นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ว่าที่ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ กล่าวว่า ทราบข่าวจาก คสช. แจ้งว่า ที่ประชุม คสช.ได้หารือถึงการคลายล็อกให้พรรคทำกิจกรรมทางการเมืองได้ในช่วงเดือน ก.ย.-ธ.ค.2561 หลังจาก พรป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.ประกาศในราชกิจจานุเบกษา จะมีการแก้คำสั่งประมาณ 9 เรื่อง อาทิ เรื่องทุนประเดิม 1 ล้านบาทใน 180 วัน การหาสมาชิก 500 คนใน 6 เดือน โดยจะแก้เป็นนับจากคำสั่งนี้ออกไป ส่วนการมีสมาชิก 5 พันคนใน 1 ปีและ 1 หมื่นคนใน 4 ปี แก้เป็น 180 วัน และ 4 ปี นับจากคำสั่งนี้ออกในราชกิจจานุเบกษา นอกจากนี้ยังให้พรรคทำกิจกรรมได้ในช่วง ก.ย.-ธ.ค. อาทิ ประชุมใหญ่แก้ข้อบังคับได้ เลือกตั้งหัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรค และกรรมการพรรค ประชุมพรรคเพื่อเปิดสาขาพรรคหรือจัดตั้งตัวแทนพรรคได้ แต่ห้ามประชุมก่อม็อบ เริ่มหาสมาชิกพรรคใหม่ได้โดยการรับสมาชิกให้ใช้ไลน์ได้ เพื่อเป็นหลักฐานในการสมัคร พรรคจัดให้มีกรรมการสรรหาได้เพื่อสรรหาคนมาลงเลือกตั้ง โดยมีกรรมการสรรหา 11 คนเพื่อไปหาคนมาเลือกตั้งแทนไพรมารีโหวตซึ่งถือเป็นไพรมารีโหวตในการเลือกตั้งครั้งนี้ สำหรับไพรมารีโหวตเต็มรูปแบบให้ทำในการเลือกตั้งครั้งต่อไป และ กกต.จะหารือกับพรรคเพื่อแบ่งเขตเลือกตั้ง อย่างไรก็ตาม ห้ามพรรคหาเสียงโดยเด็ดขาด
นายมงคลกิตติ์ กล่าว ส่วนตัวก็เห็นด้วยกับแนวทางของ คสช ที่จะให้พรรคการเมืองทำไพรมารี่โหวตเต็มรูปแบบในครั้งหน้าไม่ใช่ครั้งนี้ในปี 2562 เพราะปัจจุบันประเทศไทยจะต้องรอให้ประชาชนส่วนใหญ่ กว่า 40 ล้านคน ต้องมีฐานะความเป็นอยู่ที่ดูแลตนเองและครอบครัวได้ โดยไม่ต้องพึ่ง ระบบอุปถัมภ์ ผ่าน อดีต สส อดีต รมต กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน นายก อบต องค์ความรู้เรื่องประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข ที่มาพร้อมกับความรับผิดชอบ สามารถแยกแยะ ถูก ผิดผลกระทบต่างๆจาก จากนโยบาย ผ่านพรรคการเมือง ตัวผู้สมัคร สส แบบ แบ่งเขต-บัญชีรายชื่อ และ มีจิตใจหนักแน่นไม่หวั่นไหวต่อระบบทุจริตผ่านการทำไพรมารี่โหวตแบบไม่บริสุทธิ์ หรือ การลงคะแนนเลือกตั้ง ส่วนประเด็นที่ตัวแทน พรรคเพื่อไทย และ พรรคประชาธิปัตย์ ออกมาต่อว่าหรือเห็นแย้ง คสช.นั้น ผมมองว่า ทั้ง 2 พรรค ไม่เห็นจะต้องเดือดร้อนอะไรเลย เพราะไม่ว่าจะทำไพรมารี่โหวตเต็มรูปแบบในครั้งนี้หรือสรรหาผู้สมัคร สส แบบแบ่งเขต-บัญชีรายชื่อ คล้ายแบบเดิมหรือไพรมารี่โหวตแบบไม่เต็มรูปแบบ ทั้ง 2 พรรคจัดทัพกระบวนการได้อยู่แล้ว เพียงแต่ชอบหาเหตุหาเรื่องแบบจับสาระไม่ได้ อีกอย่างคนไทยประมาณ 30% ชอบฟังมากกว่าอ่านหนังสือแบบคิดวิเคราะห์ หรือ คิดน้อย จึงเชื่อชนชั้นนำของแต่ละพรรคง่ายเกินไป
นายมงคลกิตติ์ กล่าวเสริมว่า ประชาชนอีกส่วนหนึ่งจำนวนไม่น้อยมีความพร้อมเรื่อง ประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข อยากทำเต็มที่ แต่ยังไม่มีความพร้อมเรื่อง ปากท้อง ฐานะ ยังจำเป็นต้องถูกสภาพถูกบังคับทางสังคมระบบทุนนิยมอยู่ เพราะฉะนั้นเราจะต้องทำให้ประชาชนมีความเข็มแข็งเรื่อง ปากท้อง ฐานะ ปัจจัยขั้นพื้นฐาน ไม่ว่า อาหาร เครื่องนุ่งห่ม ที่อยู่อาศัย ยารักษาโรค การศึกษา ความยุติธรรม ก่อน ประชาชนถึงจะมีความพร้อมเต็มที่กับการทำไพรมารี่โหวตแบบบริสุทธิ์ทั้ง กาย ใจ ตามระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข
ด้าน นางสาว ภคอร จันทรคณา(บุตรสาว นางนัยนา ชีวานันท์ อดีตดาราชื่อดัง) ว่าที่ โฆษกพรรคไทยศรีวิไลย์ กล่าวว่า ช่วงสัปดาห์หน้าแกนนำว่าที่ พรรคไทยศรีวิไลย์ จะมีการปรึกษาหารือกันภายในว่าจะให้ผู้ร่วมก่อตั้งพรรคฯในแต่ละจังหวัด เสนอชื่อตัวแทนที่จะลงสมัคร สส แบบแบ่งเขต ทั้ง 350 เขต เสนอชื่ออย่างน้อยเขตเลือกตั้งละ 3 ราย เพื่อมาสำรวจคะแนนนิยม ผลงานทำความดีหรือประโยชน์ส่วนรวมในอดีต ความรู้ การศึกษา อาชีพ ความตั้งใจทำงานการเมืองมาประเมินผลเป็นระยะๆจนถึงวันใกล้ลงสมัครรับเลือกตั้ง สส กรรมการสรรหาจึงจะตัดสินใจอีกทีหนึ่ง