ข่าวรัฐสภา

กมธ.การเศรษฐกิจฯ วุฒิสภา จัดสัมมนารับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เพื่อจัดทำเป็นข้อเสนอเชิงนโยบายเสนอต่อรัฐบาล

กมธ.การเศรษฐกิจฯ วุฒิสภา จัดสัมมนารับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เพื่อจัดทำเป็นข้อเสนอเชิงนโยบายเสนอต่อรัฐบาล

.
วันที่ 30 ตุลาคม 2566 เวลา 09.30 นาฬิกา ณ ห้องประชุม 402–403 ชั้น 4 อาคารรัฐสภา (ฝั่งวุฒิสภา) คณะกรรมาธิการการเศรษฐกิจ การเงิน และการคลัง วุฒิสภา ร่วมกับ คณะกรรมาธิการการพัฒนาการเมือง และการมีส่วนร่วมของประชาชน วุฒิสภา และคณะกรรมการวิชาการของวุฒิสภา จัดเสวนาแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ในหัวข้อ “นานาทัศนะกับนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท : เป้าหมายการกระตุ้นเศรษฐกิจภายใต้ความท้าทายและพลวัตที่เปลี่ยนแปลงไปของประเทศ” โดยมี นายศุภชัย สมเจริญ รองประธานวุฒิสภา คนที่สอง ในฐานะประธานกรรมการวิชาการของวุฒิสภา เป็นประธานในพิธีเปิด นายสมชาย หาญหิรัญ ประธานคณะกรรมาธิการการเศรษฐกิจ การเงิน และการคลัง วุฒิสภา กล่าวรายงาน และมี พลเอก สิงห์ศึก สิงห์ไพร รองประธานวุฒิสภา คนที่หนึ่ง สมาชิกวุฒิสภา ผู้บริหารของสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ผู้แทนจากหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน เข้าร่วม
.
นายศุภชัย สมเจริญ รองประธานวุฒิสภา คนที่สอง กล่าวว่า เป็นที่ทราบกันดีหนึ่งในนโยบายหาเสียงเลือกตั้งของพรรคเพื่อไทยซึ่งเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลและได้แถลงต่อรัฐสภาคือ นโยบายกระเป๋าเงินดิจิทัล โดยประชาชนทุกคนที่มีอายุ 16 ปี ขึ้นไปจะได้รับเงินดิจิทัล 10,000 บาท ผ่านกระเป๋าเงินดิจิทัลที่ถูกสร้างขึ้นโดยรัฐบาล โดยมีระบบบล็อกเชน (Blockchain) ที่เอื้อต่อการชำระเงินในรูปแบบใหม่ ซึ่งโครงการดังกล่าวนี้จะต้องใช้วงเงินประมาณ 5 แสนล้านบาท โดยรัฐบาลได้แต่งตั้ง “คณะกรรมการนโยบายโครงการเติมเงิน 10,000 บาท

ผ่าน Digital Wallet” ซึ่งมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน รวมทั้งได้มีการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนนโยบายเติมเงิน 10,000 บาทผ่านดิจิทัลวอลเล็ต ซึ่งมีรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังเป็นประธาน ขึ้นมาพิจารณาหาวิธีดำเนินการที่เหมาะสม อย่างไรก็ตาม ได้มีผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินการคลัง นักวิชาการ และคณาจารย์ด้านเศรษฐศาสตร์ ร่วมกันเรียกร้องให้รัฐบาลยกเลิกนโยบายดังกล่าว โดยมีความเห็นว่าประโยชน์ที่ประเทศจะได้รับนั้นน้อยกว่าต้นทุนที่เสียไปอย่างมาก นอกจากนี้ยังเป็นการสร้างบรรทัดฐานให้มีการแจกเงินเพื่อกระตุ้นให้คนจับจ่ายใช้สอยในระยะสั้นๆ โดยไม่คำนึงถึงวินัยและเสถียรภาพการคลังในระยะยาว ดังนั้น วุฒิสภาในฐานะสถาบันการเมืองที่มีความเป็นกลางจึงเป็นเวทีสำคัญในการจัดการเสวนาให้ทุกภาคส่วนได้มีโอกาสแลกเปลี่ยนความรู้ ประสบการณ์ รวมทั้งระดมความคิดเห็น ข้อสังเกต ข้อเสนอแนะ และแนวทางแก้ไขปัญหาต่างๆ อันจะนำไปสู่การจัดทำข้อเสนอเชิงนโยบายเพื่อเสนอให้รัฐบาลต่อไป
.
สำหรับการจัดสัมมนาในครั้งนี้ มีการเสวนาเรื่อง “นานาทัศนะกับนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท : เป้าหมายการกระตุ้นเศรษฐกิจภายใต้ความท้าทายและพลวัตที่เปลี่ยนแปลงไปของประเทศ” โดย นายพิชัย ชุณหวชิร ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ดร.พิสิฐ ลี้อาธรรม อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ดร.ศุภวุฒิ สายเชื้อ ที่ปรึกษากลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร และ ดร.ธนชาติ นุ่มนนท์ ผู้อำนวยการสถาบันไอเดีย เวิร์คส์ คอมมิวนิเคชั่น สถาบันไอเอ็มซี (IMC Institute) เพื่อร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นจากภาคส่วนต่างๆ เกี่ยวกับโครงการแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท มาสรุปและประมวลผลประกอบการพิจารณาศึกษาของคณะกรรมาธิการการเศรษฐกิจ การเงิน และการคลัง วุฒิสภา ร่วมกับ คณะกรรมาธิการการพัฒนาการเมือง และการมีส่วนร่วมของประชาชน วุฒิสภา และคณะกรรมการวิชาการของวุฒิสภา ในการจัดทำเป็นข้อเสนอเชิงนโยบายเสนอต่อรัฐบาล ซึ่งรัฐบาลจะได้นำไปประกอบการพิจารณาการดำเนินโครงการดังกล่าว เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชนและประเทศชาติต่อไป

ภาพ/ข่าว ฤทธิรณ ปัญญากาบ ทีมข่าวไทยเกอร์นิวส์ รัฐสภา รายงาน