ทช.สรุป “เจ้าปิ่น” วาฬบรูด้าติดอวนจมน้ำตาย-ไม่พบพลาสติก
อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ยืนยันหลังการผ่าซากพิสูจน์วาฬบรูด้าตายทะเลอ่าวไทย อ.บ้านแหลม จ.เพชรบุรี ตัวล่าสุดชื่อ “ปิ่น” เป็นลูกวาฬตัวเมียลูกแม่กันยา คาดอายุ 2 ปีเศษ ไม่เจอพลาสติกในท้อง แต่โชคร้ายติดอวนของชาวเลพันลำตัว จนจมน้ำตาย และกระแทกเข้ากับของแข็งไม่มีคม โดย เจ้าหน้าที่ระบุ เป็น 1 ใน 40 ตัวที่ตั้งชื่อไว้
โดยเมื่อช่วงเย็นวันที่ 29 พ.ค.2562 นายจตุพร บุรุษพัฒน์ อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) กล่าวว่า กรณีที่พบวาฬบรูด้าตายในทะเลอ่าวไทยตอนบน บริเวณพื้นที่ จ.เพชรบุรี ทางศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนบน สัตวแพทย์ได้เจ้าหน้าที่นำเรือประมงลากซากวาฬเข้ามายังฝั่งบริเวณพื้นที่ ม.2 ตำบลปากทะเล อ.บ้านแหลม ผ่าชันสูตรเบื้องต้นได้รับการยืนยันแล้วว่าวาฬตัวนี้เป็นวาฬ ชื่อปิ่น ลูกของแม่กันยา เป็นวาฬ 1 ใน 40 ตัวที่สำรวจและมีการตั้งชื่อและรหัสตามอัตลักษณ์ของวาฬ
อธิบดี ทช.กล่าวว่า สันนิษฐานว่าปิ่น น่าจะเข้ามาหากิน และโชคร้ายติดอวนลอย และพยายามดิ้น แต่ยิ่งดิ้นก็ยิ่งรัดตัว เพราะมีความยาวตัว 10.5 เมตรและน้ำหนัก 10 ตัน ทำให้จมน้ำตาย จนกระทั่งลอยขึ้นอืด และกลุ่มนักอนุรักษ์เจอลอยกลางทะเลเมื่อวันที่28 พ.ค. ที่ผ่านมา เนื่องจากวาฬเป็นสัตว์ทะเลหายาก ที่ต้องหายใจบนผิวน้ำ เมื่อถูกอวนรัดก็จมน้ำตายขาดอากาศ ทั้งนี้ถึงแม้จะโชคดีว่าการผ่าชันสูตรครั้งนี้ ไม่เจอขยะหรือเศษพลาสติกในท้องวาฬ ไม่พบเศษอาหารตกค้าง หรือสิ่งแปลกปลอมที่ไม่ใช่อาหารอยู่ในทางเดินอาหาร แต่ก็น่าเป็นห่วง ทั้งนี้ได้เก็บตัวอย่างผิวหนังเพื่อตรวจสอบลักษณะทางพันธุกรรม (DNA) อีกครั้ง
ขณะนี้ทะเลอ่าวไทย มีวาฬอาศัยประมาณ 70 ตัว แต่เพิ่งมีการสำรวจไปเพียง 40 ตัวเท่านั้น และการที่เจอรอยอวนที่มีขนาดที่กฎหมายอนุญาต แต่ก็มีผลกระทบกับสัตว์ทะเลหายากได้เช่นกันถ้าเกิดสัตว์ทะเลขนาดใหญ่ เช่น วาฬ โลมาไปติดจนอวนรัดลำตัว
อีก 1 ปีเก็บโครงกระดูกไว้พิพิธภัณฑ์
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่กลุ่มสัตว์ทะเลหายาก พร้อมทีมสัตวแพทย์ศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนบน และสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดเพชรบุรี ผ่าชันสูตรซากวาฬ จะเก็บตัวอย่างไปตรวจสอบหาสาเหตุการตายในห้องปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์อีกครั้ง ทั้งนี้ หลังการผ่าชันสูตรเสร็จสิ้นได้นำซากวาฬบรูด้าไปฝังกลบบริเวณชายหาด ม.2 ตำบลปากทะเล และอีก 1 ปีข้างหน้าจะขุดนำกระดูกขึ้นมาเก็บในพิพิธภัณฑ์ต่อไป
สำหรับวาฬบรูด้าตัวนี้ ได้รับแจ้งจากกลุ่มวาฬไทย (Thai Whales) พบซากวาฬขนาดใหญ่ มีสภาพซากเริ่มเน่าลอยอยู่กลางทะเลอ่าวไทยตอนบนว่า ในเบื้องต้นเป็นวาฬบรูด้า เพศเมีย ยังไม่โตเต็มวัย ความยาวลำตัวประมาณ 10.50 เมตร น้ำหนักประมาณกว่า 10 ตัน
สำหรับวาฬบรูด้า ได้รับการบรรจุเป็นสัตว์สงวนของไทยลำดับที่ 16 และทั้งนี้ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมามีวาฬบรูด้าตายแล้ว 3 ตัว โดยปี 2560 มี 2 ตัวที่จ.ประจวบคีรีขันธ์
เปิดผลชันสูตรเบื้องต้น
28 พ.ค.62 เจ้าหน้าที่กลุ่มสัตว์ทะเลหายาก ศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนบน ได้รับแจ้งจากกลุ่มวาฬไทย (ThaiWhales) พบซากวาฬบรูด้ากลางทะเลอ่าวไทยตอน บน และทาการลากเข้าฝั่งที่บริเวณตาบลปากทะเล อ.บ้านแหลม จ.เพชรบุรี
29 พ.ค.62 เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ และชันสูตรพบว่าเป็นวาฬบรูด้า ตัวเมียความยาว 10.5 เมตร น้ำหนักประมาณไม่เกิกน 10 ตันสภาพซากเน่า เมื่อถ่ายรูป ครีบหลัง จุดใต้คาง และรอยแผลเป็น ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของวาฬแต่ละตัว เพื่อเปรียบเทียบในบัญชีรายชื่อวาฬ ที่เจ้าหน้าที่เคยสำรวจพบในอ่าวไทยตอนบน
พบว่าเป็น “เจ้าปิ่น” พบครั้งแรกวันที่ 22 มิ.ย.60 มีอายุประมาณ 2 ปี ซึ่งเป็นลูกของ “แม่กันยา”จากการตรวจสอบลักษณะจุดบริเวณปลายปาก ทั้งนี้ได้เก็บตัวอย่างผิวหนังเพื่อตรวจสอบลักษณะทางพันธุกรรม (DNA) อีกครั้ง
จากการชันสูตรซาก พบรอยกากบาท (ลักษณะตาอวน) หลายแห่ง โดยเฉพาะส่วนกรามล่าง ทั้ง 2 ข้างประกอบกับใต้ผิวหนังมีเลือดออกในกล้ามเนื้อใต้รอยบาดแผล และพบใต้ผิวหนังมีเลือดแทรกกล้ามเนื้อหลายจุดทั้งด้านซ้ายและด้านขวา โดยเป็นวงกว้างสุด 2.25 เมตร ซึ่งเป็นรอยที่เกิดก่อนการเสียชีวิต
– ขอบลิ้นยังคงมีรอยหยักเล็กน้อย บ่งบอกถึงวาฬตัวนี้ได้ผ่านพ้นช่วงวัยเด็ก และเลิกกินนมแม่แล้ว เนื่องจากหยักที่ขอบลิ้นสั้นลง
– มีการสะสมไขมันใต้ผิวหนังปกติ (5 ซม.) และมีความหนาของกล้ามเนื้อสันหลังอย่างสมบูรณ์ บ่งบอกความสมบูรณ์ของร่างกายอยู่ในเกณฑ์ดี
– ปอดที่มีการคั่งเลือดอย่างรุนแรง ทั้งสองข้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านขวา ซึ่งตรงกับรอยช้ำใหญ่ที่กล้ามเนื้อข้างลาตัวด้านขวา บ่งบอกว่าถูกกระแทกอย่างรุนแรงจากของแข็งไม่มีคม
– ผนังกระเพราะอาหารปกติ พบอาหารที่ย่อยแล้ว ปริมาณมาก ในระบบทางเดินอาหาร
– หัวใจ ตับ ไต และอวัยวะภายในอื่นๆ เริ่มเน่า แต่ไม่พบความผิดปกติ
– สาเหตุการตาย วาฬบรูด้าเสียชีวิตจากการติดเครื่องมือประมงประเภทอวนลอยหรืออวนจมที่มีขนาดตาอวน 6 เซนติเมตร และกระแทกเข้ากับของแข็งไม่มีคมอย่างรุนแรง
กสิพล ศิริลาภ-เพชรบุรี