เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แก่งกระจาน สนธิกำลังทหาร และฝ่ายปกครอง ตั้งจุดสกัดแก๊งเด็กเเว้น ที่นัดหมายกันทางสื่อโซเซียล เดินทางมารวมตัวกันที่แก่งกระจาน
เมื่อเวลา10.00น. วันที่ 2 มิ.ย.62 นายสุธี เล้าสุบินประเสริฐ นายอำเภอแก่งกระจาน และ พ.ต.อ.พาณุพงษ์ ศรจิตติ ผกก.สภ.แก่งกระจาน พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ทหารกองร้อยฝึกรบพิเศษที่ 1 ค่ายฝึกรบพิเศษแก่งกระจาน เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แก่งกระจาน และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอแก่งกระจาน พร้อมอาสาสมัคร
สนธิกำลังตั้งจุดตรวจจุดสกัด บริเวณถนนบายพลาสสายท่ายาง-แก่งกระจาน บริเวณวงเวียนปั้ม ปตท.วังจันต์ ต.วังจันต์ อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี เพื่อตรวจสอบแก๊งเด็กเเว้นจากหลายจังหวัดที่รวมกลุ่มกันขับขี่รถจักรยานยนต์ เพื่อเดินทางมาในพื้นที่อำเภอแก่งกระจาน
นายสุธี เล้าสุบินประเสริฐ นายอำเภอแก่งกระจาน เปิดเผยว่า ได้ทราบข่าว ในช่วงเช้าของวันที่ 2 มิ.ย. 62 ว่าทางแฟนเพจเฟซบุ๊ก ชื่อ “เตกูเบ” ได้เขียนข้อความชักชวนกลุ่มวัยรุ่น จากหลายจังหวัดให้ขับขี่รถจักรยานยนต์ มาเที่ยวกันในพื้นที่อำเภอแก่งกระจานในวันที่ 2 มิถุนายน 62
โดยหลังจากที่เฟซบุ๊ก ดังกล่าวลงข้อความชักชวน ได้มีบรรดาวัยรุ่นจากหลายจังหวัดในเขตภาคกลางได้แชร์ข้อความกันอย่างแพร่หลาย พร้อมระบุตกลงพร้อมใจกันที่จะขับขี่รถจักรยานยนต์มารวมตัวกันตามที่นัดหมาย จึงเกรงว่า กลุ่มแก๊งวัยรุ่นที่คาดว่าจะมีจำนวนหลายร้อยคัน จะเกิดการก่อกวนและสร้างความวุ่นวายขึ้น
จึงประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และอาสาสมัคร ร่วมกันตั้งจุดสกัด เพื่อเป็นการป้องกันเหตุที่อาจจะเกิดขึ้น
ด้าน พ.ต.อ.พาณุพงษ์ ศรจิตติ ผกก.สภ.แก่งกระจาน เผยว่า จากการตั้งจุดตรวจจุดสกัดเพื่อป้องกันเหตุในครั้งนี้ พบว่า กลุ่มวัยรุ่นจากจังหวัดเพชรบุรี ราชบุรี นครปฐม กาญจบุรีประจวบคีรีขันธิ์ สมุทรสาคร สมุทรสงคราม นนทบุรี และอีกหลายจังหวัดในเขตภาคกลาง
ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์หลายร้อยคัน เดินทางมาในเขตอำเภอแก่งกระจาน ซึ่งส่วนใหญ่พบว่า มีการดัดแปลงรถจนทำให้ท่อส่งเสียงดังรบกวนชาวบ้าน บางคันไม่มีอุปกรณ์ส่วนควบ และยังพบว่าผู้ขับขี่ยังเป็นเยาวชนไม่มีใบอนุญาตการขับขี่ เจ้าหน้าที่จึงดำเนินการเปรียบเทียบปรับ พร้อมผลักดันให้เยาวชนเหล่านั้นเดินทางกลับไปภูมิลำเนาตนเอง
พ.ต.อ.พาณุพงษ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า การตรวจจับในครั้งนี้ มิได้เป็นการห้ามไม่ให้วัยรุ่นเข้ามาท่องเที่ยว ในอำเภอแก่งกระจานแต่อย่างใด แต่การนัดกมายรวมตัวกันเป็นจำนวนหลายร้อยคัน ถือว่าไม่ใช่เหตุการณ์ปกติ เพราะวัยรุ่นจากหลายจังหวัดที่เดินทางเข้ามา ส่วนใหญ่แล้วยังไม่รู้จักกันมาก่อน เพียงแต่ละคนต่างทราบข่าวสารชักชวนจากโซเซียลเท่านั้น ดังนั้นจึงเกิดความคึกคนองชักชวนกันเดินทางเข้ามา จึงเกรงว่าวัยรุ่นที่มากันคนละจังหวัด จะก่อเหตุขึ้น เจ้าหน้าที่จึงต้องดำเนินการป้องกันเพื่อลดปัญหาอาชญากรรมที่อาจจะเกิดขึ้น.
กสิพล ศิริลาภ-เพชรบุรี