เช้าวันนี้ (27 ม.ค. 67) บริเวณอ่าวบ้านหน้าทอน อ.เกาะสมุย นายนายกิตติ เชาวน์ดี เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ผู้แทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา (นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล) ลงพื้นที่ติดตามความพร้อมรับนักท่องเที่ยวจากเรือสำราญ MEIN SHIFF5 ที่นำนักท่องเที่ยวชาวเยอรมัน 2,476 คนและ ลูกเรืออีก 925 คนเดินทางมาจากเมืองโฮจิมินห์ ประเทศเวียดนาม แวะพักผ่านชมธรรมชาติที่สวยงาม บนเกาะสมุย One day trip ก่อนเดินทางต่อไปแหลมฉบัง และประเทศสิงคโปร์ว่า ศักยภาพนักท่องเที่ยวเรือสำราญมีมาก แต่พื้นที่ยังไม่สามารถดึงนักท่องเที่ยวได้เท่าที่ควร เนื่องจากยังไม่มีท่าเรือน้ำลึกรองรับเรือครุยส์ ซึ่งตนจะนำเรื่องนี้ไปเรียนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เพื่อปรึกษากับกรมเจ้าท่า กระทรวงคมนาคม ว่าถ้าเรามีท่าเรือน้ำลึกในฝั่งอันดามัน หรืออ่าวไทยก็ดี จะทำให้เรือครุยส์พร้อมที่จะเข้ามาประเทศไทย เป็นหมุดหมายของนักท่องเที่ยว เชื่อว่าการเติบโตด้านการท่องเที่ยวในประเทศไทยมากกว่านี้ เนื่องจากโครงสร้างพื้นฐานการคมนาคมดี มีการต้อนรับอำนวยความสะดวกนักท่องเที่ยวอย่าง ดีจะทำให้นักท่องเที่ยวมาเยือนประเทศไทยได้มากขึ้น
ด้านการส่งเสริมการท่องเที่ยวชุมชน ผู้ประกอบการภาคเอกชนได้มีการขยับตัวแล้ว วันนี้ก็จะลงไปดูในแหล่งท่องเที่ยวชุมชนว่าจะทำอย่างไรให้ชุมชนมีส่วนร่วม มีกิจกรรมอะไรไว้รองรับนักท่องเที่ยวบ้าง อาทิ เรื่องอาหาร ทั้งนี้เพื่อให้มีการกระจายรายได้ให้ประชาชนที่เป็นเจ้าของพื้นที่ แต่จากการลงพื้นที่จุดเรือสำราญ ยังไม่เห็นจุดขายสินค้าของชุมชน ซึ่งจะประสานงานหน่วยงานในพื้นที่เพื่อสร้างให้มีจุดจำหน่ายสินค้าของชุมชนต่อไป
จากนั้น เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้เดินทางไปเยี่ยมชมแหล่งท่องเที่ยวบ้านโบราณสมุย ลักษณะเป็นบ้านไม้ ที่มีสถาปัตยกรรมผสมผสานจีน-ไทย หนึ่งเดียวบนเกาะสมุย มาอายุกว่า 180 ปี เป็นเส้นทางท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม วิถีชุมชน วิถีสมุย ที่เปิดให้นักท่องเที่ยวไปเรียนรู้ ก่อนจะเดินทางไปเข้าร่วมประชุมหารือ รับฟังปัญหา ข้อเสนอแนะ ความคิดเห็นจากผู้ประกอบการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประเด็นความปลอดภัย ศักยภาพการรองรับนักท่องเที่ยวและการกระจายรายได้สู่ชุมชน ที่เทศบาลนครเกาะสมุย
บรรยากาศการท่องเที่ยวจากเรือสำราญเกาะสมุย แหล่งข่าวจากผู้ประกอบการเรือสำราญระบุว่า ปี 2567 มีเรือสำราญจ่อคิวเข้าเทียบท่า 50 กว่าเที่ยวใน High season พฤศจิกายนจน ถึง เดือนเมษายน และมีแนวโน้มว่าจะมีเรือสำราญลำใหญ่ๆที่ยังไม่เคยเข้าเทียบท่าที่เกาะสมุยจะเข้าเทียบท่าในอนาคตอีกจำนวนมาก ซึ่งแต่ละลำจะมีนักท่องเที่ยวหลากหลายระดับ ทำให้เกิดเม็ดเงินรายได้จากการท่องเที่ยวที่แตกต่างกัน แต่ทุกลำที่จอดเทียบท่าที่เกาะสมุยจะส่งผลให้มีเม็ดเงินกระจายในพื้นที่ทุกลำในบริบทที่แตกต่างกัน
ขณะที่ นาวาเอกณัฐพล สินพูนผล รองผอ ศรชล. กล่าวว่า วันนี้ ศรชล.ภาค 2 โดย ศรชล.จว.สุราษฎร์ธานี และ ศคท.จว.สุราษฎร์ธานี บูรณาการร่วมกับหน่วยงานในพื้นที่ประกอบด้วยอำเภอเกาะสมุย เทศบาลอำเภอเกาะสมุย สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาเกาะสมุย ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศเกาะสมุย ด่านตรวจคนเข้าเมือง (ต.ม.) เกาะสมุย ด่านศุลกากรเกาะสมุย และสมาคมการท่องเที่ยวเกาะสมุย อำนวยความสะดวก และทำการตรวจระบบความปลอดภัย อุปกรณ์ความปลอดภัยประจำเรือ การคัดกรอง – การขนถ่ายสินค้าและผู้โดยสาร เพื่อสร้างความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยว ที่เดินทางมากับเรือสำราญลำดังกล่าวด้วย
