ข่าวกระแสสังคม

“พรรคไทยศรีวิไลย์” แถลงนโยบาย 10 ด้าน ลุย ปราบทุจริตคอรัปชั่น ปกป้องสถาบันเต็มขีด จัดการนักโทษหนีคดีหมิ่นสถาบัน-ทุจริต หนีไปตปท. ( ชมคลิป )

เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2561 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศิวิไลย์ นายณัชพล สุพัฒนะ หรือ มาร์ค พิทบูล รองหัวหน้าพรรค   พล.ท.อัศวิน รัชฏานนท์ รองหัวหน้าพรรค  นายวิวัฒน์ เจริญพาณิชย์ศิริ  เลขาธิการพรรคไทยศรีวิไลย์  พร้อมด้วยสมาชิกพรรคและว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ในนามพรรคไทยศรีวิไลย์  ได้จัดการประชุมใหญ่สามัญครั้งที่ 2 แถลงนโยบาย 10 ด้าน  โดยมีว่าที่ผู้ลงสมัครส.ส.เข้าร่วมประชุมกันอย่างคับคั่ง ก่อนหน้านั้นพรรคไทยศรีวิไลย์ได้จัดประชุมใหญ่สามัญครั้งที่ 1 เพื่อเลือกหัวหน้าพรรค รองหัวหน้าพรรคและคณะกรรมการบริหารพรรคที่ประชุมมีมติเลือก นาย มงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ เป็นหัวหน้าพรรคและ นายณัชพล สุพัฒนะ หรือ มาร์ค พิทบูล เป็นรองหัวหน้าพรรค และได้ยื่นจดทะเบียนจัดตั้งพรรคต่อ กกต. เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2561

โดยในที่ประชุม นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ได้กล่าวกับสมาชิกพรรคที่เข้าร่วมประชุมเพื่อมอบนโยบายของพรรคและทำความเข้าใจในเรื่องข้อกฏหมายที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้ง และแนวทางปฏิบัติในการหาเสียงให้มีการปฏิบัติอย่างถูกต้องตามที่กฎหมายกำหนด

         นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ กล่าวถึงนโยบาย 10 ด้าน ของพรรคไทยศรีวิไลย์ นโยบายด้านปราบปรามทุจริต ก่อนหน้านั้น ปปช.ออกฏหมายให้ ข้าราชการระดับสูงยื่นบัญชีทรัพย์สิน แต่ปรากฏว่า ข้าราชการไม่ยอมรับการตรวจสอบ ออกม.44 ยกเลิกคำสั่งดังกล่าว ซึ่งประชาชนรับไม่ได้    ดังนั้นคำสั่งใดของคสช.ที่ยกเลิกการชี้แจงบัญชีทรัพย์สินข้าราชการ  เราจะยกเลิกทั้งหมดเมื่อเราได้อำนาจ ข้าราชการระดับสูงทุกคนจะต้องยื่นชี้แจงบัญชีทรัพย์สินทั้งหมด แล้วพรรคไทยศรีวิไลย์ก็จะเร่งรัดการตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินของนักการเมือง ที่ถูกร้องเรียนว่าร่ำรวยผิดปกติให้เร่งรัดรวดเร็วเด็ดขาด  ส่วนเรื่องการสอบบรรจุแต่งตั้งข้าราชการ ปัจจุบันมีการทุจริตเกือบทุกหน่วยงาน มี 2 รูปแบบคือโกงข้อสอบ ใช้สิทธิพิเศษของการเป็นปลัดกระทรวงอธิบดีแต่งตั้งลูกหลานของตัวเองเข้าไปด้วยคะแนนพิเศษ เราจะยกเลิกระบบนี้ทั้งหมด    การสอบบรรจุเข้ารับราชการในอนาคตจะเป็นการสอบแบบปรนัย 50% อัตนัย 50% เชื่อว่าระบบนี้จะไม่มีการคอรัปชั่น ถ้าเราได้ข้าราชการที่ดีเขาจะมาทำงานให้เรา ถ้าเราได้ข้าราชการขี้โกงเขาก็จะมากดขี่ข่มเหงเรา แนวทางนี้เราชัดเจน นอกจากนี้เราจะยกเลิกระบบคะแนนพิเศษให้กับ ข้าราชการต่างๆ ปลัดกระทรวง อธิบดี เข้าบรรจุเข้ารับราชการ ซึ่งประชาชนลูกหลานคนยากคานจนทุกคนมีสิทธิ์ สอบบรรจุเข้ารับราชการด้วยคะแนนความสามารถของตัวเอง

นายมคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ กล่าวถึง นโยบายแนวทางการเพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกร ปัจจุบันสินค้าราคาเกษตรตกต่ำ ไม่ว่าจะเป็น ปาล์ม อ้อย ลำใย ข้าว ยาพารา มะพร้าว เกษตรกรเดือดร้อนมาก ซึ่งนโยบายของพรรคในการเพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกร เราจะไม่ใช้เงินในอนาคต หรือใช้เงินแผ่นดินมาแก้ปัญหา  เราจะใช้วิธีในการออกกฎหมาย กำหนดราคาสินค้าขายภายในประเทศ หมายความว่า เราจะดูก่อนว่าต้นทุนของพี่น้องเกษตรกรเท่าไหร่ หลังจากนั้นเราจะเปรียบเทียบ เช่นถ้าข้าวต้นทุน 7,000 เราจะเพิ่มให้เขา 20% ให้เขามีกำไรแต่เราจะไม่ใช้เงินรัฐซื้อ เราจะออกกฎหมายให้พ่อค้าคนกลางรับซื้อ พ่อค้าคนกลางไม่รับซื้อ หรือรับซื้อต่ำกว่าราคาที่เรากำหนดติดคุก เมื่อพ่อค้าคนกลางรับซื้อไปแล้วเรากำหนดราคาขายของพ่อค้าคนกลางกับผู้บริโภค หมายความว่าเราจำกัดพ่อค้าคนกลางว่าควรจะได้กำไรเท่าไหร่

นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ กล่าวต่อไปอีกว่า เรื่องปุ๋ย เรื่องผลิตภัณฑ์ต่างๆ ปัจจุบันปุ๋ยเคมี ซื้อในราคาถูกแต่ขายในราคาแพง เราจะแก้ไขคณะกรรมการกำหนดราคาปุ๋ยทั่วประเทศทั้งหมด เราจะผลักดันให้มีปุ๋ยที่ผลิตขึ้นมาเองไม่มีสารพิษ ส่วนปุ๋ยที่มีสารเคมีเราจะเอาออกให้หมดเพื่อไม่ให้พี่น้องประชาชนป่วยเป็นมะเร็ง  นอกจากนั้นจะมีการจัดการบริหารหนี้ให้แก่เกษตรกรทั้งหมด แต่ไม่ใช่การยกเลิกหนี้ เราจะใช้วิธีจัดการเรื่องดอกเบี้ย เรื่องการผ่อนปรนในระยะเวลาที่กำหนด กำหนดอัตราในการให้สินเชื่อเกษตรกรใหม่ทั้งหมด เพื่อให้เกษตรกรเดินได้  และดอกเบี้ยต้องเป็นธรรม

ส่วนนโยบายเรื่องพลังงานที่ประเทศไทยขายแพงกว่ามาเลเซีย ในเมื่อพลังงานมันอยู่ในตลาดหลักทรัพย์แล้ว เราจะออกพันธบัตรให้กับพี่น้องประชาชนซื้อหุ้นคืนอีกประมาณ 33 %  เมื่อเราซื้อคืนนั่นหมายความว่ากำไร 33% เราไม่ต้องแบ่งใคร พี่น้องประชาชนไม่ต้องใช้น้ำมันที่แพงกว่ามาเลเซีย  ส่วนนโยบายด้านการสาธารณสุข เราจะกำหนดงบประมาณรายหัวเพิ่มเติมให้กับพี่น้องประชาชนด้านการรักษาพยาบาล ส่งเสริมให้มีการใช้สมุนไพรรักษาโรคไม่ว่าจะเป็นมะเร็งเบาหวานความดัน หัวใจ ลูคีเมีย หรือภูมิคุ้มกันบกพร่อง สนับสนุนส่งเสริมให้ใช้สมุนไพร  ปัจจุบันยาที่นำเข้าจากต่างประเทศไม่สามารถรักษาน้องประชาชนชาวไทยได้เลย

นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ กล่าวต่อไปอีกว่า นโยบายคืนความเป็นธรรมให้ธุรกิจชุมชนหรือ SME  หรือเรียกว่าโชว์ห่วย เราจะออกกฎหมายห้ามทุนใหญ่ทำการแข่งขันกับธุรกิจชุมชน อาทิ เซเว่นอีเลฟเว่น มินิมาร์ท หรือมินิสโตร์ เปิดได้ไม่เกิน 30 เปอร์เซ็นต์ นั่นหมายความว่าทุนใหญ่เป็นเจ้าของได้ 30 % อีก 70 %  เราจะคืนให้กับพี่น้องประชาชน  ต้องขายให้กับพี่น้องประชาชนร่วมเป็นเจ้าของ ต่อไปเราจะไม่มีเซเว่นที่เป็นเจ้าของคนเดียวหรือมินิสโตร์จะเป็นเจ้าของคนเดียวเราจะคืนธุรกิจให้กับชุมชนได้เป็นเจ้าของด้วย  ส่วนนโยบายด้านรัฐวิสาหกิจ   เราไม่มีแนวทางแปรรูปรัฐวิสาหกิจให้กับเอกชน รัฐวิสาหกิจมีหน้าที่คานอำนาจราคาให้กับเอกชน เพื่อไม่ให้เอกชนผูกขาดหรือสมยอมเอกชน  พนักงานบางคนที่เข้า 10.00น.เลิก 14.00น.จะไม่มี จะต้องเข้า 8:00 น .เลิก 17:00 น การจัดซื้อจัดจ้างทุกอย่างต้องรัดกุมต้องใช้งานได้แล้วก็ได้ผลกำไร ใช้งานได้ประสิทธิภาพ

นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ กล่าวถึง นโยบายด้านการรักษาความมั่นคงภายในประเทศ เมื่อได้เป็นรัฐบาลเราจะกำจัดและปราบปรามขบวนการทำลายสถาบัน ทั้งในประเทศและนอกประเทศ แบบถึงลูกถึงคน นั่นหมายถึงเว็บไซต์ต่างๆ ยูทูป ที่โจมตีสถาบันพระมหากษัตริย์ ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ เราจะจัดการแบบรวดเร็วและดุดัน  ตามจับนักโทษหนีคดี ที่หนีไปต่างประเทศไม่ว่าจะเป็นคดีทุจริต คดีหมิ่นสถาบัน ประสานนำตัวเข้ามาดำเนินคดีที่ไทย ประหารนักโทษที่หนีคดีทุจริตที่มีความเสียหายแก่ประเทศ ประหารผู้ที่ก่อคดีอุฉกรรจ์ฆ่าข่มขืน ตัดอวัยวะเพศ ประหารพ่อค้ายาเสพติด

นโยบายด้านการทหาร ทำนุบำรุงขวัญทหารดูแลทหารอาวุธยุทโธปกรณ์ให้พร้อมรบตลอดเวลา  เมื่อถามว่าทำไมต้องพร้อมรบตลอดเวลา นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์กล่าวว่า  การทำมาค้าขายระหว่างประเทศ ถ้าไม่มีกำลังทหารพร้อมรบเขาจะไม่จ่ายเงิน เพราะฉนั้นกำลังทหารมีส่วนสำคัญ  ถ้ากองทัพเข้มแข็งธุรกิจเราก็จะเข้มแข็งประชาชนก็จะปลอดภัย เราต้องพัฒนากองทัพไทยให้ก้าวสู่กองทัพโลกติด 1 ใน 10 ภายใน 5 ปี เพื่อปกป้องสเถียรภาพ ผลประโยชน์ของคนในชาติเป็นสำคัญ

นโยบายด้านการศึกษา กำจัดระบบแป๊ะเจี๊ยะ รับเงินใต้โต๊ะ ลดเงินเดือนข้าราชการ คณบดี รองคณบดี อธิการบดี ในมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐ(ม.นอกระบบ)  ให้ใกล้เคียงกับจุดเดิม เพื่อนำไปลดค่าเทอมนักศึกษาในระดับชั้น ป.ตรี-โท-เอก  นักเรียนตั้งแต่ อนุบาล ประถม มัธยม ปัจจุบันยังเสียค่าบำรุงการศึกษา ปีละกว่า 6 หมื่นล้านบาท เมื่อเราได้เป็นรัฐบาล เด็กนักเรียนจะต้องไม่เสียค่าบำรุงการศึกษา จะได้ไม่ต้องรบกวนผู้ปกครองเพราะรัฐต้องดูแลอย่าให้เป็นภาระผู้ปกครอง

มงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ กล่าวต่อไปอีกว่า  แนวทางเรื่องหนี้สินครู จะตั้งตั้งธนาคารครูแห่งประเทศไทย โดยรัฐบาลเข้ามาเป็นหุ้นส่วน ส่วนหนึ่งประมาณ 25% อีก 75% ให้ประชาชนชาวไทยร่วมมาเป็นเจ้าของ เจรจาปรับลดดอกเบี้ย-เบี้ยปรับทั้งหมด หรือ เรียกว่าซื้อหนี้คืนจาก ธนาคารออมสิน ธนาคารกรุงไทย และ สหกรณ์ออมทรัพย์ครูต่างๆ จำนวนกว่า 9 แสนราย ข้าราชการส่วนอื่นๆ ใช้ในแนวทางเดียวกันทั้งหมด   นโยบายลดหนี้รัฐสร้างสวัสดิการประชาชน คือเรายกเลิกหมายเลขธนบัตรหมายเลขเดิม แล้วเปลี่ยนเป็นหมายเลขใหม่ นำเงินที่พิมพ์หมายเลขใหม่ชดเชยเงินที่ไม่มีที่มาไม่สามารถชี้แจงได้ว่าเงินมาจากไหน นำเงินส่วนนี้ใช้หนี้รัฐ อีกส่วนทำสวัสดิการประชาชน  ดูแลประชาชนตั้งแต่เกิดยันตาย ให้กับพี่น้องประชาชนทั้งประเทศ  นายมงคลกิตติ์ กล่าวทิ้งท้าย ….

     ด้าน นายณัชพล สุพัฒนะ หรือ มาร์ค พิทบูล  รองหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์กล่าวว่า พรรคไทยศรีวิไลย์ เป็นพรรคที่ใช้เงินน้อยที่สุดในการหาเสียง วันนี้ผมใช้มือถือแค่เครื่องเดียว เหมาจ่ายเดือนละ 900 บาท  พรรคการเมืองอื่นใช้เงินเป็นพันล้าน  ส่วนผมใช้เงินวันละ 30 บาทในการหาเสียง เหมาจ่ายเดือนละ 900 บาท ใช้มือถือในการเฟซบุ๊กไลฟ์  สถิติสูงสุด 3  ล้าน 5 แสนคน ที่ดูผม นั่นหมายความว่า โลกออนไลน์เข้าถึงทุกพื้นที่ ประชากรไทยมีมือถือทุกคน ผมไม่เคยกลัวที่รัฐบาลบอกว่าไม่ให้หาเสียงด้วยการทุ่มเงิน เราไม่จำเป็นต้องใช้เงิน ผมมั่นใจว่าชาวบ้าน 30 คน ต้องรู้จัก มาร์ค พิทบูล 5 คน

นายณัชพล สุพัฒนะ รองหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์กล่าวถึงการลงพื้นที่ภาคใต้ว่า พี่น้องภาคใต้บอกกับผมว่า อยากลองของใหม่ ที่ผ่านมาเขาไม่ได้ชอบพรรคการเมืองเดิม แต่เขาไม่มีตัวเลือก เขาเลยเลือกพรรคเดิม ผมเชื่อว่าพื้นที่ภาคใต้เรามีศักยภาพพอที่จะได้สส.

ชมคลิป….

https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=372327233344210&id=845282742321873

 

https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=243224536604423&id=845282742321873