นิตยสารตำรวจ สถานีประชาชน

ผบ.ตร.ยันช่วงปีใหม่เจ้าหน้าที่คุมสถานการณ์และดูแลชีวิตพี่น้องชาวใต้ได้

https://www.youtube.com/watch?v=D2582DRfvsE&feature=youtu.be

ผบ.ตร.ยันช่วงปีใหม่เจ้าหน้าที่คุมสถานการณ์และดูแลชีวิตพี่น้องชาวใต้ได้

เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 30 ธ.ค. 61 พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. และคณะ ได้เดินทางมายังกองบังคับการตำรวจภูธร จ.นราธิวาส เพื่อประชุมร่วมกับ พล.ท.พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพภาค 4 และ พล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ ผบช.ภ.9 พร้อมด้วยผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธร และเจ้าหน้าที่ชุดคลี่คลายคดีความมั่นคง รวม 30 นาย ในการประชุมติดตามความคืบหน้าเหตุคนร้ายวางระเบิดเสาไฟฟ้า บุกโจมตีฐานปฏิบัติการชุดคุ้มครองตำบลกาลิซา ลอบวางระเบิดรางรถไฟรวมทั้งการดักซุ่มยิงเจ้าหน้าที่ทหารพราน กองร้อยทหารพรานที่ 4905 ซึ่งเกิดขึ้นในช่วงระหว่างวันที่ 28 ธ.ค. 61 ถึง วันที่ 29 ธ.ค. 61 ที่ผ่านมา ในพื้นที่ 6 อำเภอ คือ ระแงะ ศรีสาคร รือเสาะ จะแนะ ยี่งอและบาเจาะ ซึ่งมีเหตุการณ์สำคัญๆ จำนวน 13 จุด ซึ่งสร้างความสูญเสียต่อสิ่งสาธารณูปโภค โดยเฉพาะอย่างยิ่งสร้างความหวาดกลัวแก่ประชาชน โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลขึ้นปีใหม่

ซึ่งในที่ประชุม พล.ต.ต.ดุษฎี ชูสังกิจ ผบก.ภ.จว.นราธิวาส ได้กล่าวบรรยายสรุปเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น รวมทั้งความคืบหน้าทางคดี ซึ่งอยู่ในระหว่างการตรวจพิสูจน์พยานหลักฐานที่เก็บรวบรวมได้ยังจุดเกิดเหตุแต่ละแห่ง ที่ทางเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน 10 จ.ยะลา อยู่ในระหว่างการคัดแยกหมวดหมู่ของหลักฐานต่างๆ ที่ต้องนำเข้ากระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ซึ่งต้องใช้เวลาระยะหนึ่ง ส่วนกรณีทางคดีนั้นก็มีความคืบหน้าไปแล้วส่วนหนึ่งเช่นกัน

โดยแยกเป็นกลุ่มคนร้ายในพื้นที่ที่ร่วมก่อเหตุ คลังวัตถุระเบิดของคนร้ายที่ได้ลักลอบผลิตเป็นระเบิดล๊อตเดียวกัน ที่ได้ลักลอบนำไปแจกจ่ายให้กับสมาชิกแนวร่วมในแต่ละพื้นที่ใช้ก่อเหตุ โดยมีคนร้ายระดับแกนนำเป็นคนสั่งการและประชุมวางแผน ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้สืบสวนสอบสวนจนอยู่กลุ่มคนร้ายเกือบทั้งหมดแล้ว เป็นคนร้ายกลุ่มเดิมๆที่ใช้สมาชิกแนวร่วมรุ่นเก่าควบคุมการทำงานของสมาชิกแนวร่วมรุ่นใหม่ แต่ยังไม่สามารถที่จะเปิดเผยต่อสาธารณะชนได้เมื่อ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. รับทราบความคืบหน้าทางคดีในที่ประชุมแล้วเสร็จ ได้มีการมอบนโยบายการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ

โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลสงกรานต์ เพื่อเป็นการป้องปรามในการสกัดกั้นความเคลื่อนไหว ไม่ให้คนร้ายลอบก่อเหตุซ้ำ จนสร้างความสูญเสียต่อชีวิตของเจ้าหน้าที่ รวมทั้งเป็นการบ่อนทำลายด้านเศรษฐกิจการท่องเที่ยว โดยให้เจ้าหน้าที่ทุกพื้นที่ร่วมสนธิกำลังกับเจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายปกครองรวมทั้งภาคประชาชน ปฏิบัติหน้าที่ที่รับมอบหมายให้จริงจังมีความเข้มแข็งและสอดคล้องกัน ซึ่งต้องมีหัวหน้าชุดที่ได้มีการจัดตั้งขึ้นด้วยความยอมรับของทุกบุคคล

จึงจะสามารถสั่งการและควบคุมการปฏิบัติงานได้ โดยเฉพาะพื้นที่ อ.เศรษฐกิจ อาทิ สุไหงโก-ลก ตากใบและเมืองนราธิวาส ห้ามทีเหตุร้ายเกิดขึ้นอย่างเด็ดขาดในใจกลางเมืองต่อมา

 

พล.ต.อ.จักรทพิย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.และคณะ ได้เดินทางโดยเฮลิคอปเตอร์ไปยังฐานปฏิบัติการชุดคุ้มครองตำบลกาลิซา อ.ระแงะ จ.นราธิวาส เพื่อดูจุดเกิดเหตุคนร้ายพร้อมอาวุธปืนครบมือ จำนวนกว่า 20 คน บุกโจมตีฐานในช่วงคืนของวันที่ 28 ธ.ค. 61 ที่ผ่านมา ซึ่งเจ้าหน้าที่ชุด ชคต.มีจำนวน 3 ชุดปฏิบัติการ ทั้ง อาสารักษาดินแดน เจ้าหน้าที่ทหารพราน และเจ้าหน้าที่ป่าไม้ ซึ่งสามารถรักษาที่ตั้งเอาไว้ได้ แถมได้ปะทะตอบโต้กับกลุ่มคนร้ายจนต้องนำกำลังล่าถอยไป พร้อมดูจุดเกิดเหตุต่างๆ ที่กลุ่มคนร้ายได้โจมตี รวมทั้งได้มอบเครื่องอุปโภคบริโภคและเงินจำนวนหนึ่ง เพื่อเป็นขวัญกำลัง โดยขอชื่นชมทุกคนที่มีหัวใจเข้มแข็ง มีความตั้งหมั่นที่จะปกป้องรักษาบ้านเมือง เพื่อให้ประชาชนได้อยู่อย่างสันติโดย พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ได้เปิดเผยกรณีการเกิดเหตุร้ายขึ้นบ่อครั้งในพื้นที่ภาคใต้ในระยะนี้ โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลปีใหม่ ว่า เราสามารถที่จะดูแลและคุ้มครองพี่น้องประชานให้มีความสุข ปลอดภัยจากภัยคุกคามต่างๆ เขาขอยืนยันไม่ว่าท่านนายกรัฐมนตรีและท่านประวิตร วงศ์สุวรรณ ท่านได้ให้นโยบายทั้งทหารตำรวจและฝ่ายปกครองให้ทำงานคู่ขนานกันไป ให้ดูแลความปลอดภัยชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชน ไม่ว่าจะไทยพุทธมุสลิม เช่นเหตุการณ์เมื่อคืนเราสามารถต่อสู้จนคนร้ายไม่สามารถทำอะไรได้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ของรัฐสามารถดูแลประชาชนได้ไม่ว่าจะอยู่ไกล และยังยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ของรัฐสามารถที่จะดูแลพี่น้องประชานได้ ผมไม่ได้ท้าทายน่ะ

นราธิวาส/ภาพ/ข่าว-นูอารีซ๊ะ ยะยือริ