ข่าว นราธิวาส ข่าวรอบรั้วภูธร ข่าวเด่น

ชาดาจับมือธรรมนัส ควง 7 ส.ส.อ้อนชาวนราฯ ดับฝันกูเซ็ง บอกถึงเวลาปิดสวิตซ์ 3 ก. 25 ปี ชาวนราได้อะไรบ้าง

27 มกราคม 68 ที่ผ่านมา ที่บริเวณสวนสาธารณะมิ่งขวัญประชา อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา พรรคกล้าธรรม และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมด้วยนายชาดา ไทยเศรษฐ ส.ส.อุทัยธานี พรรคภูมิใจไทย และอดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้ร่วมกันเดินทางลงพื้นที่ช่วยหาเสียงให้กับนายอับดุลลักษณ์ สะอิ ผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นนายก อบจ.นราธิวาส ซึ่งเป็นคู่แข่งของนายกูเซ็ง ยาวอหะซัน อดีต นายก อบจ.5 สมัย ที่ถือว่าคร่ำหวอดการเมืองระดับท้องถิ่น ซึ่งมีพี่น้องประชาชนที่เดินทางจาก อ.ตากใบ แว้งและสุไหงโก-ลก จำนวนร่วม 15,000 คน คอยให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น ด้วยการคล้องพวงมาลัยและมอบดอกกุหลาบสีแดง ตลอดเส้นทางที่มุ่งหน้าสู่เวทีปราศรัย

ซึ่งการเดินทางมาช่วยหาเสียงของ ร.อ.ธรรมนัส ในครั้งนี้ได้นำ ส.ส.พรรคกล้าธรรมจากภาคตะวันตก ภาคเหนือ ภาคกลางและภาคใต้ จำนวน 6 คน มาเป็นพี่เลี้ยงให้กับนายอับดุลลักษณ์ หรือแบเลาะห์ ในการปรับกลยุทธ์เทคนิคการขอคะแนนเสียงจากพี่น้องประชาชน ที่ต้องมีการประเมินหลังจากลงพื้นที่ โดยเฉพาะในช่วงใกล้โค้งสุดท้ายที่จะต้องเติมเต็มเหนือชัยชนะคู่แข่ง ซึ่งให้ได้มาเสียงสนับสนุนของพี่น้องประชาชน
โดยนายชาดา ได้รับเกียรติให้ขึ้นกล่าวปราศรัยพบพี่น้องประชาชน ซึ่งประเด็นหลักๆ 25 ปีชาวนราธิวาสได้อะไรบ้างถึงเวลาต้องเปลี่ยนมั๊ย และได้กล่าวปราศรัยพอสรุปใจความเกี่ยวกับการทำงานของนายกูเซ็ง อดีตนายก อบจ.ว่า มันดีเมื่อ 25 ที่แล้วไม่ใช่วันนี้ 25 ปีที่แล้วรถใช้น้ำมันเบนซินมาพัฒนาเป็นมันน้ำดีเชล แต่วันนี้เขาใช้รถไฟฟ้ากันแล้ว ส.ส.บีลา ส.ส.อามินทร์ อยู่พรรคกล้าธรรม แต่วันนี้เรามารวมกันเพื่อชาวนราธิวาส เพื่อต้องการให้นราธิวาสเปลี่ยนแปลง เมื่อสักครู่แสงแฟลชจากโทรศัพท์ที่ชาวบ้านร่วมกันเปิด ผมอยากให้นราธิวาสสว่างแบบนั้น ทำงานกันเป็นทีมมันได้ผลลัพธ์กลับมา วันนี้อุทัยธานีบ้านผมศุกร์เสาร์อาทิตย์อย่าว่าแต่โรงแรมเลย โฮมสเตย์ยังเต็ม อบจ.มีงบประมาณมากกว่า ส.ส.ส่วน ส.ส.ไม่มีงบประมาณถ้าต้องการก็ต้องขอเค้าเสนอผ่านสภา แต่ อบจ.นั้นคิดจะทำก็ทำได้ทันทีที่นี่ทำอะไรบ้าง ถือว่าพี่น้องชาวนราธิวาสมีความอดทนสูง ผมเชื่อว่าทุกคนรอคอยวันนี้ที่ต้องเปลี่ยน


ต่อมา ร.อ.ธรรมนัส ได้ขึ้นกล่าวปราศรัยบนเวที พร้อมทั้งได้แนะนำ ส.ส.6 คน ซึ่งเป็นตัวแทนจากพี่น้องประชาชนภาคต่างๆ ที่ได้ร่วมเดินทางมาด้วยให้พี่น้องประชาชนชาวนราธิวาส ที่ได้เดินทางมารับฟังการปราศรัยในครั้งนี้ได้รู้จัก พร้อมกล่าวว่าถ้าทุกคนเลือกเบอร์ 2 หรือแบเลาะห์ เราจะได้เพื่อนๆอีกหลายจังหวัด ที่จะร่วมมาผลัดดันพัฒนา จ.นราธิวาส ข้าวทุกเม็ดที่หล่อเลี้ยงผมที่นราธิวาสบ้านเกิด นั้นคือบุญคุณของแผ่นดิน ที่วันหนึ่งธรรมนัสมีโอกาสแล้วที่จะพัฒนาบ้านเกิดไม่ให้น้อยหน้าใครๆ ทำไมคนนราธิวาสมีเฉลี่ยต่อหัวน้อยที่สุดในประเทศไทย มันน่าเจ็บใจมั๊ยก็เพราะพวกท่านใช้ของเก่าๆแก่ๆ (ซึ่งหมายถึงตัวนายกูเซ็ง อดีต นายก อบจ.5 สมัย) ผมไม่ได้มาในนามพรรคกล้าธรรม ผมมาในนามพรรคเพื่อนผม พรรคเพื่อนผมคือ แบเลาะห์เบอร์ 2 ท่านอย่าลืมอะไรก็ลืมได้แต่อย่าลืมกาหมายเลข 2 แบเลาะห์

และหลังจาก ร.อ.ธรรมนัส และนายชาดา สลับสับเปลี่ยนกันขึ้นกล่าวปราศรัยแล้วเสร็จ ถึงคิวของนายอับดุลลักษณ์ หรือ แบเลาะห์ ก็ยังคงมีพี่น้องประชาชนชื่นชอบมีการสอบพวงมาลัยและดอกกุหลายสีแดง เหมือนเช่นเวทีในพื้นที่ อ.ระแงะ และรือเสาะ โดยนายอับดุลลักษณ์ ได้กล่าวปราศรัยถึงนโยบาย พอสรุปใจความว่า ขอเวลา 3 เดือนหลังจากได้รับชัยชนะ จะรีบทำตามนโยบายให้เห็นเป็นรูปธรรม ที่เราได้รับความร่วมมือกับ ส.ส.พรรคกล้าธรรม และ ส.ส.พรรคภูมิใจไทย ซึ่งเป็นตัวแทนของพี่น้องชาวนราธิวาสให้รับชัยชนะในการเลือก ส.ส.ครั้งที่ผ่านมาทั้ง 3 คน ซึ่งถือว่าเป็นพันธมิตรทางการเมือง จะร่วมกันผลัดดันและพัฒนานราธิวาสในทุกรูปแบบอย่างแน่นอน


แต่ถึงอย่างไรก็ตามในช่วงก่อนหน้านี้ ที่ ร.อ.ธรรมนัส และนายชาดา จะเดินทางมาถึงเวทีปราศรัย นายสัมพันธ์ และนายอามินทร์ มะยูโซ๊ะ 2 พี่น้อง ส.ส.พรรคกล้าธรรม ได้มีโอกาสขึ้นปราศรัยเป็นการเรียกน้ำย่อยก็ว่าได้ ในเรื่องของการบริหารงานของนายกูเซ็ง อดีต นายก อบจ.นราธิวาส 5 สมัย ซึ่งเป็นคู่แข่ง 1 เดียวของนายอับดุลลักษณ์ หรือ แบเลาะห์ ที่ล้มเหลว 25 ปีชาวนราธิวาสได้อะไรบ้าง ซึ่ง ส.ส.2 พี่น้องได้กล่าวปราศรัยในลักษณะทำนองเดียวกัน เพื่ออ้อนขอคะแนนเสียงจากพี่น้องประชาชน ทุกคนถึงเวลาร่วมกันปิดสวิตซ์ 3 ก. แล้ว ( ซึ่งหมายถึง ก.ที่ 1 คือ นายกูเซ็ง อดีต นายก อบจ.5 สมัย ซึ่งเป็นคู่แข่งของนายอับดุลลักษณ์ หรือ แบเลาะห์ ก.ที่ 2 คือ นายกูเฮง ยาวอหะซัน ลูกชายของนายกูเซ็ง อดีต ส.ส.นราธิวาส และ ก.ที่ 3 คือ กูบีลอ หรือ นายวัชระ ยาวอหะซัน ลูกชายคนที่ 2 ของนายกูเซ็ง ส.ส.นราธิวาส 3 สมัย พรรครวมไทนสร้างชาติ ) ซึ่งที่ผ่านมาถือว่าไม่ได้ทำอะไรให้ชาวนราธิวาสเป็นชิ้นเป็นอัน สมควรมั๊ยที่จะให้แบเลาะห์คนรุ่นใหม่ไฟแรงมาเป็นตัวแทนของพี่น้องประชาชน แทนนายกูเซ็ง ซึ่งตลอดการปราศรัยสามารถเรียกเสียงตบมือและโห่ร้องจากพี่น้องประชาชนได้เป็นช่วงๆ

แต่ถึงอย่างไรก็ตามทราบว่าในวันที่ 30 ม.ค. 68 ที่จะถึงนี้ นายกูเซ็ง ยาวอหะซัน อดีต นายก อบจ. 5 สมัย และนายอับดุลลักษณ์ สะอิ หรือ แบเลาะห์ จะเปิดเวทีปราศรัยหาเสียงช่วงโค้งสุด เป็น 2 เวทีคู่ขนาดในเวลาเดียวกัน ทราบจากวงในว่า จะมีพี่น้องประชาชนซึ่งเป็นคอการเมือง จะเดินทางมาฟังการกล่าวปราศรัยในครั้งนี้ โยเฉพาะผู้ที่ชื่นชอบนายอับดุลลักษณ์หรือ แบเลาะห์ ประมาณ 15,000 คน ถึง 20,000 คน ก่อนที่พี่น้องประชาชนจะเข้าคูหาในวันที่ 1 ก.พ.68 ที่จะถึง ใครจะได้รับชัยชนะหรือสามารถโน้มน้าวถึงนโยบายดลใจประชาชนได้มากที่สุด

นูอารีซ๊ะ ยะยือริ  รายงาน