ข่าวประชาสัมพันธ์ ข่าวปราบยาเสพติด ข่าวรอบรั้วภูธร ข่าวเชียงใหม่ ข่าวเด่น นิตยสารตำรวจ สถานีประชาชน

(มีคลิป) กองกำลังผาเมือง แถลงผลการปฏิบัติงานฯ รอบ 7 เดือน

กองกำลังผาเมือง แถลงผลการปฏิบัติงานฯ รอบ 7 เดือน

เมื่อวันที่ 29 เมษายน 2567 เวลา 11.00 น. พลตรี ประพัฒน์ พบสุวรรณ ผู้บัญชาการกองกำลังผาเมือง ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 3 ส่วนแยก 2 แถลงผลการปฏิบัติงานของกองกำลังผาเมือง/กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 3 ส่วนแยก 2 ในห้วง 7 เดือนที่ผ่านมา

โดยมีรายละเอียดการดำเนินงานในแต่ละด้านดังนี้ การพิทักษ์และเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ การถวายความปลอดภัย จัดกำลังพลและยุทโธปกรณ์ถวายความปลอดภัยพระบรมวงศานุวงศ์ในพื้นที่ชายแดน จำนวน 3 ครั้ง เพื่อถวายถวายความปลอดภัยแด่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี, สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา การปฏิบัติเป็นด้วยความเรียบร้อย และสมพระเกียรติ, การรับองคมนตรีเป็นผู้แทนพระองค์ มาปฏิบัติภารกิจเพื่อติดตามและขับเคลื่อนโครงการ อันเนื่องมาจากพระราชดำริ และมอบถุงพระราชทานให้แก่เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจตระเวนชายแดน และประชาชน จำนวน 10 ครั้ง, การร่วมพิธีเนื่องในโอกาสวันสำคัญของชาติเพื่อถวายเป็นพระราชกุศล จำนวน 62 ครั้ง, เข้าร่วมกิจกรรมจิตอาสาบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ จำนวน 211 ครั้ง, ร่วมกิจกรรมจิตอาสาบริจาคโลหิต จำนวน 55 ครั้ง ปริมาณโลหิต 152,400 ซีซี

ในด้านการพัฒนาสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้าน กองกำลังผาเมือง สร้างความร่วมมือและร่วมดำเนินโครงการเพื่อแก้ไขปัญหาความมั่นคงกับประเทศเพื่อนบ้าน, ด้านลาว ผ่านกลไกชุดประสานงานประจำพื้นที่ชายแดนไทย – ลาว เป็นทางการ จำนวน 1 ครั้ง ไม่เป็นทางการ จำนวน 3 ครั้ง, ด้านเมียนมา ผ่านกลไกของคณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่น (TBC) เป็นทางการ จำนวน 1 ครั้ง ไม่เป็นทางการ จำนวน 7 ครั้ง และการประชุมคณะกรรมการสำนักงานประสานงานแก้ไขปัญหายาเสพติดชายแดน จำนวน 1 ครั้ง, การพัฒนาสัมพันธ์ระหว่างฐานปฏิบัติการ เพื่อประสานความร่วมมือ ในการสกัดกั้นการกระทำผิดกฎหมายต่างๆ ตามแนวชายแดนมีการพบปะ จำนวน 32 ครั้ง (เมียนมา 17 ครั้ง ลาว 15 ครั้ง)

สรุปผลการปฏิบัติงานด้านการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด (1 ต.ต. 66 – ปัจจุบัน) การสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติดตามแนวชายแดน ทางหน่วยได้ดำเนินตามนโยบายของรัฐบาลในการลดความรุนแรงของปัญหายาเสพติดรวมถึงนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมและ ผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบก ในการสกัดกั้นยาเสพติดตามแนวชายแดน อย่างเข้มงวด โดยหน่วยสามารถสกัดกั้นการลักลอบลำเลียงยาเสพติด จำนวน 258 ครั้ง ตรวจยึดยาบ้าได้ 105.7 ล้านเม็ด, เฮโรอีน 236 กิโลกรัม, ไอซ์ 1,248 กิโลกรัม, ฝิ่น 158 กิโลกรัม และคีตามีน 29 กิโลกรัม สามารถจับกุมผู้ต้องหา จำนวน 273 คน กลุ่มขบวนการเสียชีวิต จำนวน 29 ราย จากการปะทะกับเจ้าหน้าที่ จำนวน 29 ครั้ง โดยเป็นเหตุการณ์ปะทะ ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ 20 เหตุการณ์, จังหวัดเชียงราย 8 เหตุการณ์ และ จังหวัดอุตรดิตถ์ 1 เหตุการณ์ เมื่อ 11 พ.ย. 66 ปะทะที่ บ.สันมะเค็ด ตรวจยึดยาบ้าได้ 240,000 เม็ด และกลุ่มขบวนการฯเสียชีวิต 1 ศพ, เมื่อ 14 พ.ย. 66 ปะทะที่ บ.ป่ากล้วย ตรวจยึดยาบ้าได้ 500,000 เม็ด, ฝิ่นดิบ น้ำหนัก 6.4 กิโลกรัม และกลุ่มขบวนการฯเสียชีวิต 2 ศพ, เมื่อ 16 ธ.ค. 66 ปะทะที่ บ.ปางมะหัน ตรวจยึดยาบ้าได้ 2,040,000 เม็ด และกลุ่มขบวนการฯเสียชีวิต 15 ศพ, เมื่อ 21 ธ.ค. 66 ปะทะที่ บ.ปะสี ตรวจยึดยาบ้าได้ 2,060,000 เม็ด และกลุ่มขบวนการฯเสียชีวิต 2 ศพ, เมื่อ 21 ธ.ค. 66 ปะทะที่ บ.นาศิริ ตรวจยึดยาบ้าได้ 224,000 เม็ด เฮโรอีน น้ำหนัก 800 กรัม และกลุ่มขบวนการฯเสียชีวิต 1 ศพ, เมื่อ 6 ม.ค. 67 ปะทะที่ บ.แม่สะแลป ตรวจยึดไอซ์ได้ 323 กิโลกรัม และกลุ่มขบวนการฯเสียชีวิต 1 ศพ, เมื่อ 11 ม.ค. 67 ปะทะที่ บ.หล่ายอาย ตรวจยึดยาบ้าได้ 35 เม็ด, ฝิ่น 74.7 กิโลกรัม และกลุ่มขบวนการฯเสียชีวิต 1 ศพ, เมื่อ 26 ม.ค. 67 ปะทะที่ บ.ห้วยลึก ตรวจยึดยาบ้าได้ 6,000,000 เม็ด และ คีตามีน น้ำหนัก 29 กิโลกรัม, เมื่อ 28 ม.ค. 67 ปะทะที่ ช่องทางปางตอง ตรวจยึดยาบ้าได้ 2,500,000 เม็ด, เมื่อ 21 ก.พ. 67 ปะทะที่ บ.ป่าแดง ตรวจยึดยาบ้าได้ 1,400,000 เม็ด และไอซ์ น้ำหนัก 25 กิโลกรัม, เมื่อ 27 ก.พ. 67 ปะทะที่ บ.หล่ายอาย ตรวจยึดยาบ้าได้ 600,000 เม็ด และกลุ่มขบวนการฯเสียชีวิต 3 ศพ, เมื่อ 28 ก.พ. 67 ปะทะที่ บ.หนองไผ่ ตรวจยึดยาบ้าได้ 300,000 เม็ด, เฮโรอีน น้ำหนัก 3 กิโลกรัม และฝิ่น น้ำหนัก 19.2 กิโลกรัม, เมื่อ 1 มี.ค. 67 ปะทะที่ ตลาดแม่จัน ตรวจยึดยาบ้าได้ 6,000,000 เม็ด, เมื่อ 3 มี.ค. 67 ปะทะที่ ช่องทางเขาหัวโล้น ตรวจยึดยาบ้าได้ 700,000 เม็ด, เมื่อ 10 มี.ค. 67 ปะทะที่ บ.ปูนะ ตรวจยึดยาบ้าได้ 1,600,000 เม็ด, เมื่อ 11 มี.ค. 67 ปะทะที่ ช่องทาง บ.สันมะเค็ด ตรวจยึดยาบ้าได้ 450,000 เม็ด และกลุ่มขบวนการฯเสียชีวิต 1 ศพ, และเมื่อ 12 มี.ค. 67 ปะทะที่ บ.ดอยแหลม ตรวจยึดยาบ้าได้ 200,000 เม็ด และกลุ่มขบวนการฯเสียชีวิต 1 ศพ

นอกจากนี้ยังมีการจับกุมยาเสพติดรายสำคัญซึ่งมีปริมาณยาบ้า 1 ล้านเม็ดขึ้นไป จำนวน 15 เหตุการณ์ โดยมีผลการปฏิบัติในพื้นที่ จังหวัดเชียงใหม่ 9 เหตุการณ์, จังหวัดเชียงราย 6 เหตุการณ์ และการจับกุมยาเสพติด 1 แสนเม็ดขึ้นไป จำนวน 13 เหตุการณ์ โดยมีผลการปฏิบัติในพื้นที่ จังหวัดเชียงใหม่ 6 เหตุการณ์, ในพื้นที่ จังหวัดเชียงราย 7 เหตุการณ์

เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2566
-ในปี 66 ทั้งปี ปะทะจำนวน 18 ครั้ง แต่ปีนี้ 7 เดือน ปะทะ 29 ครั้ง
– ในปี 66 ทั้งปี ยึดยาบ้าได้ 42 ล้านเม็ด แต่ปีนี้ 7 เดือน ยึดยาบ้าได้ 105.7 ล้านเม็ด เมื่อเปรียบเทียบกับปี 66 ในห้วงเวลาเดียวกัน สามารถตรวจยึดยาบ้าได้มากกว่า 3 เท่า

ทั้งนี้เป็นผลจากความร่วมมือของทุกภาคส่วนที่ให้ความสำคัญในการแก้ไขปัญหายาเสพติด ซึ่งปริมาณยาเสพติดที่กองกำลังผาเมืองยึดได้ในห้วง 7 เดือนนี้ หากสามารถเล็ดลอดเข้าสู่พื้นที่ตอนในได้ จะสร้างความเสียหายต่อสังคมและทำลายคนในประเทศไทยอย่างประเมินค่าไม่ได้ ซึ่งคิดเป็นมูลค่ายาเสพติดได้ 17,391 ล้านบาท (17,391,364,050)

การสกัดกั้นและปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายต่างๆ ดังนี้ สกัดกั้นการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ได้จำนวน 243 คน, สกัดกั้นการลักลอบโจรกรรมรถข้ามแดน ได้จำนวน 69 คัน, การจับกุมสินค้าหนีภาษี ได้แก่ บุหรี่, สุรา, ซากสัตว์ และสินค้าทางการเกษตรและการบุกรุกทำลายทรัพยากรธรรมชาติและป่าไม้ รวมเป็นมูลค่าความเสียหาย 21.3 ล้านบาท

ในด้านการช่วยเหลือประชาชน หน่วยร่วมกับส่วนราชการในพื้นที่ดำเนินการช่วยเหลือประชาชน พร้อมทั้งมอบสิ่งของอุปโภคบริโภคให้กับผู้ยากไร้และกลุ่มเปราะบางทางสังคมเพื่อให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ดังนี้ การซ่อมแซม/สร้างบ้านผู้ยากไร้ จำนวน 24 ครั้ง, การมอบสิ่งของอุปโภคบริโภค จำนวน 72 ครั้ง, การช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบภัยพิบัติธรรมชาติ จำนวน 288 ครั้ง ประชาชนได้รับการช่วยเหลือจำนวน 2,441 ราย

ในการเตรียมการช่วยเหลือการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควัน จัดกำลังพลชุดปฏิบัติการดับไฟป่า จำนวน 55 ชุดปฏิบัติการ โดยจัดจากกำลังป้องกันชายแดน ในพื้นที่ 4 จังหวัด ดังนี้พื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ จำนวน 26 ชุดปฏิบัติการ, พื้นที่จังหวัดเชียงราย และจังหวัดพะเยา จำนวน 25 ชุดปฏิบัติการ, พื้นที่จังหวัดน่าน จำนวน 4 ชุดปฏิบัติการ การปฏิบัติในห้วงที่ผ่านมาของ ชุดปฏิบัติการดับไฟป่า ร่วมปฏิบัติภารกิจในการลาดตระเวนและดับไฟป่า ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่รับผิดชอบได้ดำเนินการดับไฟป่า จำนวน 16 ครั้ง พื้นที่ได้รับความเสียหาย 532 ไร่ และการทำแนวกันไฟ จำนวน 76 ครั้ง รวมระยะทาง 229.5 กิโลเมตร

การสร้างฝายชะลอน้ำ ดำเนินการไปแล้ว ตั้งแต่ ต.ค. 66 – ปัจจุบัน ได้ดำเนินการสร้างฝาย จำนวน 127 ฝาย

การสนับสนุนสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่เจ็บป่วยหนักที่อยู่พื้นที่ทุรกันดารห่างไกล โดยจัด เฮลิคอปเตอร์ทหารแบบ 212 และเฮลิคอปเตอร์ทหารแบบ 145 รับผู้ป่วย จำนวน 45 ครั้ง มีผู้ได้รับการช่วยเหลือ จำนวน 45 ราย

นอกจากนี้ยังได้ปฏิบัติงานตามแผนรักษาความมั่นคงภายใน ในบทบาทของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 3 ส่วนแยก 2 โดยได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพัฒนาพื้นที่และชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนในพื้นที่ตามชายแดน โดยจัดตั้งหมู่บ้านชุมชนเข้มแข็งเอาชนะยาเสพติด โดยได้ฝึกอบรมให้กับประชาชนและเยาวชน ในหมู่บ้านตามชายแดน ให้มี ส่วนร่วมในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด รวมถึงปัญหาความมั่นคงอื่นๆ สร้างความปลอดภัยในหมู่บ้าน นำไปสู่การจับกุมผู้กระทำผิดกฎหมาย จำนวน 10 ครั้ง รวมทั้งได้แจ้งข่าวสารเกี่ยวกับเครือข่ายผู้ค้า จนนำไปสู่ การจับกุมจำนวน 41 ราย และนำผู้เสพเข้าสู่กระบวนการบำบัด จำนวน 176 รายติดตามและความให้ช่วยเหลือในการส่งเสริมอาชีพให้มีงานทำหลังผ่านการบำบัด จำนวน 100 ราย เพื่อให้สามารถดำรงชีวิตอยู่ในสังคมโดยไม่กลับไปกระทำความผิดในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดอีก

หน่วยได้ดำเนินการโดยใช้แนวทางของกองทุนแม่ของแผ่นดิน เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งของหมู่บ้าน/ชุมชนเชิงคุณภาพ โดยรวมพลังของชุมชนเข้าแก้ไขปัญหายาเสพติด ด้วยจิตใจ ที่พึ่งตนเองและฟื้นฟูทุนทางสังคมของหมู่บ้านให้เข้มแข็งยิ่งขึ้นตามสภาพของ มิติทางสังคมวัฒนธรรมในแต่ละพื้นที่ ให้ยึดโยงกับความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ได้ขับเคลื่อนเป็นหมู่บ้านกองทุนแม่ของแผ่นดินแล้ว จำนวน 144 หมู่บ้าน ซึ่งในปีนี้ บ้านห้วยน้ำเย็น ตำบลท่าตอน อำเภอแม่อาย จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นหมู่บ้านในความรับผิดชอบของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 3 ส่วนแยก 2 ได้รับการคัดเลือกจากกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ให้เป็น 1 ใน 12 หมู่บ้าน จาก 26,507 หมู่บ้านทั่วประเทศ เป็นหมู่บ้านต้นแบบและบุคคลต้นแบบกองทุนแม่ของแผ่นดิน

และหน่วยยังได้เข้าติดตามการแก้ไขวิกฤตของหมู่บ้าน เพื่อให้ประชาชน ในพื้นที่มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นและมีสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย สามารถแก้ไขปัญหา/วิกฤติได้แล้ว จำนวน 159 เรื่อง

จากการปฏิบัติงานที่ผ่านมาทั้งผู้นำหมู่บ้านและคณะกรรมการหมู่บ้านรวมทั้งเยาวชนสามารถปฏิบัติหน้าที่ของตัวเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ ประชาชนในพื้นที่เกิดความรักความสามัคคีมีความตระหนักถึงปัญหาภัยคุกคามต่างๆ ที่เกิดขึ้นในหมู่บ้านมีเครือข่ายในการพัฒนาหมู่บ้านและมีส่วนร่วมกับกำลังป้องกันชายแดนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการป้องกันและแก้ไขปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นอย่างจริงจังโดยเฉพาะปัญหายาเสพติดเพื่อนำไปสู่การเป็นหมู่บ้านชุมชนเข้มแข็งเอายาเสพติดอย่างยั่งยืนต่อไป.