ผบช.ภ.5 แถลงผลการจับกุมกลุ่มวัยรุ่นคู่อริ ก่อเหตุทะเลาะวิวาท เป็นเหตุให้มีผู้จมน้ำเสียชีวิต สภ.แม่ริม และการจับกุมผู้ต้องหาก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์ สภ.เมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่
เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2567 เวลา 13.00 น. ที่ห้องประชุมพระพุทธประทานยศบารมี ตำรวจภูธรภาค 5 อ.เมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่ พล.ต.ท.กฤตธาพล ยี่สาคร ผบช.ภ.5 แถลงข่าวการจับกุมกลุ่มวัยรุ่นคู่อริ ก่อเหตุทะเลาะวิวาท เป็นเหตุให้มีผู้จมน้ำเสียชีวิต พื้นที่ สภ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ และการจับกุมผู้ต้องหาก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์ พื้นที่ สภ.เมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่
คดีที่ 1 กรณีตำรวจ สภ.แม่ริมเชียงใหม่ จับกุมกลุ่มนักเรียนไทใหญ่พร้อมอาวุธมีด ไม้เบสบอล กว่า 20 คน ที่ยกพวกทำร้ายกัน จนทำให้นักเรียนคู่กรณีรถจักรยานยนต์ล้ม และกระโดดลงในคลองชลประทาน หนีจมน้ำเสียชีวิต 1 คน ตำรวจดำเนินคดี และจับกุมทั้ง 2 ฝ่าย ทั้งหมด 20 คน เป็นนักเรียนโรงเรียนเดียวกัน ในพื้นที่อำเภอแม่ริม ส่วนใหญ่อายุระหว่าง 14 – 18 ปี
โดยคลิปกล้องวงจรปิด กลุ่มนักเรียนอันธพาล ซึ่งเป็นนักเรียนโรงเรียนกัน ในพื้นที่อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ ฝ่ายถูกไล่มี 11 คน ฝ่ายที่ไล่ตามมี 10 คน ได้ขี่รถจักรยานยนต์ ไล่ทำร้ายกัน บริเวณถนนคลองชลประทาน ต่างคนต่างนำพรรคพวกมา มีทั้งมีดดาบ ไม้เบสบอล ระเบิดปิงปอง ปาใล่กัน เสียงดังสนั่น ขณะที่ฝ่ายขี่รถจักรยานยนต์หลบหนี และอีกฝ่ายขี่รถจักรยานยนต์ ไล่ติดตามมา จนมาถึงสะพานข้ามคลองชลประทาน แยกวัดทุ่งหัวช้าง อำเภอแม่ริม รถจักรยานยนต์ฝ่ายที่ขี่หนี แฉลบล้ม ทำให้ต้องวิ่งหนี จนทำให้นักเรียนชายชั้น ม.4 วิ่งหนีตาย และได้กระโดดลงน้ำ ในคลองชลประทาน และจมหายไป จนกระทั่งอีกวันพบเป็นศพ จมน้ำตาย และทางผู้ปกครอง ได้แจ้งความจนตำรวจ สืบสวน สภ.แม่ริม ติดตามจับกุม ผู้ก่อเหตุมาได้ ทั้ง 2 ฝ่าย จำนวน 20 คน
พล.ต.ท.กฤตธาพล ยี่สาคร ผบช.ภ.5 เปิดเผยว่านักเรียนทั้งหมด เป็นนักเรียนโรงเรียนเดียวกัน แต่เกิดเขม่นกันในโรงเรียน ต่างคนต่างยกพวก นัดมาทำร้ายกัน ส่วนใหญ่อายุระหว่างอายุ 14 – 18 ปี เบื้องต้นแจ้งข้อหาทั้งสองฝ่าย ชุลมุนต่อสู้กันทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และข้อหาที่ 2 ก่อความวุ่นวายในที่สาธารณะและพกพาอาวุธ จึงฝากเตือนไปถึงผู้ปกครองให้ดูแลบุตรหลานใกล้ชิด ซึ่งผู้ปกครองจะมีความผิดไปด้วย
คดีที่ 2 จับกุมคดีวิ่งราวทรัพย์ หลังตำรวจสืบสวนเมืองเชียงใหม่ จับกุมผู้ต้องหาได้ ชื่อนายทิวา อายุ 42 ปี ผู้ต้องหาคดีวิ่งราวกระเป๋าถือ ของนางสาว นิรินทร ผู้เสียหาย ขณะกำลังนั่งรับประทานก๋วยเตี๋ยวไก่คั่ว ย่านถนนท้ายวัง ในตัวเมืองเชียงใหม่ทรัพย์สินที่ได้ไปมีทั้งเงินไทย และดอลล่าสิงคโปร์ และของใช้ส่วนตัว และขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป เหตุเกิดกลางวัน ของวันที่ 28 สิงหาคมที่ผ่านมา ลักษณะคนร้าย สวมเสื้อกันฝนสีเขียว ขับขี่รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้ารุ่นเวฟ สีดำ-แดง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน โดยขี่มาจอดข้างโต๊ะทานอาหาร และฉกเอากระเป๋าผู้เสียหายหลบหนี
หลังรับแจ้งเหตุ ทางพันตำรวจเอก ปรัชญา ทิศลา ผู้กำกับการสภ.เมืองเชียงใหม่ได้สั่งการ ให้ชุดสืบสวนปากคำผู้เสียหาน และตามไล่กล้องวงจรปิด จนทราบว่าผู้ต้องหา มีภูมิลำเนาอยู่ในพื้นที่อำเภอบ้านโฮ่ง จังหวัดลำพูน จนกระทั้งติดตามจับกุมได้ ชื่อนายทิวา อายุ 42 ปี พร้อมของกลางกระเป๋าและทรัพย์สินของผู้เสียหาย โดยผู้ต้องหา รับสารภาพว่า ไม่เงินใช้หนี้ผ่อนชำระค่านำบ้านไปจำนองกับธนาคาร เพื่อเดินทางไปทำงานที่ประเทศเกาหลีใต้ แต่เมื่อเดินทางไปแล้วตม.เกาหลีไม่ให้เข้าประเทศ ทำให้ต้องเดินทางกลับ เงินที่นำไปจำนองบ้านก็หมดไปกับค่าเดินทาง ทำให้ไม่มีเงิน จึงตัดสินใจก่อเหตุ ตำรวจดำเนินคดี วิ่งราวทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะหรือรับของโจร.