“ เร่งค้นหา ” ทหาร มทบ.32 ปฏิบัติการด่วนค้นหาหญิงพิการ พลัดหลงป่าเมืองปาน ลำปาง คาด..ยังมีชีวิตอยู่
เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2561 เวลา 08.30 น. กองกำลังรักษาความสงบจังหวัดลำปาง โดย กองร้อยรักษาความสงบที่ 1 มณฑลทหารบกที่ 32 ในพื้นที่ อำเภอเมืองปาน จังหวัดลำปาง ได้รับแจ้งเหตุจาก นายเที่ยง ปันดี ผู้ใหญ่บ้าน บ้านไร่ หมู่ที่ 4 ตำบลหัวเมือง อำเภอเมืองปาน จังหวัดลำปาง เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางชาวบ้าน หมู่บ้าน บ้านไร่ หมู่ 4 ตำบลหัวเมือง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอเมืองปาน , เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจเมืองปาน, ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยสาขาวังเหนือ , เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน และเจ้าหน้าที่กู้ภัยร่มไทรสาขาเมืองปาน ระดมกำลังเดินเท้าเข้าป่าชุมชน พื้นที่ ตำบลหัวเมือง อำเภอเมืองปาน ทำการค้นหาหญิงชาวเขาเผ่ามูเซอ ทราบชื่อ นางผิว บาหลา อายุ 74 ปี อยู่บ้านเลขที่ 194 หมู่ 4 ตำบลหัวเมือง อำเภอเมืองปาน จังหวัดลำปาง ซึ่งเป็นผู้พิการทางการได้ยิน ที่หายไปในป่าชุมชนซึ่งไม่ห่างจากหมู่บ้านมากนัก หลังเข้าไปหาของป่าเมื่อวานนี้ (30 สิงหาคม 2561 เวลา 08.30 น.) โดยชาวบ้านได้ร่วมออกค้นหาจนเมื่อเวลา 18.30 น.
ต่อมา เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2561 เวลา 09.00 น. นายเอกศักดิ์ บุญพา ปลัดอำเภอหัวหน้ากลุ่มงานบริหารงานปกครอง รับมอบหมายจาก นายอำเภอเมืองปาน ให้เป็นหัวหน้าชุดในการค้นหา ร่วมกับ กำลังพลจากกองร้อยรักษาความสงบที่ 1 มณฑลทหารบกที่ 32 ,ส่วนราชการ หน่วยงาน ,อาสาสมัคร และชาวบ้าน จำนวน ประมาณ 50 คน เข้าพื้นที่ค้นหาอีกครั้ง
ด้าน นายเที่ยง ปันดี ผู้ใหญ่บ้าน กล่าวว่า ผู้ที่สูญหายไปไม่มีสถานะทางทะเบียนเนื่องจากเป็นชาวเขา แต่คนเรียกชื่อว่านางผิว ซึ่งเป็นผู้พิการทางการได้ยิน ได้ออกไปหาของป่าเมื่อเช้าวานนี้ (30 สิงหาคม 2561) จนกระทั่งช่วงเย็นได้มีญาติมาแจ้งตนเองว่านางผิวยังไม่เดินทางกลับบ้าน ตนพร้อมกับชาวบ้านได้เข้าตามหาตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมาแต่ก็ไม่พบ จนกระทั่งเช้านี้ได้รายงานให้ทางอำเภอทราบและได้มีการระดมกำลังกันออกตามหาแบบเดินเรียงหน้ากระดาน ซึ่งล่าสุดพบเพียงถุงใส่หน่อไม้และกองหน่อไม้อยู่ในป่าซึ่งญาติยืนยันว่าเป็นถุงที่นางผิวนำติดตัวไปหาของป่าจริง และผ้าโพกศีรษะ แต่ยังยืนยันไม่ได้ว่าเป็นของผู้สูญหายหรือไม่
ทั้งนี้ ผู้ใหญ่บ้าน เชื่อว่ายังมีชีวิตอยู่แต่อาจจะเดินพลัดหลงเข้าไปในป่าลึก ขณะเดียวกันทางเจ้าหน้าที่ได้มีการตั้งศูนย์ประสานงานที่ศาลาเอนกประสงค์ของหมู่บ้านเพื่อใช้ติดต่อประสานงานและประชุมวางแผนในการติดตามหาตัวต่อไปแล้ว ซึ่งกำลังพลจากกองร้อยรักษาความสงบที่ 1 มณฑลทหารบกที่ 32 ยังคงปฎิบัติการในการค้นหาผู้สูญหายและจะรายงานความคืบหน้าให้ทราบต่อไป