วันนี้ (31 กรกฎาคม 2562) เวลา 11.30 น. นายวันชัย คงเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการสัมมนาเชิงวิชาการเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารงานขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในเขตพื้นที่จังหวัดร้อยเอ็ด ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 ครั้งที่ 5 ณ ห้องประดับฟ้า โรงแรมเพชรรัชต์การ์เด้น อำเภอเมืองร้อยเอ็ด จังหวัดร้อยเอ็ด โดยมี ดร.รณวริทธิ์ ปริยฉัตรตระกูล สมาชิกวุฒิสภา นายธีระชัย แสนภูวา ท้องถิ่นจังหวัดร้อยเอ็ด ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและบุคลากรองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเข้าร่วม
องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เป็นหน่วยงานที่มีความสำคัญอย่างยิ่งในการทำหน้าที่เป็นกลไกการขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศ เนื่องจากเป็นรากฐานการพัฒนาในระบอบประชาธิปไตยและเป็นหน่วยงานภาครัฐที่มีความใกล้ชิดกับประชาชนมากที่สุดในชุมชนท้องถิ่น จึงเป็นความคาดหวังของประชาชนต่อประสิทธิภาพการบริหารงานขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ตามอำนาจหน้าที่ในการให้บริการสาธารณะ เพื่อแก้ไขปัญหาและตอบสนองความต้องการของประชาชนในชุมชน กระทรวงมหาดไทย โดยกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ซึ่งมีสำนักงานส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นจังหวัดร้อยเอ็ด ทำหน้าที่ประสานงานและปฏิบัติหน้าที่ในฐานะตัวแทนของกระทรวงมหาดไทยและกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ในราชการส่วนภูมิภาค ในการกำกับ ดูแล และสนับสนุนการปฏิบัติงานขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และสามารถตอบสนองความต้องการของประชาชนอย่างทั่วถึงสำนักงานส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นจังหวัดร้อยเอ็ด จึงได้จัดทำโครงการ “สัมมนาเชิงวิชาการเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารงานขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในเขตพื้นที่จังหวัดร้อยเอ็ด ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 ครั้งที่ 5” โดยมีกลุ่มเป้าหมายคือ นายกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ปลัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบเกี่ยวกับการจัดทำข้อบัญญัติ เทศบัญญัติงบประมาณรายจ่าย จากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่จังหวัดร้อยเอ็ด จำนวน 400 คน
ในการนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ดได้เน้นย้ำว่า “ในขณะนี้ได้เกิดปัญหาฝนทิ้งช่วงในหลายพื้นที่อย่างกว้างขวาง ทำให้เกษตรกรและประชาชนได้รับความเดือดร้อนเป็นจำนวนมาก เพื่อเป็นการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยแล้ง และการให้ความช่วยเหลือประชาชนเป็นไปด้วยความเรียบร้อย กระทรวงมหาดไทยและกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ได้แจ้งแนวทางปฏิบัติ สำหรับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในการให้ความช่วยเหลือประชาชนในการแก้ไขปัญหาภาวะผลทิ้งช่วง โดยขอความช่วยเหลือจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ใกล้เคียง หรือหากมีปัญหามากขึ้นให้ขอความช่วยเหลือไปทางจังหวัดโดยผ่านทางอำเภอ”