วันที่ (18 เมษายน 2562) เวลา 09.30 น. นายวันชัย คงเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด เข้ารับประทานผ้าไตรเพื่ออัญเชิญไปประกอบพิธีอุปสมบทเนื่องในโอกาสมหามงคลพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ณ พระวิหาร วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม กรุงเทพมหานคร
สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก (อัมพร อมฺพโร) ประทานวโรกาสให้เจ้าคณะจังหวัดกรุงเทพฯ ทั้งมหานิกาย และธรรมยุต ผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ กระทรวงศึกษาธิการ การทางพิเศษแห่งประเทศไทย องค์การเภสัชกรรม และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เข้าเฝ้ารับประทานผ้าไตร ในโครงการบรรพชา อุปสมบทเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลพระราชพิธีบรมราชาภิเษก รวมทั้งสิ้น 82 ไตร เพื่ออัญเชิญไปประกอบพิธีที่วัดซึ่งเป็นศูนย์กลางในการจัดพิธีฯ ทั่วประเทศ
โอกาสนี้ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก (อัมพร อมฺพโร) ประทานพระสัมโมทนียกถา ความตอนหนึ่งว่า “การบรรพชาอุปสมบทในพระพุทธศาสนา เป็นการเพิ่มพูนศาสนทายาทให้ทวีจำนวนขึ้น นับเป็นกุศลอันยิ่งใหญ่ เพราะก่อนจะเข้ามาเป็นพระภิกษุในพระธรรมวินัย ผู้ขอบวชต้องตั้งจิตไว้ที่ ‘ศรัทธา’ อันแน่วแน่มั่นคงต่อพระรัตนตรัย เล็งเห็นประโยชน์ของการสละบ้านเรือนออกมาเป็นบรรพชิต ผู้มีวิถีปฏิบัติในทางขัดเกลากิเลส เพราะฉะนั้น จึงขอให้ท่านผู้จัดโครงการนี้ ทำความเข้าใจกับผู้สมัครเข้าบรรพชาอุปสมบท ให้ตระหนักรู้อย่างถ่องแท้ ถึงวัตถุประสงค์ของการออกจากกาม ที่เรียกว่า ‘เนกขัมมะ’ ว่าเป็นการปลดเปลื้องตนออกจากโลกียวิสัย ไปสู่การศึกษาทางพระพุทธศาสนา ได้แก่ การอบรมกายวาจาให้สมบูรณ์ในศีล การเจริญสมาธิ และการอบรมเพิ่มพูนปัญญา มิใช่เป็นเรื่องการบวชเล่น หรือบวชตามๆ กัน ซึ่งไม่ก่อประโยชน์อันแท้จริงแต่อย่างใด หากผู้ขอบวช เข้าใจวัตถุประสงค์แห่งการบวชอย่างถูกต้อง และพากเพียรประพฤติตนอยู่ในกรอบของพระธรรมวินัยอย่างเคร่งครัด ตลอดเวลาที่อยู่ในสมณเพศ ถึงแม้บวชอยู่เพียงชั่วระยะเวลาอันสั้น แต่บุญกุศลก็ย่อมบังเกิดขึ้นได้อย่างมหาศาล บุญอันเป็นชื่อของความสุขนี้เอง ย่อมจะจรรโลงใจผู้บวช และช่วยชูน้ำใจของญาติมิตร ตลอดจนสมาชิกของชุมชน เผื่อแผ่ไปถึงสังคมประเทศชาติ ให้รู้สึกปลาบปลื้มอนุโมทนา บังเกิดเป็นความสุขที่จะแผ่ครอบคลุมไปทั่วราชอาณาจักร สมพระราชปณิธานของสมเด็จบรมบพิตร พระราชสมภารเจ้า ที่ทรงปรารถนาให้พสกนิกรทั้งหลาย มีความสุขในบ้านเมืองอันสงบร่มเย็น อยู่ใต้พระบรมโพธิสมภาร ขอทุกท่านจงตั้งจิตอธิษฐาน ประมวลพลังแห่งความดีงามที่บังเกิดจากการบรรพชาอุปสมบทพระภิกษุเป็นจำนวนมากถึง 6,810 รูป ตามโครงการนี้ ถวายเป็นพระราชกุศลเฉลิมพระบารมี ฉลองพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐของประชาชาติไทย”
ในการนี้ พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) กล่าวว่า ที่ประชุมมหาเถรสมาคม(มส.) มีมติเห็นชอบให้จัดโครงการนี้ โดยจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 2-16 พ.ค. รวม 15 วัน โดยเชิญชวนข้าราชการ และประชาชนทั่วไปสมัครเข้าร่วมโครงการ เพื่อแสดงออกถึงความจงรักภักดี สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ และเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร