…..แม่ทัพภาคที่ 3 พร้อมด้วยจังหวัดพิษณุโลก และชาวจังหวัดพิษณุโลก จัดพิธีบวงสรวงบำเพ็ญกุศลทักษิณานุประทาน เทิดพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช…
จังหวัดพิษณุโลก ร่วมกับ กองทัพภาคที่ 3 จัดพิธีบวงสรวงถวายเครื่องราชสักการะ สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2561 เวลา 09.00 น. พลโท ฉลองชัย ชัยยะคำ แม่ทัพภาคที่ 3 เป็นประธานพิธีบวงสรวงถวายเครื่องราชสักการะและพิธีบำเพ็ญกุศลทักษิณานุประทานถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช เนื่องในวันคล้ายวันที่สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ทรงปราบดาภิเษกขึ้นครองราชย์เป็นพระมหากษัตริย์แห่งกรุงธนบุรี ซึ่งตรงกับวันที่ 28 ธันวาคม ของทุกปี ถือว่าเป็นวันสำคัญทางประวัติศาสตร์ชาติไทยวันหนึ่ง ที่เกี่ยวกับรัชสมัยของบูรพมหากษัตราธิราช และเป็นวันสำคัญทางประวัติศาสตร์ของชาติไทย วันหนึ่งที่เกี่ยวกับรัชสมัยของบูรพมหากษัตราธิราช
โดยมี นายไพบูลย์ ณะบุตรจอม รองผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก , พลตรี จิรเดช กมลเพ็ชร รองแม่ทัพภาคที่ 3 พร้อมด้วย หัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ พลังประชาชน องค์กรเอกชน พ่อค้า ประชาชน นักเรียน นิสิต และนักศึกษา ร่วมพิธีจำนวนมาก ณ มณฑลพิธี ศาล สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช วัดปากพิงตะวันตก หมู่ที่ 2 ตำบลงิ้วงาม อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก
ทั้งนี้เพื่อเทิดพระเกียรติและน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ ของพระองค์ที่มีต่อพสกนิกรชาวไทย และเป็นการเผยแพร่พระเกียรติคุณ ของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ที่ได้สร้างวีรกรรมด้านการรบที่บ้านปากพิง ซึ่งจะเป็นแหล่งเรียนรู้ทางประวัติศาสตร์ของไทยและส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในจังหวัดพิษณุโลก
ซึ่งที่บ้านปากพิงแห่งนี้ เคยเป็นอดีตสนามรบครั้งสำคัญ จนได้รับการกล่าวขานว่า บ้านปากพิงดินแดนยุทธศาสตร์ ประวัติศาสตร์กล่าวไว้ว่า ณ วันเสาร์ ขึ้น 7 ค่ำ เดือน 3 พระเจ้าตากสินนำทัพหลวง ขึ้นมาทางลำน้ำแควใหญ่ เพื่อตั้งสกัดกองทัพของอะแซหวุ่นกี้ ที่บ้านปากพิง แขวงเมืองพิษณุโลก และทำการรบพุ่งกันเป็นสามารถ การสงครามครั้งนี้ ทหารไทยสามารถขับไล่ทัพพม่า จนพ้นจากอาณาเขตประเทศไทยได้สำเร็จ และจับทหารพม่าเป็นเชลยศึกได้อีกเป็นจำนวนมาก พสกนิกรชาวไทยจึงพร้อมใจกันสร้างพระบรมราชานุสาวรีย์ของพระองค์ขึ้นมา เพื่อสักการะบูชา น้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ และยังสร้างพิพิธภัณฑ์ รวบรวมสิ่งของ และภาพวาดจิตกรรมฝาผนัง ที่เล่าเรื่องราวยุทธศาสตร์บ้านปากพิง ไว้ให้ลูกหลานได้รับรู้ตราบนานเท่านาน ว่า สถานที่แห่งนี้เป็นสถานที่สำคัญแห่งหนึ่งในหน้าประวัติศาสตร์ชาติไทย