณกัลยา พร้อมทั้งเยี่ยมชมการจัดแสดงนิทรรศการแสดงผลการปฏิบัติ โครงการเดินตามรอยเท้าพ่อเกษตรอินทรีย์กองทัพภาคที่ 3 ของหน่วยทหารในพื้นที่กองทัพภาคที่ 3 อาทิ กรมทหารปืนใหญ่ที่ 4 ,กองพันกระสุนที่ 23 ,กองพันทหารสื่อสารที่ 23 , กองพันซ่อมบำรุงที่ 23, กองพันทหารม้าที่ 9 กองพันทหารปืนใหญ่ที่ 104 และโรงพยาบาลค่ายสมเด็จพระนเรศวรมหาราช เป็นต้น และเยี่ยมชมการจัดแสดงนิทรรศการผลการดำเนินงานในห้วงที่ผ่านมาของกองทัพภาคที่ 3 ในการปฏิบัติภารกิจตอบสนองนโยบายของกองทัพบกและรัฐบาล ทั้งในภารกิจด้านการแก้ไขปัญหาหมอกควันและไฟป่า, การบรรเทาภัยแล้ง, การช่วยเหลือภัยพิบัติในพื้นที่ภาคเหนือ และโครงการจิตอาสาพระราชทาน 904 วปร. ของศูนย์อำนวยการจิตอาสาพระราชทาน 904 วปร.ภาค 3 ต่อมาผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก เป็นประธานในพิธีบำเพ็ญกุศล เนื่องในวันสถาปนากองทัพภาคที่ 3 ครบรอบปีที่ 117 ณ ห้อง 101 สโมสรบันเทิงทัพ ค่ายสมเด็จพระนเรศวรมหาราช อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก
กองทัพภาคที่ 3 ก่อกำเนิด เมื่อ 20 สิงหาคม 2445 ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว สืบเนื่องมาจากเงี้ยวบ้านบ่อแก้ว แขวงเมืองลอง และบ้านป่าผึ้ง แขวงสูงเม่น จังหวัดแพร่ ได้รวมตัวเป็นกบฏก่อการจลาจล ใช้อาวุธปืนบุกเข้ายึดเมืองแพร่ พระยาไชยบูรณ์ ข้าหลวงกำกับราชการแพร่ ได้รวบรวมกำลังต่อสู้ เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 2445 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ทรงโปรดเกล้า โปรดกระหม่อม ให้ พลโทเจ้าพระยาสุรศักดิ์มนตรี เป็นแม่ทัพใหญ่ยกกำลังเข้าปราบปราม ระหว่างทางเมื่อผ่านทางพิษณุโลก พิชัยและอุตรดิตถ์ก็ได้เกณฑ์กำลังไปช่วยด้วย จนสามารถปราบปรามกบฏเงี้ยวได้สำเร็จ เมื่อ 20 สิงหาคม 2445 ในการเดินทางกลับ เมื่อผ่านเมืองพิษณุโลก ได้หยุดตั้งค่ายพักแรม และได้พิจารณาเห็นว่าภาคเหนือควรมีทหารประจำการณ์ไว้บ้าง จึงจัดตั้งกองทหารขึ้น 1 กอง ประจำอยู่ที่พิษณุโลก และเป็นที่มาของกองทัพภาคที่ 3 ซึ่งมีที่ตั้งอยู่ที่ค่ายสมเด็จพระนเรศวรมหาราช อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก ติดกับแม่น้ำน่าน มาจนถึงปัจจุบัน โดยถือเอา วันที่ 20 สิงหาคมของทุกปี ซึ่งเป็นวันที่ปราบกบฏเงี้ยวได้สำเร็จ จึงเป็นวันคล้ายวันสถาปนา กองทัพภาคที่ 3 จวบจนถึงปัจจุบันมี พลโท ประพันธ์ กุลพิจิตร เป็น แม่ทัพภาคที่ 3 คนแรก และ พลโท ฉลองชัย ชัยยะคำ เป็น แม่ทัพภาคที่ 3 คนปัจจุบันและเป็นแม่ทัพภาคที่ 3 คนที่ 38 ซึ่งท่านเป็นผู้บังคับบัญชาที่มีความพร้อมลักษณะของผู้นำ มีความมุ่งมั่นในการปฏิบัติหน้าที่เพื่อให้กองทัพภาคที่ 3 มีความก้าวหน้ามากยิ่งขึ้น กองทัพภาคที่ 3 เป็นกำลังรบหลักของกองทัพบกที่รับผิดชอบในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือด้วยเกียรติประวัติที่ยาวนานจากอดีตสู่ปัจจุบัน ครบ 117 ปี แห่งการสถาปนาหน่วย กองบัญชาการกองทัพภาคที่ 3 ซึ่งเป็นเกียรติประวัติที่สำคัญยิ่ง โดยมีภารกิจหลักที่ได้รับมอบหมายจากกองทัพบกการปกป้องและเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ การป้องกันประเทศ การรักษาความมั่นคง ความสงบเรียบร้อยภายในและกำกับดูแลแนวชายแดนเพื่อมิให้เกิดการกระทบกระทั่งกระทบถึงความสัมพันธ์ที่ดีของมิตรประเทศ พร้อมการสร้างความสัมพันธ์ทางทหารกับต่างประเทศ การพัฒนาประเทศและการช่วยเหลือประชาชน การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือ ซึ่งจะรวมถึงการปฎิบัติภารกิจต่อภัยคุกคามที่มิใช่สงคราม เพื่อความมั่นคงในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติดตามแนวชายแดน การสกัดกั้นแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย โดยมีกองกำลังป้องกันตามแนวชายแดนจำนวน 2 กองกำลัง คือกองกำลังนเรศวรรับผิดชอบพื้นที่ตามแนวชายแดนจังหวัดตาก จังหวัดแม่ฮ่องสอน และกองกำลังผาเมืองรับผิดชอบพื้นที่ตามแนวชายแดนจังหวัดเชียงใหม่จนถึงจังหวัดพิษณุโลก การช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยพิบัติทุกประการซึ่งในพื้นที่ตอนบนของประเทศจะประสบกับปัญหาหมอกควันเนื่องจากการเผาทำลายเพื่อหาของป่าและอากาศที่ร้อนจนทำให้เกิดไฟป่าขึ้น กองทัพภาคที่ 3 จึงได้จัดตั้งศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพภาคที่ 3 ขึ้นในหน่วยทหารที่กองทัพภาคที่ 3 รับผิดชอบทั้ง 17 จังหวัดภาคเหนือ โดยในพื้นที่ส่วนใหญ่ของกองทัพภาคที่ 3 เป็นป่าและภูเขา ซึ่งถือว่าเป็นแหล่งต้นน้ำที่สำคัญของประเทศ ปัจจุบันกองทัพภาคที่ 3 ถือว่าเป็นภารกิจที่เร่งด่วนและสำคัญ แม้นจะดูแลในพื้นที่ภาคเหนือแต่ได้มีส่วนร่วมในการบริหารจัดการน้ำทั้งต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำด้วย และภารกิจที่สำคัญยิ่งของกองทัพภาคที่ 3 คือ ตั้งศูนย์อำนวยการจิตอาสาพระราชทาน 904 วปร.ภาค 3 เพื่อร่วมทำกิจกรรมกับส่วนราชการและประชาชน ในการช่วยเหลือดูแล บำบัดทุกข์ บำรุงสุขให้กับประชาชน