แม่วัย 37 ปีที่ผูกคอเสียชีวิตคาบ้าน ให้ลูกสาววัย 7 ขวบนั่งเฝ้าศพแม่ทั้งคืนยันเช้า และยังเป็นข้อกังขาสภาพการผูกคอตายในท่านอน แพทย์ระบุเชือกที่ผูกคอไม่ถึงกับทำให้ตาย คาดกินยาเกินขนาด หลังพบมียาหลายชนิดในกระบุกเกือบหมด ขณะลูกสาวเผยแม่สั่งเสียก่อน พร้อมเล่านาทีระทึกพยายามตัดเชือกจากคอแม่
วันที่ 27 ธ.ค.กรณีนางปรารถนา ผมน้อย อายุ 37 ปี ชาวบ้านหมู่ 5 ต.หนองโสน อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ ผูกคอตายเสียชีวิตบนที่นอนคาบ้านพักลักษณะเพิงพักมุงด้วยสังกะสีชั้นเดียว และกลายเป็นภาพสะเทือนใจเมื่อพบว่าลูกสาววัย 7 ขวบ นั่งเฝ้าศพแม่ทั้งคืนจนรุ่งเช้า เพื่อรอคนมาพบ
และกลายเป็นประเด็นขึ้นมาหลังจากสภาพการผูกคอตายของนายปรารถนา อยู่ในลักษณะนอนคว่ำกับที่นอน มีเพียงเชือกเส้นเล็กๆพันคอไว้ ทำให้หลายคนตั้งข้อสังเกตว่าการผูกคอตายในลักษณะดังกล่าวจะทำให้เสียชีวิตได้หรือไม่
ล่าสุดได้รับคำอธิบายของแพทย์จากโรงพยาบาลนางรอง ว่าเลือกที่พันคอของผู้ตายไม่สามารถจะทำให้เสียชีวิตได้ เพราะไม่มีแรงถ่วงที่จะดึงให้หลอดลมตีบจนไม่มีอากาศหายใจได้
จากหลักฐานที่ตำรวจเก็บมาได้ พบว่ามียาหลายชนิดเช่นยาแก้แพ้ ยาคลายเครียด หายไปจากกระปุกเกือบทั้งหมด ซึ่งอาจเป็นไปได้ว่าผู้ตายจะกินยาเกินขนาดทำให้เกิดการช็อกและเสียชีวิตได้ ทั้งนี้ตำรวจและแพทย์ก็พร้อมที่จะนำร่างไปผ่าพิสูจน์เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิต แต่แต่ญาติไม่ติดใจ
ด้านนายทองพูน พรมน้อยอายุ 29 ปี น้องชายผู้เสียชีวิต บอกว่าปกติจะนอนด้วยกันภายในบ้าน วันเกิดเหตุตนไปนอนบ้านป้า จึงไม่เห็นเหตุการณ์ในคืนนั้นว่ามีการพูดคุยกับลูกอย่างไรบ้าง
แต่เบื้องต้น ญาติไม่ติดใจในการเสียชีวิต เนื่องจากพี่สาวไม่เคยมีศัตรู และไม่เคยไปสร้างความวุ่นวายให้กับใครในหมู่บ้าน การเสียชีวิตในครั้งนี้คาดว่าพี่สาวอาจจะกินยาเกินขนาดตามที่แพทย์ระบุ
ขณะ ด.ญ.บี (นามสมมุติ)เล่าว่า ก่อนนอนแม่คุยว่า”ถ้าแม่ตายอย่าร้องไห้นะ”แล้วก็นอนด้วยกัน พอถึงกลางดึกประมาณ 02.30 น.ปลุกแม่ไม่ตื่น ใช้ไฟจากโทรศัพท์เปิดดูพบเชือกคาคอแม่ จึงพยายามเอามีดที่อยู่ใกล้ๆตัดเชือกออก แต่แม่ก็นิ่งไม่หายใจ จึงนั่งร้องไห้กับพี่อีกคนที่มานานด้วยกันจนรุ่งเช้า
ข่าว-ภาพ วันชัย ผิวอร่าม / วาทิตย์ แสนธุปี บุรีรัมย์