กองบัญชาการควบคุมสถานการณ์ไฟป่าและหมอกควันภาคเหนือ กองทัพภาคที่ 3 ส่วนหน้า ปฐมนิเทศชุดรณรงค์และแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควัน ประจำปี 2563 ที่จังหวัดเชียงใหม่หวังประชาชน ในพื้นที่แสดงพลังในการเฝ้าระวัง และควบคุมการเกิดไฟป่าและหมอกควัน
เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2562 เวลา 09.00 น. พลตรี อำนาจ ศรีมาก รองผู้บัญชาการกองบัญชาการควบคุมสถานการณ์ไฟป่าและหมอกควันภาคเหนือ กองทัพภาคที่ 3 ส่วนหน้า เป็นประธานเปิดการอบรมปฐมนิเทศชุดรณรงค์ป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควัน ประจำปี 2563 โดยมี พันเอก กฤติ พันธะสา เสนาธิการมณฑลทหารบกที่ 39 , พันโท ทรงสิทธิ์ รอดสการ ผู้ช่วยนายทหารฝ่ายกิจการพลเรือน กองทัพภาคที่ 3 , ร้อยตรี หญิง ช่อเอี้อง สาสังข์ หัวหน้าส่วนประชาสัมพันธ์ กองบัญชาการควบคุมสถานการณ์ไฟป่าและหมอกควันภาคเหนือ กองทัพภาคที่ 3 ส่วนหน้า เข้าร่วม ณ สโมสรกาวิละ ค่ายกาวิละ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ โดยมีชุดรณรงค์ป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควันภาคเหนือ จำนวน 9 ชุด เข้าร่วมรับการปฐมนิเทศในครั้งนี้
สำหรับการปฐมนิเทศชุดรณรงค์ในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างองค์ความรู้ในเรื่องของสถานการณ์ไฟป่าและหมอกควัน ค่าคุณภาพอากาศ ในพื้นที่ 9 จังหวัดภาคเหนือ และสร้างความเข้าใจในบทบาทและหน้าที่ของชุดรณรงค์ป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควัน ตลอดจนให้ชุดรณรงค์ได้รับทราบพื้นที่ปฏิบัติการ และจัดทำแผนปฏิบัติการให้สอดคล้องกัน โดยเฉพาะพื้นที่เสี่ยงของแต่ละจังหวัด
รองผู้บัญชาการกองบัญชาการควบคุมสถานการณ์ไฟป่าและหมอกควันภาคเหนือ กองทัพภาคที่ 3 ส่วนหน้า กล่าวว่า จากสถานการณ์ไฟป่าและหมอกควัน ที่ผ่านมา ยังคงเป็นปัญหาสำคัญที่ต่อเนื่องมาหลายปีโดยเฉพาะพื้นที่ 9 จังหวัดภาคเหนือซึ่งรัฐบาลได้ประกาศเป็นวาระแห่งชาติ เมื่อปี 2560 ที่ต้องเร่งรัดแก้ไขปัญหา ซึ่งทุกส่วนราชการทั้ง ทหาร ตำรวจ และพลเรือน ในแต่ละจังหวัดได้ร่วมบูรณาการแก้ไขปัญหาตลอดมา จนปัญหาไฟป่าและหมอกควัน นั้นดีขึ้นตามลำดับ
อย่างไรก็ตามในทุกปี ชุดรณรงค์ฯ ของทหาร มีส่วนร่วมอย่างมาก ในการแก้ไขปัญหาระดับพื้นที่ โดยเข้าปฏิบัติการรณรงค์ประชาสัมพันธ์ ให้กับประชาชนรู้ถึงผลกระทบของไฟป่าและหมอกควัน รวมทั้งการร่วมมือร่วมใจกันแก้ไขปัญหาต่างๆ
โดยในปีนี้ พลโท ฉลองชัย ชัยยะคำ แม่ทัพภาคที่ 3 ต้องการให้ ชุดรณรงค์ เพิ่มความเข้มข้นในการปฏิบัติการรณรงค์และประชาสัมพันธ์ สร้างเครือข่ายภาคประชาชน โดยเฉพาะพื้นที่เสี่ยง และเกิดไฟไหม้ซ้ำซาก ตลอดจนให้ประชาชนได้ออกมามีส่วนร่วมในการเฝ้าระวัง แจ้งเตือน ร่วมดับไฟป่า และสร้างความตระหนัก โดยใช้หอกระจายข่าวชุมชน ให้มากขึ้น เพื่อให้ชุมชน ตำบล จนถึงระดับอำเภอ สามารถที่จะควบคุมและกำกับดูแล ปัญหาไฟป่า
และหมอกควัน ให้ได้อย่างมีประสิทธิภาพมาก
ด้าน พันโท ทรงสิทธิ์ รอดสการ ผู้ช่วยนายทหารฝ่ายกิจการพลเรือนกองทัพภาคที่ 3 เปิดเผยว่า กองทัพภาคที่ 3 ได้ดำเนินการขับเคลื่อนนโยบาย การป้องกันและการแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควัน ของ 9 จังหวัดภาคเหนือ พร้อมสนับสนุนทรัพยากรทางการทหาร ในการแก้ไขปัญหาการจัดประชุม ได้เชิญผู้ว่าราชการจังหวัด 9 จังหวัดและส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมการประชุมเพื่อชี้แจงแผนการดำเนินงานของ 9 จังหวัดภาคเหนือ ประกอบด้วย จังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา แพร่ น่าน แม่ฮ่องสอน และจังหวัดตาก ทั้งนี้ การดำเนินงานแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควันภาคเหนือ ปี 2563 ทุกภาคส่วนจะต้องบูรณาการทำงานร่วมกันอย่างเป็นระบบ โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัด เป็น Single Command เพื่อให้การแก้ไขปัญหาเป็นไปในทิศทางเดียวกัน ซึ่งจะแก้ปัญหาการเผาในทุกพื้นที่ ทั้งพื้นที่ป่า, พื้นที่ทางการเกษตร, พื้นที่ชุมชน และพื้นที่ 2 ข้างทาง รวมถึงควบคุมไม่ให้ปริมาณฝุ่นละอองสูงเกินเกณฑ์มาตรฐาน เพื่อสุขภาพที่ดีของประชาชนในพื้นที่ ที่สำคัญทุกภาคส่วนต้องสร้างการรับรู้ สร้างความเข้าใจให้เกิดความตระหนัก ตั้งแต่เนิ่นๆก่อนจะเกิดเหตุการณ์ โดยปรับรูปแบบข้อมูลและสถานการณ์ให้เข้าใจง่าย เพื่อเป็นข้อมูลชุดเดียวกัน โดยไม่ให้เกิดความสับสน และดำเนินการสื่อสารอย่างต่อเนื่อง ก่อให้เกิดความร่วมมือ ในการแก้ไขปัญหาอย่างทันท่วงทีและยั่งยืนต่อไป