ข่าว นราธิวาส ข่าวรอบรั้วภูธร ข่าวเด่น

ปิดจ๊อบสมัคร อบจ.นราฯ เดือด 2 พรรคการเมืองใหญ่จับมือถล่มกูเซ็ง

ความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับการรับสมัครนายกและสมาชิก อบจ.ซึ่งเป็นวันสุดท้าย ที่หอประชุมเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา ภายในศาลากลางหลังเก่า ต.โคกเคียน อ.เมืองนราธิวาส บรรยากาศการรับสมาชิกเป็นไปด้วยความเงียบเหงา แต่ก็ได้รับความสนใจจากเจ้าหน้าที่ไม่น้อย เมื่อ นายมูฮำหมัด มามะ อดีต ส.ส.นราธิวาส เขต 2 พรรคไทยรักไทย หรือ เป็นที่รู้จักกันในนาม ส.ส.ปลาไหล ได้เดินทางมาสมัครเป็นสมาชิก อบจ.เขต 3 อ.ตากใบ พร้อมกับอดีต สจ.และประชาชนทั่วไป ที่เป็นคอการเมือง

โดยทั้งนี้แต่การรับสมัครวันแรก จ.นราธิวาส สรุป มีผู้สมใจเดินทางมาสมัครเป็นนายก อบจ. จำนวน 3 คน คือ เบอร์ 1 คือ นายกูเซ็ง ยาวอหะซัน ซึ่งอยู่ในแวดวงของพรรคประชาชาติ และ เบอร์ 2 คือ นายอับดุลลักษณ์ สะอิ ซึ่งเป็นพี่ชายของ ดร.ซาการียา สะอิ ส.ส.นราธิวาส เขต 4 พรรคภูมิใจไทย และยังเป็นน้องชายของ นายสมาน สะอิ นายก อบต.กาลิซา อ.ระแงะ และเบอร์ 3 น.ส.อาอีซะห์ แดะ อดีตรองนายก อบต.กาลิซา ซึ่งเป็นภรรยาของนายสมาน สะอิ (นายกมัง) โดย น.ส.อาอีซะห์ เป็นผู้สมัครนายก อบจ.ที่เดินทางมาสมัครรับเลือกตั้งในวินาทีสุดท้าย ก่อนที่จะปิดการรับสมัครในวันนี้

สำหรับในส่วนของผู้สมัครสมาชิก อบจ.ทั้ง 30 เขต ในพื้นที่ 13 อำเภอ มีผู้สนใจเดินทางมาสมัครเป็นตัวแทนพี่น้องประชาชน รวมทั้งสิ้น 65 คน ซึ่งส่วนใหญ่ต้องการชัยชนะ เพื่อเป็นบันไดก้าวแรกสู่การเมืองท้องถิ่น ที่ในช่วงการรับเลือกตั้ง ส.ส.จะมีส่วนสำคัญที่คนของแต่ละพรรคการเมือง ให้ความสนใจที่จะเข้าหาหรือมีความสำคัญช่วยเป็นหัวคะแนน ที่อาจจะมีค่าตอบแทนเป็นกอบเป็นกรรม เหมือนกับการเลือกตั้ง ส.ส.ทุกครั้งที่ผ่านมาในอดีต

ทั้งนี้สำหรับไฮไลท์ของการการรับสมัครนายกและสมาชิก อบจ.ในพื้นที่ จ.นราธิวาส พูดได้ว่าดุเดือดและส่อแววมีการแข่งขันทางการเมืองสูงไม่แพ้จังหวัดอื่นๆ โดยเฉพาะตำแหน่งนายก อบจ. เมื่อ ดร.ซาการียา สะอิ ส.ส.นราธิวาส เขต 4 พรรคภูมิใจไทย พร้อมด้วยนายสมาน สะอิ นายก อบต.กาลิซา 2 พี่น้อง ได้นำนายอับดุลลักษณ์ ซึ่งเป็นว่าที่ผู้สมัครนายก อบจ.นราธิวาส เดินทางไปยังที่ทำการพรรคกล้าธรรม ม.6 ต.ปาเสมัส อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส เพื่อเข้าพบนายสัมพันธ์ มะยูโซ๊ะ ส.ส. นราธิวาส เขต 3 พรรคกล้าธรรม และนายอามินทร์ มะยูโซ๊ะ ส.ส.นราธิวาส เขต 2 พรรคกล้าธรรมและนายสกุล ศักดิ์ มะดาโอ๊ะ อดีตนายกเทศบาลตำบลปาเสมัส ซึ่งเป็น 3 พี่น้อง มือขวานายธรรมนัส พรหมเผ่า รวมทั้งนายไพซอล อาแว นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองนราธิวาส ที่จะลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นนายก อบจ.คนที่ 3 แต่ต้องเปลี่ยนใจเมื่อทราบว่านายอับดุลลักษณ์ ได้ลงสมัครก่อน จึงได้นำช่อดอกไม้และกระเช้าของขวัญ เพื่อแสดงความเสียใจต่อความผิดพลาดในการสื่อสารที่ไม่เข้าใจกัน ให้กับนายไพซอล และ ส.ส. 3 พี่น้องแห่งพรรคกล้าธรรม ที่ทาง ดร.ซาการียา ได้ส่งนายอับดุลลักษณ์ ลงสมัครเป็นว่าที่นายก อบจ.ก่อน
ซึ่งการเดินทางมามอบช่อดอกไม้และกระเช้าของขวัญในครั้งนี้ มีหัวคะแนนของ 3 พี่น้อง ส.ส.พรรคกล้าธรรม ทั้งกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และประชาชนที่ให้การสนับสนุนพรรคกล้าธรรม กว่า 600 คน ที่เดินทางมาเป็นสักขีพยาน ต่อการแสดงความเสียใจต่อความผิดพลาดของการสื่อสารในครั้งนี้ โดยได้มีการสลับสับเปลี่ยนกันพูดทำความเข้าใจต่อหัวคะแนนและพี่น้องประชาชน ซึ่งในงานแสดงความเสียใจผิดพลาดทางการสื่อสารในครั้งนี้มี ส.ส. 3 คน คือ นายสัมพันธ์ และนายอามินทร์ มะยูโซ๊ะ จากพรรคกล้าธรรม และ ดร.ซาการียา จากพรรคภูมิใจไทย รวมทั้งพี่น้องของทั้ง 2 ตระกูล คือ ตระกูลมะยูโซ๊ะ และตระกูลสะอิ


ซึ่งทุกคนต่างพูดสรุปใจความในทำนองเดียวกันถึงความผิดพลาดของการสื่อสารที่เกิดขึ้น เมื่อเป็นเช่นนี้จึงต้องรวมตัวกันตัดสินใจผนึกกำลังเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ด้วยอุดมการณ์เปลี่ยนเมืองนราธิวาสให้โชติช่วง 25 ปีที่ผ่านมาไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง โดยทุกคนที่มีโอกาสพูดพบปะกับหัวคะแนนและประชาชนผู้ให้การสนับสนุน สอบถามแล้วทุกคนต่างลงความเห็น ต้องการให้เมืองนราธิวาสมีความเปลี่ยนแปลง ก่อนที่จะมีการมอบช่อดอกไม้และกระเช้าของขวัญอย่างเป็นทางการ

และเมื่อการเมืองพลิกผันมีการจับมือกันโดยแยกเป็น 2 ขั้วอย่างชัดเจน คือ ขั้วของนายกูเซ็ง ยาวอหะซัน คนแวดวงพรรคประชาชาติ กับขั้วของนายอับดุลลักษณ์ ที่มีพี่น้อง ส.ส.พรรคกล้าธรรมมือขวาของนายธรรมนัส ที่ได้จับมือกับพรรคภูมิใจไทย ที่ต้องการเปลี่ยนเมืองนราธิวาส ถือว่าเป็นงานใหญ่ที่นายกูเซ็ง ถูกรุมไปโดยปริยาย ซึ่งการลงพื้นที่หาคะแนนเสียงเพื่อตักตวงเข้าตัวเองให้ได้มากที่สุด เชื่อว่านายกูเซ็ง ต้องวางแผนงัดกลยุทธ์ทุกรูปแบบในการต่อสู้ หลังจากทราบข่าวว่าการแข่งขันในครั้งนี้ถือว่าตนถูกรุมแบบ 2 ต่อ 1 หรือเชือกพิงฝา ที่ฝ่ายพี่น้องมือขวาธรรมนัสและภูมิใจไทย ต้องมีดีถึงได้ประกาศสงครามทางการเมืองในครั้งนี้ แถมยังส่งภรรยาของนายสมาน ลงแข่งขันเพื่อดับรัศมีนายกูเซ็ง ให้จงได้ในอีกทางหนึ่ง ซึ่งถือว่านายอับดุลลักษณ์ หรือ น.ส.อาอีซะห์ ใครคนใดคนหนึ่งต้องชนะนายกูเซ็ง ให้จงได้เพื่อให้เกิดความเปลี่ยนของเมืองนราธิวาส ที่ชาวนราธิวาสจะเป็นผู้ตัดสินในวันเลือกตั้ง 1 ก.พ.68 ที่จะถึงนี้

นูอารีซ๊ะ ยะยือริ  รายงาน