“ธัญญา” ขึ้นเหนือติวเข้มถอดบทเรียนไฟป่า 9 จังหวัดเหนือตอนบน เล็งใช้โดรน ดาวเทียมจับความร้อน พร้อมจำกัดเชื้อเพลงสะสม เผยปีนี้ควบคุมสถานการณ์ได้ 100 % แล้ว ขอบคุณ “บิ๊กตู่-ท็อป” ห่วงใยป่าพรุภาคใต้ เตรียมลงพื้นที่ให้กำลังใจเจ้าหน้าที่
เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 30 สิงหาคม 2562 ที่โรงแรมเชียงใหม่แกรนด์วิว อ.เมือง จ.เชียงใหม่ นายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช เป็นประธานเปิดโครงการสัมมนาการควบคุมไฟป่า 2562 “ก้าวย่างสำคัญสู่อนาคต ลดไฟป่าและหมอกควัน” เพื่อเผยแพร่ความรู้ทางวิชาการและด้านกฎหมาย พิจารณาปรับปรุงแก้ไขมาตรการหรือแนวทางแก้ไขปัญหาที่ผ่านมา ให้เกิดประสิทธิภาพมากขึ้น ตลอดจนพัฒนาทางเทคโนโลยีให้ทันสมัย เพื่อการป้องกันและเตือนภัยล่วงหน้า ลดความรุนแรงปัญหาดังกล่าว มีนายจงคล้าย วรพงศธร รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช นายสมหวัง เรืองนิวัติศัย ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 (เชียงใหม่) พร้อมข้าราชการ เจ้าหน้าที่ เข้าร่วมกว่า 300 คน โดยใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมง ซึ่งการสัมมนา จัดถึงวันที่ 31 สิงหาคมนี้ รวม 2 วัน
นายธัญญา ให้สัมภาษณ์ว่า ปีนี้ปัญหาไฟป่าหมอกควันพื้นที่ 9 จังหวัดภาคเหนือนตอนบน และป่าพรุภาคใต้ ได้รับความเสียหายค่อนข้างมาก มีเจ้าหน้าที่เสียชีวิต ได้รับบาดเจ็บ รวมทั้งจิตอาสา จึงกลับมาทบทวนหาวิธีการใหม่ ๆ โดยใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ อาทิ โดรน ดาวเทียมของ GISTDA และจิตอาสา เพื่อเฝ้าระวังลาดตระเวนการลักลอบเผาป่า พร้อมจำกัดขยะหรือวัชพืชที่เป็นเชื้อเพลิงสะสม หลังเข้าสู่ฤดูฝนไม่กี่เดือน จะเข้าสู่ฤดูไฟป่าและหมอกควันแล้ว
“บทเรียนปีที่แล้วไม่สามารถนำมาใช้กับแผนป้องกันไฟป่าหมอกควันไม่ได้ ต้องปรับปรุงแก้ไขให้ดีกว่าเดิมอาจร่วมกับมือทาง GISTDA เพื่อจัดหาโดรน ที่สามารถจับความร้อน หรือจุดฮอตสปอตได้ พร้อมสร้างการรับรู้ ความเข้าใจกับประชาชน พร้อมรณรงค์ประชาสัมพันธ์โทษของการเกิดไฟป่า เพราะไม่ได้เสียหายเฉพาะพื้นที่ป่าเท่านั้น ยังรวมถึงพื้นที่เกษตรกรรมที่อยู่ใกล้เคียง และปัญหาสุขภาพ อาทิ โรคทางเดินหายใจ ซึ่งได้ถอดบทเรียนปัญหาพื้นที่ 9 จังหวัดภาคเหนือตอนบน และพื้นที่ป่าพรุภาคใต้แล้ว เพื่อให้ทุกพื้นที่ได้ถอดบทเรียนและเรียนรู้แก้ปัญหาร่วมกัน” นายธัญญา กล่าว
นายธัญญา กล่าวอีกว่า ในเร็ว ๆ นี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีจะลงพื้นที่ไปดูปัญหาของป่าพรุควนเคร็ง จ.นครศรีธรรมราช เพื่อไปให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน และให้นโยบายแก้ปัญหาแบบยั่งยืน ซึ่งปีนี้สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ 100 % แล้ว เนื่องจากมีมรสุมพัดผ่านและฝนตกเกือบทุกพื้นที่ แต่ไม่ได้ถอนกำลังออกจากพื้นที่ล่อแหล่ม หรือพื้นที่เสี่ยงที่เกิดไฟป่าซ้ำซาก โดยเฉพาะพื้นที่ป่าพรุภาคใต้ หากพื้นที่ไหนขาดแหล่งน้ำดับไฟจะทำให้เกิดปัญหาได้อีก ดังนั้นต้องร่วมมือทุกภาคส่วนแก้ปัญหาดังกล่าว
“ปัญหาดังกล่าว ต้องขอบคุณในความห่วงใยของ พล.อ.ประยุทธ์ นายวราวุธ ศิลปอาชารัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่ได้ประสานหน่วยงานเกี่ยวข้อง อาทิ ชลประทาน กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย ระดมเครื่องสูบน้ำช่วยดับไฟป่าพื้นที่ป่าพรุภาคใต้ ถ้าไม่มีน้ำดับยาก เนื่องจากมีซากวัชพืชทับถม 3 – 4 เมตร บางพื้นที่ต้องลากสายฉีดน้ำดับไฟยาวกว่า 3 – 4 กิโลเมตร ซึ่งปัญหาไฟป่าเกิดจากน้ำมือมนุษย์ 100 % รู้เท่าไม่ถึงการณ์ หาของป่า ล่าสัตว์ และจุดเผาทำลายวัชพืชพื้นที่การเกษตร ซึ่งไฟป่าของป่าพรุภาคใต้ เกิดจากจุดไฟเผาในพื้นที่สวนปาล์ม พื้นที่การเกษตร และเลี้ยงสัตว์ ทำให้ลุกลามเป็นบริเวณกว้าง ดังนั้นต้องใช้วิธีเฝ้าระวังเดินลาดตระเวนตลอด 24 ชั่วโมง โดยหมุนเวียสับเปลี่ยนกำลังเป็นผลัด ๆ ไป ” นายธัญญา กล่าว.
ทรงวุฒิ ทับทอง
