“ เกษตรอินทรีย์ปรัชญาที่ทันสมัย ” นักเรียนนายร้อย จปร. เยี่ยมชมดูงาน โครงการเดินตามรอยเท้าพ่อ ทภ.3 นำความรู้เกษตรอินทรีย์ขยายผล
พันเอก กิตติพงษ์ แจ่มสุวรรณ รองเสนาธิการกองทัพภาคที่ 3 ให้การต้อนรับ คณะนักเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า ข้าราชการ ส่วนการศึกษาโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า สาขาวิทยาการคอมพิวเตอร์ ชั้นปีที่ 2 และ 3 ประจำปีการศึกษาที่ 2 ปีการศึกษา 2561 จำนวน 54 นาย ในโอกาสที่เดินทางมาศึกษาดูงานเยี่ยมชมโครงการเดินตามรอยเท้าพ่อ (เกษตรอินทรีย์) กองทัพภาคที่ 3 ณ ค่ายสมเด็จพระเอกาทศรถ อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2561
ในการนี้ รองเสนาธิการกองทัพภาคที่ 3 นำ คณะนักเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า ข้าราชการ ส่วนการศึกษาโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า เยี่ยมชมศึกษาดูงานโครงการเดินตามรอยเท้าพ่อ (เกษตรอินทรีย์) กองทัพภาคที่ 3 ณ ค่ายสมเด็จพระเอกาทศรถ ซึ่งกองทัพภาคที่ 3 ได้สนองพระราชดำริของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ดำเนินการโครงการเดินตามรอยเท้าพ่อ (เกษตรอินทรีย์) กองทัพภาคที่ 3 เพื่อต้องการให้เป็นแหล่งเรียนรู้ ให้กับกำลังพลและครอบครัว รวมถึงประชาชนทั่วไป ได้เข้ามาศึกษา และนำความรู้ไปดำเนินการในพื้นที่ของตนเองให้เกิดประโยชน์ต่อไป และเพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ในการทำการเกษตร และเพื่อเผยแพร่หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร
โดยในพื้นที่ศูนย์การเรียนรู้เกษตรกรพอเพียงกองทัพภาคที่ 3 แบ่งออกเป็น 3 โครงการย่อย คือ การเกษตรกรรม มีการปลูกนาข้าว สำหรับกำลังพลและทดลองการพัฒนาพันธุ์ข้าวต่างๆ ด้านปศุสัตว์ มีการเลี้ยงเป็ด เลี้ยงปลา กบ หมู จิ๊งหรีด เพื่อเป็นอาหาร และนำไปจำหน่าย และด้านอื่น เช่นโรงสีชุมชน การทำปุ๋ยน้ำหมักชีวภาพ ต่างๆ ที่จะนำมาใช้ในเกษตรอินทรีย์ พืชผักปลอดสารพิษ รวมทั้งสัตว์เลี้ยงก็สามารถนำไปใช้ผลประโยชน์ร่วมกับ
สำหรับศูนย์เรียนรู้ตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ของกองพันทหารปืนใหญ่ที่ 104 กองทัพภาคที่ 3 ร่วมกับ ปตท.สผ. ได้น้อมนำแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ในเรื่องปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาปฏิบัติให้เห็นผลเป็นรูปธรรม โดยบูรณาการองค์ความรู้และความร่วมมือ เพื่อพัฒนาศูนย์การเรียนรู้ฯ ใช้เป็นต้นแบบการดำเนินโครงการ และเป็นแหล่งถ่ายทอดองค์ความรู้และวิธีปฏิบัติการทำการเกษตรทฤษฏีใหม่ ให้หน่วยทหาร กำลังพลและครอบครัว โดยได้เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่เดือนตุลาคม 2552 เริ่มจากปรับปรุงที่ว่างภายในหน่วยเนื้อที่ 1,000 ไร่ เพื่อจัดทำโครงการเศรษฐกิจพอเพียง ภายในศูนย์มีการดำเนินโครงการต่าง ๆจำนวน 19 โครงการ อาทิ การเลี้ยงโคเนื้อ การเลี้ยงจิ้งโกร่ง การเลี้ยงกบ การเลี้ยงหมูป่า การทำปุ๋ยไส้เดือน ผลิตน้ำส้มจากควันไม้ การปลูกผักปลอดสารพิษ การเลี้ยงปลา การเลี้ยงไก่ไข่ การเลี้ยงหมูหลุม การทำข้าวนาโยน โรงสีข้าวชุมชน โครงการเลี้ยงไก่เนื้อ-ไก่พื้นบ้าน เลี้ยงเป็ด การทำปุ๋ยหมักชีวภาพ ผลิต EM BALL โครงการเลี้ยงเป็ดไข่ ปลูกไผ่ในที่ว่างเลี้ยงจระเข้ และโครงการเครื่องอัดฟาง เป็นต้นโดยจะนำผลกำไรที่ได้รับ มาพัฒนาคุณภาพชีวิตทหารกองประจำการ และนำมาตั้งกองทุนสวัสดิการเพื่อช่วยเหลือกำลังพลในด้านต่าง ๆ รวมถึงพัฒนาองค์ความรู้เพื่อเผยแพร่แก่ประชาชนผู้สนใจต่อไป
จากนั้นเดินทางไปศึกษาดูงานและเยี่ยมชมศูนย์การเรียนรู้ตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงโครงการเดินตามรอยเท้าพ่อ เกษตรอินทรีย์ ของกองพันทหารม้าที่ 9 กองพลทหารราบที่ 4 ซึ่งเดิมเป็นพื้นที่รกร้าง สภาพเป็นดินเหนียว มีความเป็นกรดสูง ปลูกพืชไม่ได้ผล กรมพัฒนาที่ดิน ได้มาแนะนำวางแผนจัดรูปแปลงนา พร้อมปรับปรุงพื้นที่ และวางแผนบริหารการใช้น้ำและพื้นที่เพาะปลูกเพื่อให้เก็บเกี่ยวง่าย แล้วปรับปรุงบำรุงดินตามแนวพระราชดำริ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โดยใส่ปุ๋ยอินทรีย์ ปลูกปอเทือง และปูนโดโลไมด์ รวมทั้งปุ๋ยพืชสด จนสามารถปลูกพืชผักได้ ป้องกันโรคพืชและกำจัดศัตรูพืชโดยวิธีชีววิทยา ให้ความรู้เรื่องเมล็ดพันธุ์ และการปลูกพืชแบบอินทรีย์ และกรมชลประทาน มาขุดลอกแนวคลอง ขุดบ่อบำบัด และบ่อกักเก็บน้ำ 2 บ่อ เพื่อทำนาอินทรีย์ในพื้นที่ 50 ไร่เศษ ซึ่งการทำนาอินทรีย์ในความรับผิดชอบของกองพันทหารม้าที่ 9 เป็นการใช้พื้นที่ว่างเปล่าในหน่วยทหารให้เกิดประโยชน์ ดำเนินงานในพื้นที่ 150 ไร่ ใช้กำลังพลของหน่วยฯ ผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวอินทรีย์ ผลผลิตที่ได้ส่วนหนึ่งแบ่งให้กำลังพล อีกส่วนมอบให้แก่เกษตรกรที่ต้องการทำนาอินทรีย์ในฤดูกาลต่อไป นอกจากนี้ในบริเวณศูนย์การเรียนรู้ยังได้มีการเพาะเห็ด และเลี้ยงไก่พันธุ์พื้นเมือง เลี้ยงกระบือไทยแท้ การเลี้ยงโคไทยพื้นเมือง เพื่อขยายพันธุ์และนำมูลไปทำปุ๋ยอินทรีย์ และการเลี้ยงปลานิล เป็นต้น