แม่ทัพภาคที่ 3 พร้อมผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ติดตามสถานการณ์ไฟป่าและหมอกควันในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ หลังสถานการณ์หมอกควัน ค่าคุณภาพอากาศ และค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กเกินค่ามาตรฐานส่งผลกระทบต่อสุขภาพประชาชน สั่งการให้เพิ่มอากาศยานที่ใช้ในการโปรยน้ำเข้าพื้นที่
พลโท ฉลองชัย ชัยยะคำ แม่ทัพภาคที่ 3 เปิดเผยภายหลังขึ้นบินสำรวจสถานการณ์หมอกควันและไฟป่าในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ พร้อมกับ นายศุภชัย เอี่ยมสุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ โดยกล่าวว่า กองทัพภาคที่ 3 จะเข้ามาสนับสนุนการทำงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในระดับพื้นที่อย่างเต็มรูปแบบอีกครั้ง โดยได้สั่งการให้เพิ่มอากาศยานของกองทัพบกเข้ามาในพื้นที่ของจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อดำเนินการทิ้งน้ำดับไฟป่า ที่เกิดขึ้นในพื้นที่สูงชัน โดยดำเนินการควบคู่กับเจ้าหน้าที่เสือไฟ เจ้าหน้าที่ป่าไม้ อาสาสมัคร กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และกำลังทหาร ที่ยังคงเดินเท้าเข้าไปดำเนินการดับไฟในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง และเฝ้าระวังการเกิดไฟป่าในพื้นที่ พร้อมได้ประสานขอให้กองทัพอากาศสนับสนุนเครื่องบินบรรทุกน้ำ หรือ บร. 2 เข้ามาปฏิบัติการทิ้งน้ำในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อบรรเทาสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในพื้นที่ของจังหวัดเชียงใหม่ โดยจะกลับเข้ามาประจำการในวันที่ 31 มีนาคม 2562 และขอความร่วมมือประชาชนหากพบการลักลอบเผาป่า และการเผาทุกชนิดในทุกพื้นที่ ขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่เพื่อจะได้เข้าไปดำเนินการดับไฟและจับกุมผู้กระทำความผิดได้อย่างทันท่วงที
ทั้งนี้ ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในระดับพื้นที่ ยังคงดำเนินการเข้มข้นในทุกมาตรการ ทั้งเรื่องของการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวดกับผู้ที่ลักลอบเผาป่า ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้สั่งการให้ดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด ห้ามมิให้ละเว้น รวมถึงแจ้งเตือนประชาชนให้ดูแลสุขภาพและสวมหน้ากากอนามัย งดกิจกรรมกลางแจ้ง
ด้าน แม่ทัพภาคที่ 3 กล่าวว่าเพิ่มเติม พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีบัญชาให้อธิบดีทุกกรมที่เกี่ยวข้องกับการแก้ไขปัญหาหมอกควันไฟป่าและฝุ่นละออง ลงพื้นที่ประชุมร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่โดยเร็ว และนายกรัฐมนตรีจะลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ในโอกาสต่อไป เพื่อให้การแก้ไขปัญหาเป็นไปอย่างยั่งยืน
แม่ทัพภาคที่ 3 กล่าวว่า การแก้ปัญหา หมอกควันไฟป่าและฝุ่นละอองในพื้นที่ภาคเหนือ ทางกองทัพได้ดำเนินการอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ทำให้สถานการณ์คลี่คลายดีขึ้น แต่วันนี้ เกิดสถานการณ์ที่น่าเป็นห่วงขึ้นอีก ซึ่งได้ประสานฝ่ายความมั่นคงและทางจังหวัด เชียงใหม่ รวมทั้งประสานนำอากาศยานของกองทัพอากาศ และเครื่องบินบรรทุกน้ำของกองทัพบก เข้าไปคลี่คลายสถานการณ์ ซึ่งตนเองได้ขึ้นบินสำรวจดูพื้นที่เกิดไฟป่า กับนายศุภชัย เอี่ยมสุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ พบปัญหาเที่เกิดขึ้นเกิดจกความร้อน ปีนี้ฝนมาช้า แล้งนาน มีความร้อนสะสมบนยอดเขา ส่วนในเรื่องของเขตรอยต่อพื้นที่เกษตร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่สั่งชุดปฏิบัติการร่วมกันทำงาน ทั้งกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และหน่วยทหารสนับสนุนการทำงาน โดยระดมสรรพกำลังทำงานร่วมกันอย่างจริงจัง เพื่อแก้ไขปัญหาหมอกควันไฟป่าและฝุ่นละอองของจังหวัดเชียงใหม่ให้ดีขึ้น
ส่วน นายศุภชัย เอี่ยมสุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า วันนี้มีจุด Hotspot เกิดขึ้น 131 จุด ขณะที่เมื่อวานนี้มี 58 จุด ซึ่งต้องดำเนินการเร่งด่วน 2 เรื่อง คือ การระงับที่ต้นเหตุ ห้ามเผาเด็ดขาด ซึ่งได้ดำเนินการอย่างต่อเนื่อง จริงจัง หน่วยอนุรักษ์และจัดการป่าไม้ และ หน่วยต่างๆ ลงไปในพื้นที่เพื่อแก้ไขปัญหา ร่วมกับอำเภอ และ อปท. ทุกคนทำงานเต็มที่ แต่ก็มีข้อจำกัดอยู่บ้างในเรื่องพื้นที่สูง ซึ่งกองทัพได้สนับสนุนกำลังพลมาบูรณาการร่วมกัน คิดว่าปัญหา หมอกควันไฟป่าและฝุ่นละอองจะคลี่คลายโดยเร็วๆ