โรงเรียนมัธยมชื่อดังแห่งหนึ่งในจังหวัดกาฬสินธุ์ แจงประเด็นดราม่าร้านข้าวในโรงอาหารไม่เพียงพอกับนักเรียน หลังมีผู้นำไปโพสต์จนเกิดเป็นกระแสดร่ามาในโลกโซเชียล ระบุเปิดเทอมวันแรกร้านอาหารยังมาไม่ครบ เพราะมีทั้งเจ้าเก่าและใหม่ พร้อมยืนยันไม่ได้ขึ้นค่าเช่า ร้านอาหารเพียงพอต่อเด็กนักเรียน เพียงแต่ปรับเปลี่ยนรูปแบบการบริหารจัดการโรงอาหารนำรายได้เข้าสู่โรงเรียนใหม่ เพื่อคืนครูสู่ห้องเรียน ไม่ต้องนับถ้วยนับจาน คาดสื่อสารคลาดเคลื่อน ด้าน “ส.ส.หมู วิรัช พิมพะนิตย์”ส่งตัวแทนผู้เชี่ยวชาญด้านการศึกษาเข้าตรวจสอบ เบื้องต้นพบมีการจำหน่ายอาหารปกติ และเพียงพอกับนักเรียน
27 พฤษภาคม 2567 จากกรณีมีการแชร์ข้อมูลในโลกโซเชียล โดยมีข้อความในลักษณะอ้างว่า เมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา มีโรงเรียนชื่อดังแห่งหนึ่งในตัวอำเภอเมืองกาฬสินธุ์ ย่านวงเวียนหอย มีนักเรียนกว่า 4 พันคน ขาดแคลนอาหาร ต้องแย่งข้าวกันกิน บางคนต้องออกกินข้างนอกโรงเรียน หรือบางวันต้องกินมาม่าประทังชีวิต เหตุมีร้านข้าวในโรงอาหาร 4 ร้าน นอกนั้นเป็นร้านน้ำและขนม เนื่องจากแม่ค้าไม่มาขายอาหาร เพราะทางโรงเรียนเพิ่มค่าเช่าที่ ซึ่งหลังมีการโพสต์ข้อความนี้ออกไปเกิดการวิพากษ์ วิจารณ์กันอย่างมาก จนกลายเป็นกระแสดราม่าในโลกโซเชียล และหลายคนตั้งข้อสงสัยว่าอาจจะเป็นการสื่อสารที่คลาดเคลื่อน เพราะปัญหาขาดแคลนอาหารไม่น่าจะเกิดขึ้นในโรงเรียน
ล่าสุดผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ตรวจสอบโรงเรียนดังกล่าว พบว่าเป็นโรงเรียนมัธยมชื่อดังอยู่ในตัวอำเภอเมือง ภายในเขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ พร้อมกับเข้าสอบถามเรื่องราวดังกล่าวกับผู้อำนวยการโรงเรียน ซึ่งวันนี้ติดภารกิจ แต่ได้มอบหมายให้ครูกลุ่มงานบริหารงบประมาณ ซึ่งรับผิดชอบเรื่องดังกล่าวให้ข้อมูลและข้อจริง แต่ไม่สะดวกให้บันทึกเสียง
โดยตัวแทนคณะครูได้พาผู้สื่อข่าวไปดูที่โรงอาหาร ซึ่งเป็นเวลาพักเที่ยงของนักเรียนพบว่า มีร้านอาหารหลากหลายชนิด 20 ร้าน ทั้งร้านข้าวแกง ตามสั่ง ก๋วยเตี๋ยว ก๋วยจั๊บ ขนม น้ำ ผลไม้ และอาหารทานเล่น ซึ่งบรรดาแม่ค้า พ่อค้า ก็ต่างพากำลังตักข้าวจำหน่ายให้กับนักเรียนกันอย่างขะมักขะเม่น
ทั้งนี้ตัวแทนคณะครู ระบุว่า กรณีมีการแชร์ข้อมูลในโลกโซเชียล ว่าโรงเรียนขาดแคลนอาหารไม่เพียงพอกับนักเรียน เพราะแม่ค้าไม่มาขายอาหาร สาเหตุเนื่องจากขึ้นค่าเช่านั้น อาจจะเป็นสื่อสารที่คลาดเคลื่อน ซึ่งทางโรงเรียนยืนยันว่า ร้านค้าและอาหารเพียงพอกับเรียนแน่นอน ทั้งนี้วันนั้นเป็นวันเปิดเทอมวันแรก คือวันที่ 16 พฤษภาคม 2567 ทางโรงเรียนมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบการบริหารจัดการโรงอาหารการจัดเก็บรายได้จากการขายอาหารของพ่อค้า แม่ค้าใหม่ วันนั้นจึงมีแม่ค้ารายเก่ามาขายอาหารประมาณ 10 ร้าน ส่วนอีก 10 ร้านเป็นรายใหม่ วันแรกเปิดเทอมจึงยังไม่พร้อม และขณะนี้ร้านขายอาหารทั้ง 20 ร้านพร้อมขายทุกร้านแล้ว
ตัวแทนครู กล่าวอีกว่า ก่อนหน้านี้ทางโรงเรียนได้มีการจัดเก็บรายได้เข้าสู่โรงเรียนจากพ่อค้า แม่ค้าที่มีขายอาหารในโรงเรียน 10 เปอร์เซ็นต์จากยอดขายจริงของแต่ละวัน ซึ่งแต่ละวันจะมีครูคอยไปนับถ้วย นับจานในร้านต่าง แต่ภาคเรียนนี้ทางด้านผู้อำนวยการ มีโนยาบายคืนครูสู่ห้องเรียน ให้ครูมีเวลาสอนนักเรียนอย่างเต็มที่ ไม่ต้องไปนับถ้วย นับจาน จึงได้ปรับเปลี่ยนการจัดเก็บรายได้ใหม่ จากการเก็บ 10 เปอร์เซ็นต์จากยอดขาย เป็นการเก็บแบบเหมาเป็นรายภาคเรียน ขึ้นอยู่กับชนิด ประเภท และร้านจำหน่ายอาหาร เฉลี่ยอยู่ที่ 20,000 – 80,000 บาท โดยอิงจากสถิติยอดขายของแต่ละร้านในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งทางโรงเรียนได้มีการประชุมชี้แจงทำความเข้าใจกับผู้ประกอบการแล้ว จนพ่อค้า แม่ค้าต่างพากันมาขายตามปกติ และมีการอนุโลมหากยังไม่มีเงินก้อนก็สามารถผ่อนจ่ายเป็นรายวัน รายเดือน หรือจ่ายครั้งเดียวก็ได้ ทั้งนี้ในส่วนข้อความระบุว่าขึ้นค่าเช่านั้นไม่เป็นความจริง และที่ระบุอีกว่า มีการเก็บเงินค่าเช่า 4,000 บาทนั้น เป็นเพียงเงินมัดจำสัญญาเท่านั้น
อย่างไรก็ตามมีรายงานว่า จากข้อความที่โพสต์และแชร์เรื่องดังกล่าวในโลกโซเชียล ล่าสุดทางด้านนายวิรัช พิมพะนิตย์ ส.ส.กาฬสินธุ์ เขต 1 ยังได้ส่งตัวแทน ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญทางการศึกษาเข้าไปติดตามกรณีดังกล่าว และมีเจ้าหน้าที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษากาฬสินธุ์เข้าไปติดตามปัญหาด้วย ซึ่งจากการตรวจสอบ พบว่า โรงอาหารของโรงเรียนดังกล่าวมีการจำหน่ายอาหารตามปกติ และมีเพียงพอกับนักเรียนทุกระดับชั้น ส่วนกรณีมีการโพสต์ในโลกโซเชียล เบื้องต้นอาจเป็นการสื่อสารที่คลาดเคลื่อน พร้อมกำชับให้ทำความเข้าใจกับทุกภาคส่วน