ชลประทานตรวจสอบระดับน้ำในแม่น้ำปิง ยืนยันแม้ว่าระดับน้ำจะเพิ่ม แต่ยังอยู่ในระดับควบคุม ปริมาณน้ำแค่ 45% ของลำน้ำปิง
เมื่อวันที่ 27 ส.ค. 67 จากสถานการณ์ฝนตกหนักหลายพื้นที่ ประกอบสภาพลำน้ำปิงที่มีน้ำเพิ่มมากขึ้น นายเกื้อกูล มานะสัมพันธ์สกุล ผู้อำนวยการโครงการชลประทานเชียงใหม่ ได้มอบหมายให้ นายชนม์ฐพัฒน์ เครือศรี หัวหน้าฝ่ายจัดสรรน้ำและปรับปรุงระบบชลประทาน โครงการชลประทานเชียงใหม่ พร้อมด้วย นายศิริฉัตร บัวพุทธา หัวหน้าฝ่ายส่งน้ำและบำรุงรักษาที่ 8 โครงการชลประทานเชียงใหม่ เข้าตรวจสอบสถานการณ์ในแม่น้ำปิงและการเปิดประตูระบายน้ำของประตูระบายน้ำท่าวังตาล เพื่อป้องกันน้ำท่วมตัวเมืองเชียงใหม่
นายชนม์ฐพัฒน์ เครือศรี หัวหน้าฝ่ายจัดสรรน้ำและปรับปรุงระบบชลประทาน โครงการชลประทานเชียงใหม่ (จน.คป.เชียงใหม่) กล่าวว่า สำนักงานชลประทานที่ 1 และโครงการชลประทานเชียงใหม่ ได้ติดตามสถานการณ์น้ำในช่วง 1-2 วันนี้ ที่ต้นน้ำมีฝนตกหนัก ปัจจุบันน้ำท่าทั้งหมดอยู่ในเกณฑ์ปกติ และได้มีการติดตามพระดับน้ำตั้งแต่จุดวัด P.20 อ.เชียงดาว จนถึงจุดวัด P.1 สะพานนวรัฐ อ.เมืองเชียงใหม่ น้ำจะใช้เวลาเดินทางมาจากต้นน้ำถึงตัวเมืองเชียงใหม่ต้องใช้เวลาประมาณ 1 วันครึ่ง
“ปัจจุบันจุดวัด P.20 อ.เชียงดาว ระดับน้ำเพียง 70 เซนติเมตร คิดเป็น 14 เปอร์เซ็นต์ อัตราไหลของน้ำ 53 ลบ.ม.ต่อวินาที ถือว่าอยู่ในระดับต่ำสุด ซึ่งระดับสูงสุดรับได้ 255 ลบ.ม.ต่อวินาที ถัดมาเป็น P.75 อ.แม่แตง วัดระดับน้ำได้ 2.42 ม. คิดเป็น 35 เปอร์เซ็นต์ ส่วน P.67 อ.สันทราย ระดับน้ำอยู่ที่ 1.39 ม. คิดเป็น 30 เปอร์เซ็นต์ ของลำน้ำ และที่ P.1 สะพานนวรัฐ อำเภอเมืองเชียงใหม่ ปัจจุบันระดับน้ำอยู่ที่ 2.15 เมตร ซึ่งระดับวิกฤติจะอยู่ที่ 3.70 เมตร และทางโยธาได้มีการเสริมตลิ่งเพิ่ม ดังนั้น ภาพรวมระดับน้ำในแม่น้ำปิงและลำน้ำสาขาอยู่ในเกณฑ์ปกติ ระดับน้ำปัจจุบันอยู่ที่ 45 เปอร์เซ็นต์ของลำน้ำ” จน.คป.เชียงใหม่ กล่าว
ทั้งนี้ สำนักงานชลประทานที่ 1 และโครงการชลประทานเชียงใหม่ ได้ติดตามสถานการณ์น้ำในช่วงวิกฤติเป็นรายชั่วโมง พบว่า ในห้วง 7 วันที่ผ่านมา มีระดับน้ำปิงเพิ่มขึ้น จึงได้มีการบริหารจัดการน้ำด้วยประตูระบายน้ำท่าวังตาล โดยรักษาระดับน้ำไม่ให้เกินกว่าระดับที่ควบคุม และอยู่ต่ำกว่าตลิ่งในค่าวิกฤติ ซึ่งประตูระบายน้ำท่าวังตาลแห่งนี้ ได้เร่งระบายน้ำอย่างต่อเนื่อง โดยวันที่ 26 ส.ค. ที่ผ่านมา ระบายน้ำ 180 ลบ.ม.ต่อวินาที และวันนี้ระบายน้ำ 152 ลบ.ม.ต่อวินาที วันนี้ระบายน้ำน้อยลง เพราะต้องรักษาระดับน้ำไม่ให้รับผลกระทบของสถานีสูบน้ำประปา กลุ่มผู้ใช้น้ำด้านเหนือ และรักษาตลิ่งในแม่น้ำปิง
“ประตูระบายน้ำท่าวังตาลยังมีศักยภาพระบายน้ำออกจากตัวเมืองเชียงใหม่ 1,200 ลบ.ม.ต่อวินาที เพียงพอต่อการรองรับน้ำ แต่ต้องดูท้ายน้ำปิงด้วยเพราะมีอุปสรรคอยู่ ทั้งสะพานและอาคารที่ยื่นมาในลำน้ำ ทำให้สภาพลำน้ำด้านท้ายแคบลง ไม่สามารถระบายน้ำได้เต็มประสิทธิภาพ อาจจะมีน้ำเอ่อล้นขึ้นมาได้ ในขณะที่ด้านหน้าประตูระบายน้ำท่าวังตาลก็มี 3 ฝายหินเดิม ก็เป็นเหมือนอุปสรรคที่น้ำจะไหลผ่านได้สะดวก” นายชนม์ฐพัฒน์ เครือศรี จน.คป.เชียงใหม่ กล่าว
ส่วนท้ายน้ำ ตั้งแต่ฝายชลขันธ์พินิจ จ.ลำพูน, ฝายหนองสลีก อ.ป่าซาง จ.ลำพูน, ประตูระบายน้ำดอยน้อย อ.ดอยหล่อ, ฝายวังปาน อ.เวียงหนองล่อง จ.ลำพูน และประตูระบายน้ำแม่สอย อ.จอมทอง มีการเร่งระบายน้ำอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันได้รักษาระดับน้ำอยู่ในเกณฑ์ควบคุม.
