Uncategorized

กาฬสินธุ์โจ๋เถื่อนดักกระทืบผัวผญบ.ปางตายชิงทอง 2 บาทรอดหวุดหวิด

กาฬสินธุ์โจ๋เถื่อนดักกระทืบผัวผญบ.ปางตายชิงทอง 2 บาทรอดหวุดหวิด

สามีผู้ใหญ่บ้านหนองม่วง อำเภอเมืองกาฬสินธุ์ กลับจากไปร่วมงานบุญข้าวจี่ถูกกลุ่มวัยรุ่นเถื่อนดักทำร้ายร่างกายรุมกระทืบไม่ยั้งจนสลบเจ็บปางตาย ก่อนชิงสร้อยคอทองคำ 2 บาท พร้อมพระเลี่ยมทองเผ่นหนี ด้านผู้การกาฬสินธุ์สั่งล่าตัว

เมื่อวันที่ 28 มกราคม 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงดึกที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.ลำปาว อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ ได้รับแจ้งเหตุมีกลุ่มคนร้ายดักทำร้ายร่างกายชาวบ้านจนได้รับบาดเจ็บ แล้วชิงทรัพย์เป็นสร้อยคอทองคำหนัก 2 บาท พร้อมพระเลี่ยมทอง บนถนนสายบ้านปลาเค้าน้อย ม.6 ไปบ้านหนองม่วง ม.10ต.ลำคลอง อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์

โดยที่เกิดเหตุอยู่ริมถนน บริเวณหน้าวัดอัมพวันม่วงน้อย พบผู้บาดเจ็บทราบชื่อคือนายธีรยุทธ ผดุงจันทร์ อายุ 45 ปี สามีนางสิมลัย ฉายประดิษฐ์ อายุ 45 ปี ผู้ใหญ่บ้านหนองม่วง ม.10 ต.ลำคลอง อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ ถูกคนร้ายเป็นชาย 3-4 คน ดักทำร้ายร่างกาย โดยใช้ท่อนไม้และรุมชกแตะต่อยได้รับบาดเจ็บศีรษะแตก ปากแตก หูฉีก ใบหน้าปูดบวมและเป็นแผลหลายแห่งได้รับบาดเจ็บ ซึ่งญาติและชาวบ้านได้ช่วยกันนำตัวส่งโรงพยาบาลกาฬสินธุ์

จากการสอบถามนางสิมลัย ฉายประดิษฐ์ ผู้ใหญ่บ้านหนองม่วง ม.10 ต.ลำคลอง ภรรยาผู้ได้รับบาดเจ็บ ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุนายธีรยุทธ สามีได้ไปร่วมงานบุญข้าวจี่ที่บ้านหนองม่วง ซึ่งช่วงเย็นมีการแสดงหมอลำ จากนั้นมีคนที่บ้านโทรมาบอกว่าวัวที่เลี้ยงไว้หลุดออกจากคอก สามีจึงขี่รถจักรยานยนต์พ่วงข้าง เพื่อกลับมาดู กระทั่งมาถึงที่เกิดเหตุมีกลุ่มวัยรุ่นประมาณ 3-4 คน ซึ่งขี่รถจักยานยนต์พ่วงข้างเหมือนกันมาจอดดักซุ่มอยู่ข้างทาง ก่อนที่จะโบกเรียกให้สามีจอดรถ ซึ่งสามีคิดว่ารถเสียจึงได้จอดช่วย จากนั้นกลุ่มวัยรุ่นได้ใช้ท่อนไม้ฟาดศีรษะและรุมทำร้ายร่างกาย ทั้งแตะ ทั้งต่อยกะหวังให้ตาย แต่สามีสลบก่อน คนร้ายนึกว่าตายแล้ว ประกอบกับมีชาวบ้านขับรถผ่านมาเห็นพอดี กลุ่มคนร้ายจึงได้กระชากเอาสร้อยคอทองคำหนัก 2 บาท พร้อมพระเลี่ยมทองแล้วพากันขี่รถจักรยานยนต์พ่วงข้างหลบหนีไป

ทั้งนี้ หลังเกิดเหตุ พล.ต.ต.สมนึก มิควาฬ ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ ได้สั่งการให้ พ.ต.ท.วัชรไกร ใหม่คามิ สารวัตรสภ.ลำปาว และชุดสืบสวนเร่งติดตามตัวคนร้ายที่ก่อเหตุมาโดยเร็ว พร้อมทั้งมอบหมายให้ พ.ต.อ.ตรีวิทย์ ศรีประภา รองผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ ลงพื้นที่เข้าดูแลในเรื่องของคดีอย่างใกล้ชิด เนื่องจากเป็นการก่อเหตุที่อุกอาจ เบื้องต้นคาดว่าน่าจะเป็นกลุ่มวัยรุ่นในพื้น

อย่างไรก็ตาม ล่าสุดเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้ควบคุมตัววัยรุ่น 3 คนในหมู่บ้าน ซึ่งเป็นกลุ่มผู้ต้องสงสัยมาสอบปาก เนื่องจากมีพยานเห็นเหตุการณ์ยืนยันว่าเห็นทั้ง 3 คนอยู่ในที่เกิดเหตุ แต่เบื้องต้นทั้ง 3 คนยังคงให้การปฏิเสธ ซึ่งอยู่ระหว่างเจ้าหน้าที่สอบปากคำพยานเพิ่มเติม และสอบปากคำผู้บาดเจ็บ ตลอดจนรวบรวมพยานหลักฐาน

ด้าน พ.ต.ท.วัชรไกร ใหม่คามิ สารวัตร สภ.ลำปาว กล่าวว่า สำหรับเหตุการณ์นี้เบื้องต้นจากการตรวจสอบมีการรุมทำร้ายร่างกาย ซึ่งเจ้าหน้าที่จะต้องสอบสวนว่า สาเหตุการทำร้ายร่างกายนั้นเป็นการมาดักทำร้ายแล้วประสงค์ต่อทรัพย์หรือไม่ หรือมีสาเหตุจากการโกรธเคืองกันมาก่อนแล้วมาดักทำร้ายร่างกาย แต่หากเจ้าหน้าที่รวมรวบพยานหลักฐานแล้วพบว่า เป็นการทำร้ายร่างกายและประสงค์ต่อทรัพย์ด้วย อาจจะเข้าข่ายร่วมกันชิงทรัพย์หรือปล้นทรัพย์ ซึ่งเบื้องต้นทั้ง 3 คนยังให้การปฏิเสธ อย่างไรก็ตามผลการตรวจปัสสาวะทั้ง 3 คน พบมีสารเสพติด เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งข้อหาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาบ้า) ก่อน ส่วนประเด็นการทำร้ายร่างกายและชิงทรัพย์นั้นจะต้องผลการสืบสวนและรวบพยานหลักฐาน รวมทั้งสอบปากผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดอย่างละเอียดอีกครั้ง

สำหรับอาการของนายธีรยุทธ ล่าสุดปลอดภัยแล้ว โดยมีบาดแผลหูฉีก ศีรษะแตกเย็บกว่า 10 เข็ม ปากแตก ใบหน้าปูดบวมเขียวช้ำ และเป็นแผลหลายแห่ง ซึ่งยังคงนอนพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลกาฬสินธุ์ และยังอยู่ในการดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด และรอเอ็กซเรย์ศีรษะอีกครั้งเนื่องได้รับแรงกระแทกอย่างแรง