ศรีสะเกษ ไฟไหม้ร้านขายของชำเฒ่าวัย 70 ปี โดนไฟไหม้ใบหน้าหวิดดับคาบ้าน ทองเงินเก่าบ้านเสียหายกว่า 700,000 บาท ปภ.และดร.กัลยาณี นำสิ่งของไปซับน้ำตาให้การช่วยเหลือเจ้าของบ้านที่ถูกไฟไหม้ทันที
เมื่อวันที่ 29 ต.ค. 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านเลขที่ 2 หมู่ 2 บ้านหนองแคน ต.ขะยูง อ.อุทุมพรพิสัย จ.ศรีสะเกษ ได้เกิดเพลิงไหม้ที่บริเวณชั้นบนของบ้าน ซึ่งบริเวณชั้นล่างได้เปิดเป็นร้านขายของชำและขายอาหาร โดยเพลิงได้ลุกไหม้อย่างรวดเร็วมาก ชาวบ้านที่อาศัยอยู่บริเวณใกล้เคียงได้ช่วยกันนำเอาน้ำมาสาดเพื่อดับไฟ แต่ว่าไม่สามารถที่จะควบคุมเพลิงเอาไว้ได้ ชาวบ้านจึงได้ช่วยกันเข้าไปนำเอาร่างของ นายวาน ธรรมเนียม อายุ 70 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของบ้านที่โดนไฟไหม้บริเวณใบหน้าทั้งหมดและเป็นลมหมดสติอยู่บริเวณบันไดออกมาจากตัวบ้าน พร้อมทั้งได้ช่วยกันขนเอาทรัพย์สินส่วนหนึ่งออกมาจากตัวบ้าน ต่อมา ได้มีรถดับเพลิงของ อบต.ขะยูง มาช่วยกันดับเพลิง ใช้เวลาประมาณ 45 นาที จึงสามารถควบคุมเพลิงเอาไว้ โดยพบว่า ไฟไหม้ชั้นบนของบ้านเสียหายทั้งหมด ข้าวของทรัพย์สินต่างๆ โดนไฟไหม้เสียหายไม่เหลือสภาพเดิม โดยบ้านที่อยู่ใกล้เคียงโดนไฟไหม้ด้วยแต่ได้รับความเสียหายเล็กน้อยเนื่องจากมีการฉีดน้ำป้องกันไม่ให้ไฟลามเข้าไปไหม้บ้านได้
ต่อมา นายพีระพงศ์ หมื่นผ่อง หน.สนง.ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.ศรีสะเกษ พร้อมด้วย ดร.กัลยาณี ธรรมจารีย์ นายกสมาคมส่งเสริมเครือข่ายการท่องเที่ยวศรีสะเกษและนักสังคมสงเคราะห์ศรีสะเกษ และคณะ ได้นำเอาเครื่องอุปโภคบริโภค ที่นอน หมอนมุ้ง ข้าวสารอาหารแห้ง มามอบให้กับนายวาน ซึ่งได้มารับมอบสิ่งของด้วยตนเอง คณะที่นำเอาสิ่งของมามอบให้ได้พบว่า นายวานโดนไฟไหม้บริเวณใบหน้า ปาก ใบหู เส้นผม และมือขวาโดนไฟไหม้ ได้รับบาดเจ็บ จากนั้น ปภ.ศรีสะเกษและคณะ ได้นำเอาสิ่งของไปมอบให้ นายใบ มังสาลี อายุ 85 ปี อยู่บ้านเลขที่ 32 หมู่ 2 ซึ่งบ้านอยู่ติดกันและบ้านโดนไฟไหม้เสียหายเล็กน้อย โดย ดร.กัลยาณี ได้ปีนบันไดบ้านที่สูงชันนำเอาสิ่งของขึ้นไปมอบให้ด้วยตนเอง จากนั้น นายวสุรัตน์ โพธิ์ศรี กำนัน ต.ขะยูง นายสยาม เพ็งพันธ์ ผญบ.หนองแคน และนายประมวล มากเมือง ส.อบต.ขะยูง ได้นำคณะ ปภ.ศรีสะเกษ ทำการตรวจสอบสภาพความเสียหายที่เกิดจากเพลิงไหม้บ้านครั้งนี้ เพื่อจะได้หาทางในการช่วยเหลือผู้ประสบเหตุเพลิงไหม้บ้านอย่างเต็มที่ต่อไป
นายวาน ธรรมเนียม อายุ 70 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของบ้าน ได้เล่าถึงวินาทีที่ได้เกิดเหตุเพลิงไหม้บ้านว่า ขณะนั้น เวลาประมาณ 06.00 น. ของวันนี้ (29 ต.ค.66) ตนนั่งอยู่ชั้นล่างของบ้านกับหลานสาวตัวเล็ก ๆ คนในบ้านพากันไปทำบุญที่วัดบ้านหนองแคนในวันออกพรรษากันหมด ต่อมาตนได้ยินเสียงเด็กที่มีบ้านอยู่ใกล้เคียงกันร้องบอกว่า มีเสียงดังปัง ๆๆๆ หลายครั้ง และมีไฟไหม้ที่ชั้นบนบ้านของตน ดังนั้น ตนจึงได้รีบลุกขึ้นวิ่งขึ้นบันไดบ้านเพื่อที่จะเข้าไปเอาทองคำหนัก 1 บาท และเงินสดที่เป็นเงินเก่าเก็บมีเลข 9 ทั้งหน้าและหลัง ซึ่งเป็นเงินสะสมไว้นานแล้ว รวมทั้งเงินสดจำนวนประมาณ 60,000 บาท เป็นเงินที่ตนจะนำเอาไปใช้หนี้ที่ไปจำนองข้าวเอาไว้ แต่ว่าพอตนเอื้อมมือเพื่อจะเปิดลูกบิดประตู ปรากฏว่า ลูกบิดประตูได้ร้อนมากจนลวกมือของตน ซึ่งตนได้พยายามดึงเปิดประตูออกได้ ทันใดนั้น เปลวไฟได้พวยพุ่งออกมาอย่างรวดเร็วมาก ทำให้เปลวไฟได้ไหม้บริเวณใบหน้าของตนทั้งหมด ตนได้พยายามคลานลงมาที่ชั้นล่าง สติได้ดับวูบไป จนกระทั่งมีชาวบ้านมาช่วยกันนำเอาตนออกมาจากบ้านที่กำลังถูกไฟไหม้อย่างรุนแรง และไฟได้ไหม้ชั้นบนเสียหายทั้งหมด ค่าเสียหายเป็นเงินสด เงินใหม่ เงินเก่า ทองคำรูปพรรณ และตัวบ้านที่โดนไฟไหม้ ค่าเสียหายประมาณกว่า 700,000 บาทเศษ สาเหตุคาดว่า เกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร
นายพีระพงศ์ หมื่นผ่อง หน.สนง.ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า นายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผวจ.ศรีสะเกษ มีความห่วงใยชาวบ้านที่โดนไฟไหม้บ้าน ดังนั้น จึงได้มอบให้ตนและคณะ นำเอาสิ่งของมาให้ความช่วยเหลือเบื้องต้น จากนั้น จะได้ประสานงานกับ อบต.ขะยูงและทุกส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเข้ามาให้การช่วยเหลือตามระเบียบของทางราชการ เพื่อซ่อมแซมบ้านเรือนให้นายวาน สามารถใช้เป็นที่พักอาศัยได้เช่นเดิมโดยด่วนที่สุด ซึ่ง ผวจ.ศรีสะเกษ ได้ฝากถึงประชาชนชาวศรีสะเกษทุกคนว่า ขณะนี้กำลังจะย่างเข้าสู่ฤดูหนาว อาจจะเกิดเพลิงไหม้ได้ง่าย ดังนั้น จึงขอให้ช่วยกันระมัดระวังการเกิดเพลิงไหม้อย่างเต็มที่ และหากเกิดเพลิงไหม้ให้แจ้ง อบต.ใกล้บ้านเพื่อจะได้เรียกรถดับเพลิงมาช่วยกันดับเพลิงอย่างเร่งด่วนที่สุด
ดร.กัลยาณี ธรรมจารีย์ นายกสมาคมส่งเสริมเครือข่ายการท่องเที่ยวศรีสะเกษและนักสังคมสงเคราะห์ ศรีสะเกษ กล่าวว่า ตนทราบข่าวว่า เกิดเหตุไฟไหม้บ้านหลังนี้ ดังนั้น จึงได้นำเอาเครื่องอุปโภคบริโภคที่นอน หมอน ผ้าห่ม และอาหารแห้งมามอบให้ เพื่อเป็นการให้ความช่วยเหลือเบื้องต้น และจะได้ช่วยประสานงานกับผู้ใจบุญเข้ามาให้การช่วยเหลือผู้ที่ถูกไฟไหม้บ้านอย่างเต็มที่ต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานต่อไปว่า ต่อมา ดร.กัลยาณี ธรรมจารีย์ นายกสมาคมส่งเสริมเครือข่ายการท่องเที่ยว ศรีสะเกษและนักสังคมสงเคราะห์ศรีสะเกษ และนายพีระพงศ์ หมื่นผ่อง หน.สนง.ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.ศรีสะเกษ ได้เดินทางไปยังบริษัท พีเค ซิตี้ทัวร์ อยู่ที่ อ.เมืองศรีสะเกษ ซึ่งเป็นบ้านของ ดร.กัลยาณี และได้นำเอาบัวหิมะ ซึ่งเป็นยาสมุนไพรที่ ดร.กัลยาณี ซื้อมาจากประเทศจีน บัวหิมะมีสรรพคุณในการรักษาบาดแผลที่ถูกเพลิงไหม้ น้ำร้อนลวก ดร.กัลยาณี ได้นำเอาบัวหิมะ มาทาให้กับนายวาน ด้วยตนเอง โดยก่อนที่จะทาบัวหิมะ ดร.กัลยาณี และ นายพีระพงศ์ ได้ช่วยกันทำความสะอาดบาดแผลที่โดนไฟไหม้จนสะอาด จากนั้น ได้นำเอาบัวหิมะทาที่บริเวณใบหน้า ใบหู และริมฝีปาก รวมทั้งฝ่ามือด้านขวา จนเสร็จเรียบร้อย โดย ดร.กัลยาณี ได้มอบบัวหิมะยาสมุนไพรคุณภาพเยี่ยมจากประเทศจีน จำนวน 1 กระปุกใหญ่ให้กับ นายวาน เพื่อจะได้ใช้ทารักษาบาแผลจนกว่าแผลจะหายเป็นปกติต่อไป
ภาพ / ข่าว บุญทัน ธัศรีวรรณ ผู้สื่อข่าวประจำ จ.ศรีสะเกษ