ข่าว สรุาษฎร์ธานี ข่าวรอบรั้วภูธร ข่าวเด่น

รมว.พลังงาน ติดตามข้อร้องเรียนกรณีการก่อสร้างโรงไฟฟ้าสุราษฎร์ธานี หลุดจากแผน PDP 2024 พร้อมทั้งติดตามราคาปาล์มน้ำมัน

นายเจษฎา จิตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี มอบหมายให้ นายบันดาล สถิรชวาล รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ให้การต้อนรับ นายพีรพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ในโอกาสลงพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยมี สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดสุราษฎร์ธานี ตลอดจน หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนในพื้นที่ รอต้อนรับเป็นจำนวนมาก และมีการถือป้ายแสดงออกถึงการสนับสนุนการก่อสร้างโรงไฟฟ้าในพื้นที่แทนโรงไฟฟ้าเก่าที่ได้รื้อถอนไปก่อนหน้านี้

ภารกิจแรกเป็นการลงพื้นที่ ที่บริเวณสร้างที่ก่อสร้างโรงไฟฟ้าสุราษฎร์ธานี ต.เขาหัวควาย อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี หลังได้รับรายงานจาก ส.ส. ในพื้นที่ว่า ประชาชนในพื้นที่ดังกล่าว มีความกังวลกรณีแผนการสร้างโรงไฟฟ้าสุราษฎร์ธานี ไม่ได้อยู่ในแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย พ.ศ. 2567-2580 (PDP 2024) ทั้งที่โรงไฟฟ้าสุราษฎร์ธานี ได้รับการอนุมัติบรรจุแผน PDP 2018 REV1 และได้ปรับพื้นที่พร้อมในการก่อสร้างแล้ว ซึ่งสหภาพแรงงาน กฟผ. และ ตัวแทนองค์การบริการส่วนตำบลทั้ง 6 แห่ง ของอำเภอพุนพิน เข้ายื่นหนังสือ “ขอให้นำแผนสร้างโรงไฟฟ้ากลับเข้า PDP 2024 ตามเดิม” ต่อรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน
นางณิชารีย์ กิตตะคุปต์ ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า การสร้างโรงไฟฟ้าสุราษฎร์ธานีได้ผ่านการศึกษาด้านความมั่นคงของการใช้ไฟฟ้าในพื้นที่ภาคใต้ซึ่งปัจจุบันในภาคใต้ไฟไม่เพียงพอต้องนำส่งไฟฟ้ามาจากภาคกลางหากไม่มีการสร้างโรงไฟฟ้าแห่งนี้ในอนาคตจะส่งผลกระทบต่อการใช้ไฟฟ้าของภาคใต้อย่างรุนแรง อีกทั้งยังพบว่าการสร้างโรงไฟฟ้าสุราษฎร์ธานี มีต้นทุนที่ถูก ทั้งในส่วนของการก่อสร้างอาคารและการวางท่อแก๊สที่ใกล้กับโรงผลิตแก๊ส ที่อำเภอขนอม จ.นครศรีธรรมราช ตรงตามกรอบของ PDP อีกทั้งยังผ่านกระบวนการศึกษาด้านสิ่งแวดล้อมและผ่านการเห็นชอบของประชาชนในพื้นที่ภาคใต้แล้วด้วย


ด้านนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค กล่าวว่า ขอให้ประชาชนมั่นใจเพราะไม่มีใครที่จะไม่สร้างความมั่นคงในการใช้ไฟฟ้า และราคาไม่แพงแต่ในความเป็นจริง ทางคณะรัฐมนตรีได้สอบถามที่มาที่ไปของแผนเดิมปี 2018 REV1 ถึงที่มาของแผนการสร้างโรงไฟฟ้าสุราษฎร์ธานี ร่วมถึงแหล่งเงินทุนที่จะสร้างและเป็นทุนที่ไม่ทำให้ค่าไฟฟ้าแพง แต่กลับพบว่าส่วนที่รับผิดชอบ 3 ฝ่าย ยังไม่สามารถใช้คำตอบได้ จึงไม่สามารถที่จะสั่งให้ทำหรือไม่ทำได้เช่นกัน ส่วนในเรื่องของแผน PDP หากพบปัญหาก็สามารถปรับเปลี่ยนได้เช่นกัน ส่วนแผนการสร้างโรงไฟฟ้าสุราษฎร์ธานีตรวจสอบแล้วพบว่าแผนยังอยู่แต่คงต้องเลื่อนเวลาออกไปเพราะส่วนที่รับผิดชอบยังไม่สามารถตอบได้ว่าเอาเงินงบประมาณจากไหน
ทั้งนี้ ภาคใต้มีความต้องการใช้ไฟ 3,000 เมกะวัตต์ สามารถผลิตในภาคใต้ได้ประมาณ 2,400 เมกะวัตต์ ขาดอีก 600 เมกะวัตต์ รับไฟฟ้ามาจากภาคกลาง ซึ่งรองนายกรัฐมนตรี ยืนยันว่าแผนการก่อสร้างโรงไฟฟ้าสุราษฎร์ธานียังอยู่แน่นอน แต่ตอนนี้คงต้องรอเวลา และไฟฟ้ายังคงใช้ได้ตามปกติ ส่วนรับผิดชอบยังสามารถบริหารจัดการได้ครอบคลุมพื้นที่เพราะการใช้ไฟฟ้าไม่ได้สูงตลอดเวลา และไม่กระทบค่าไฟฟ้าของประชาชน
จากนั้น รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรี ว่าการกระทรวงพลังงาน ได้ลงพื้นที่ ที่บริษัท ปาล์มทองคำ จำกัด ซึ่งเป็นโรงสกัดน้ำมันปาล์ม เพื่อพบปะกับเกษตรกร ตัวแทนผู้ประกอบการ โดยมี นายวิชาญ จุนทวิจิตร นายอำเภอพระแสง พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ ที่เกี่ยวข้องร่วมต้อนรับ


นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค กล่าวพบปะกับเกษตรกร โดยระบุว่า นายกรัฐมนตรีได้ห่วงใยสถานการณ์ด้านราคาปาล์มน้ำมัน ที่กระทบต่อเกษตรกร และได้มอบหมายให้ ครม.เศรษฐกิจ เร่งหาแนวทางแก้ไข โดยกระทรวงพลังงาน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และ กระทรวงพาณิชย์ ได้ร่วมกันแก้ปัญหาดังกล่าว ซึ่งมีทั้งเรื่องที่ดำเนินการแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการออกประกาศให้ผู้ค้ามาตรา 7 ต้องซื้อน้ำมันไบโอดีเซล B100 ในราคาไม่ต่ำกว่า 30 บาทต่อลิตร ส่วนกระทรวงพาณิชย์คณะอนุกรรมการบริหารจัดการสมดุลน้ำมันปาล์มได้ขอให้โรงงานสกัดน้ำมันปาล์มรับซื้อผลปาล์มในราคาไม่ต่ำกว่ากิโลกรัมละ 4.80 บาท ให้สอบคล้องกับราคา CPO ควบคู่กับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่เร่งพัฒนาการผลิตปาล์มน้ำมันของเกษตรกรให้มีคุณภาพ ยกระดับเปอร์เซ็นการสกัดน้ำมันปาล์ม ส่วนเรื่องหลังจากนี้ ก็จะเป็นการแก้ไขปรับปรุงเรื่องกฎหมาย ที่จะออกมาเพื่อกำกับดูแล กระบวนการรับซื้อและราคา ให้สอดคล้องกับตลาด ไม่ให้เกิดการเอาเปรียบ ซึ่งจะทยอยดำเนินการต่อจากการแก้ไขกฎหมายเกี่ยวกับน้ำมันเชื้อเพลิง ขณะที่ตัวแทนผู้ประกอบการ ได้ฝากให้รองนายกรัฐมนตรี ได้ช่วยกำกับดูแลการกดราคาของโรงงานรีไฟน์ หรือโรงกลั่นน้ำมันปาล์ม ที่ไม่ให้เอาเปรียบโรงสกัดน้ำมัน ส่วนตัวแทนสภาเกษตรกรฯ ได้ขอให้ มีการชะลอการยกเลิกการผสมไบโอดีเซลในน้ำมันดีเซล แม้ทราบดีว่าต้นทุนในปัจจุบันจะสูง แต่หากถอดออกจะกระทบปาล์มน้ำมันทั้งระบบ ซึ่งรองนายกรัฐมนตรี ได้รับเรื่องเพื่อนำกลับไปหาแนวทางแก้ไข แต่ยืนยันว่า ยังไม่มีการยกเลิกในขณะนี้ แต่มีกฎหมายกำหนดให้ยกเลิกในปี 2569 ซึ่งระหว่างนี้ ก็ได้มีคณะทำงานที่กำลังศึกษา การใช้น้ำมันปาล์มเพื่อผลิตหรือผสมสินค้าอื่น ที่มีมูลค่าสูงเพื่อทดแทนกรณียกเลิกการผสมไบโอดีเซล ก่อนจะเดินทางไปยัง ลานเทรับซื้อปาล์มน้ำมัน จำเริญพาณิชย์ ซึ่งเป็นลานเท ปาล์มน้ำมันคุณภาพ ที่มีการคัดเลือกผลปาล์ม ไม่รับซื้อปาล์มดิบจากเกษตรกร โดยรองนายกรัฐมนตรี ได้สอบถามการดำเนินงานและชมการคัดเลือกทลายปาล์ม ของคนงาน และฝากให้ขยายผลไปยังลานเทอื่นๆเพื่อพัฒนาปาล์มทั้งระบบต่อไป