กลางดึก 27 ตุลาคม 2567 ร.ต.อ.วิศรุต สุขสกุล รองสารวัตร(สอบสวน) สภ.กันทรารมย์ อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลกันทรารมย์ ว่าได้มีชายไทยไม่ทราบชื่อ ได้รับบาดเจ็บจาการการถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบขนาด เข้ามารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาล จึงรีบเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.กันทรารมย์ เมื่อไปถึงพบผู้บาดเจ็บ ทราบชื่อคือ นายกิตติศักดิ์ วงค์เศษ หรือ ติ๊ก อายุ 24 ปี ชาว ต.น้ำเกลี้ยง อ.น้ำเกลี้ยง จ.ศรีสะเกษ ถูกยิงด้วยอาวุธปืนเข้าที่บริเวณใต้ราวนมข้างซ้าย จำนวน 1 นัด อาการสาหัส กำลังนอนให้แพทย์ทำการรักษาอาการบาดเจ็บอยู่ที่ห้องฉุกเฉิน รพ.กันทรารมย์ จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อยามมาฮ่า ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน สภาพเก่าจอดอยู่ที่เกิดเหตุได้รับความเสียหาย ต่อมาได้รับแจ้งจากโรงพยาบาลกันทรารมย์ แจ้งว่าผู้บาดเจ็บได้เสียชีวิตแล้ว จากการตรวจสอบภายในกระเป๋ากางเกงข้างขวาของผู้ตายพบยาบ้า จำนวน 25 เม็ด ซุกซ่อนอยู่ ส่วนคนร้ายยังไม่ทราบว่าเป็นผู้ใด
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้เดินทางลงพื้นที่บ้านของ นายกิตติศักดิ์ ผู้ตาย ใน อ.น้ำเกลี้ยง จ.ศรีสะเกษ ไปพบกับ น.ส.กัญญา ยศศิริ ซึ่งเป็นญาติ ลูกพี่ลูกน้อง ของผู้ตายเล่าว่า ตนเพิ่งทราบข่าวว่า นายกิตติศักดิ์ ถูกยิงเสียชีวิตเมื่อช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา ก็รู้สึกตกใจ และเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งบ้านหลังดังกล่าว มี นายกิตติศักดิ์ อาศัยอยู่ด้วยกัน 2 คนกับน้องชายคนเล็ก ส่วนพี่ชายคนโต ทำงานอยู่กรุงเทพฯ พ่อแม่หย่าร้างงาน แม่แยกตัวออกไปทำงานที่กรุงเทพฯ ส่วนพ่ออาศัยอยู่ในบ้านอีกหลังในหมู่บ้านเดียวกัน จากการสอบถามแฟนสาวของ นายกิตติศักดิ์ เล่าให้ตนฟังว่า ก่อนเหตุช่วงเวลาประมาณ 22.00 น. ได้มีโทรศัพท์โทรเข้ามาที่เครื่องของ นายกิตติศักดิ์ หลังวางสาย นายกิตติศักดิ์ ได้เดินออกจากบ้านไปพบกับใครคนหนึ่ง ที่ลานฝั่งตรงข้ามบ้าน ซึ่งเป็นมุมมืดสนิท แต่ไม่รู้ไปคุยอะไรกัน จากนั้นไม่นาน นายกิตติศักดิ์ ก็ได้เดินกลับเข้ามาที่บ้าน แล้วขับรถจักยานยนต์ออกจากบ้านไป โดยไม่ได้บอกว่าจะไปไหน ซึ่งแฟนสาวก็ได้โทรศัพท์ตามหาทั้งคืน แต่ก็ไม่สามารถติดต่อได้ กระทั่งรุ่งเช้ามาทราบข่าวว่าถูกยิงเสียชีวิตแล้ว โดยปกติเป็นคนนิสัยดี เป็นมิตรกับเพื่อนๆ ตนก็ไม่รู้ว่าไปมีปัญหาอะไรกับใครมาก่อนหรือไม่
ด้าน นายบี (นามสมมุติ) อายุ 24 ปี เพื่อนของ นายกิตติศักดิ์ เล่าว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นตนเชื่อว่า อาจมาจากปัญหา 2 ประเด็นหลัก คือ ประเด็นชู้สาว เพราะผู้ตายเป็นคนหน้าตาดี และประเด็นปัญหาเกี่ยวกับยาเสพติด แต่เชื่อว่าต้องมีคนชักจูงหลอกลวงให้ออกจากบ้านไป เขาถึงออกไปคนเดียว เมื่อได้โอกาส จึงเกิดการลอบสังหารโหดกลางทาง ซึ่งข้อมูลคลี่คลายคดีนี้ น่าจะอยู่ที่โทรศัพท์มือถือของผู้ตาย เพราะหลังได้รับโทรศัพท์แล้วได้รีบขับรถออกไป แต่ตอนนี้ที่ตนทราบข้อมูล คือ โทรศัพท์ของผู้ตาย หน้าจอแตก เปิดไม่ติด
ด้าน นายสมพร (นามสมมุติ) อายุ 36 ปี ซึ่งบ้านอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุ เล่าว่า เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา ตนพร้อมครอบครัว เพื่อน และญาติ ได้จัดงานเลี้ยงฉลองวันเกิดอยู่ที่บ้าน จากนั้นช่วงเวลาประมาณ 22.30 น. ได้มีเสียงรถจักยานยนต์ ขับออกจากหมู่บ้าน มุ่งหน้าไปทางบ้านค้อ ห่างจากจุดเกิดเหตุไปประมาณ 200 เมตร จากนั้นเสียงรถเงียบไป สักพักก็ได้ยินเสียงดังคล้ายเสียงปืนดังขึ้น 3 ครั้ง ติดต่อกัน แล้วก็เห็นรถจักยานยนต์คันเดิมดังกล่าว ขับกลับเข้ามายังหมู่บ้าน แล้วได้เกิดรถสะบัดก่อนทางเข้าหมู่บ้าน จนเสียหลักล้มลง แล้วไถลกลิ้งไปทะลุป้ายบอกเส้นทาง ไปนอนอยู่ริมถนนหน้าป้ายดังกล่าว ตนและเพื่อนๆจึงรีบวิ่งออกไปดู และก็พบวัยรุ่นในหมู่บ้านกำลังช่วยกันปฐมพยาบาล ตอนนั้นตนก็คิดว่าแค่อุบัติเหตุรถล้ม ผู้บาดเจ็บมีอาการชักเกร็ง ตนก็รู้สึกตกใจ จึงรีบโทรศัพท์แจ้ง 1669 กระทั่งมีหน่วยกู้ชีพของ อบต.จาน มาช่วยเหลือนำส่ง รพ.กันทรารมย์ ดังกล่าว
ด้าน นายชาญ พิมพ์สมาน อายุ 56 ปี เจ้าหน้าที่กู้ชีพกู้ภัย อบต.จาน กล่าวว่า ตนได้รับแจ้งจาก รพ.กันทรารมย์ ว่ามีเหตุรถจักยานยนต์ล้ม จึงรีบออกไปช่วยเหลือ เมื่อไปถึงก็พบว่า มีพลเมืองดีกำลังช่วยกันป้ำหัวใจ ในสภาพนอนหงาย เมื่อไปเห็นผู้บาดเจ็บมีอาการสาหัส ตนจึงรีบนำร่างผู้บาดเจ็บใส่แปลขึ้นรถฉุกเฉิน นำส่ง รพ.กันทรารมย์ ซึ่งในช่วงนำส่งโรงพยาบาลนั้น พบว่าผู้บาดเจ็บยังมีสัญญาณชีพอยู่ แต่คาดว่าอาจทนพิษบาดแผลไม่ไหว จึงเสียชีวิตในเวลาต่อมา ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจกำกลังเร่งตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดเพื่อติดตามหาตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายโดยเร็วต่อไป
ทีมข่าว จ.ศรีสะเกษ รายงาน
