28 มีนาคม 2567 ตามที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติเป็นโจทก์ยื่นฟ้องระหว่างบริษัท บุญนำโชคพัฒนา จำกัดที่1กับพวกรวม 7 คน โดยกล่าวหาบริษัท บุญนำโชคพัฒนา จำกัด ขายแบบการก่อสร้างฮั้วกันราคาสูงกว่าความเป็นจริงซึ่งคดีได้มีการฟ้องจำเลยจำนวน 7 รายประกอบด้วย นายบุญเชิด แจ้งเวชฉาย นายอภิชาต ธนกันยา นายบุญส่ง ณรงค์ศักดิ์ และนายสายัณ นพขำ อดีตนายกเทศบาลตำบลบ้านกลาง และนิติบุคล 3 ราย โดยคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง ได้ฟ้องคดีหมายเลขดำที่ อท 101/2565 อท 110/2565
โดยผู้ต้องหาทั้งสี่รายและนิติบุคลทั้งสามรายได้ต่อสู้ในการกล่าวหาของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค1 จังหวัดสระบุรี ตั้งแต่ปี พ.ศ.2565 ได้ต้องสู้กันมาจนในวันนี้ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค1ได้ตัดสินยกฟ้องผู้ต้องหาทั้งสี่คนและนิติบุคลอีกสามรายไม่มีคาวมผิดตามที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติเป็นโจทก์ยื่นฟ้องคดีดังกล่าว
ทั้งนี้เหตุเกิดจาก นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร อดีต ผวจ.ปทุมธานี ได้ลงนามเซ็นคำสั่งในหนังสือ คำสั่งจังหวัดปทุมธานีฯ ให้นายกเทศมนตรีตำบลบ้านกลางพ้นจากตำแหน่ง โดยหนังสือลงวันที่ 31 ตุลาคม 2565 มีเนื้อหาทั้งหมด 14 หน้ากระดาษ ระบุ สืบเนื่องมาจาก จังหวัดปทุมธานี ได้รับแจ้งจากกระทรวงมหาดไทยว่า สำนักงาน ป.ป.ช. ได้มีหนังสือถึง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย แจ้งว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช.ได้รับเรื่องกล่าวหานายสายัณ นพขำ นายกเทศมนตรีตำบลบ้านกลาง และเมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านกลาง อำเภอเมืองปทุมธานี จังหวัดปทุมธานี ได้ร่วมกับพวกกระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ หรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ กรณีกำหนดราคา ขายเอกสารประกวดราคาโครงการก่อสร้างถนน เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านกลาง ซึ่งคณะกรรมการ ป.ป.ช.ได้รับไว้พิจารณา
โดยมอบหมายคณะผู้ไต่สวนเบื้องต้นเพื่อดำเนินการไต่สวนข้อเท็จจริง และรวบรวมพยานหลักฐานพร้อมทั้งจัดทำรายงานการไต่สวนเบื้องต้นเสนอต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. เพื่อพิจารณา และคณะกรรมการ ป.ป.ช ได้พิจารณารายงานการไต่สวนเบื้องต้นดังกล่าวแล้ว มีมติว่า การกระทำของนายสายัณ นพขำ ผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 มีมูลความผิดทางอาญาฐานเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใดๆ ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยทุจริต อันเป็นการเสียหายแก่รัฐ เทศบาล สุขาภิบาล หรือเจ้าของทรัพย์นั้น และฐานเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ดังนั้น เมื่อข้อเท็จจริงปรากฏว่า นายสายัณ อยู่ดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีตำบลบ้านกลางต่อเนื่องตั้งแต่ พ.ศ. 2555 และได้พ้นจากตำแหน่งนายกเทศมนตรีตำบลบ้านกลาง เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2564
สญชัย คล้ายแก้ว รายงาน