“ประชารัฐเขต 1 เชียงใหม่” เปิดตัว “สจ.หนุ่ย-พจนารถ” พร้อมลุยสู้ศึกเลือกตั้งส.ส.
วันที่ 27 ม.ค.62 ที่ห้องบ้านล้านตองโรงแรมโลตัสปางสวนแก้ว ดร.ภาคิน สมมิตรธนกุล ผู้อำนวยการฝ่ายยุทธศาสตร์ภาคเหนือตอนบน เป็นประธานเปิดงานสัมมนาและรับสมัครสมาชิกพรรคพลังประชารัฐเขต 1 เชียงใหม่ พร้อมแนะนำตัวนายพจนารถ ศรียารัณย ว่าที่ผู้สมัครส.ส.เขต 1 เชียงใหม่
นายพจนารถ ศรียารัณย หรือส.จ.หนุ่ย ว่าที่ผู้สมัครส.ส.พรรคพลังประชารัฐ เขต 1 เชียงใหม่ กล่าวว่า เหตุที่ตัดสินใจจะลงสมัครรับเลือกตั้งส.ส.เขต 1 เชียงใหม่ พรรคพลังประชารัฐเพราะก่อนหน้านั้นตนเป็นทั้งนักธุรกิจ เป็นสมาชิกสภาเทศบาลนครเชียงใหม่และเป็นสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งที่ผ่านมาได้เห็นช่องว่างในการทำงานระดับท้องถิ่นกับประเทศ และจากการสอบถามพี่น้องประชาชนก็ต้องการอยากได้ส.ส.ที่จะมาเป็นตัวเชื่อมโยงระหว่างส่วนกลางกับท้องถิ่น อยากได้ส.ส.ที่มาดูแลพี่น้องประชาชนระดับรากหญ้า และเมื่อมีการจัดตั้งพรรคพลังประชารัฐและได้รับการทาบทาม จากการพูดคุยกันก็เห็นว่าแนวทางของพรรคพลังประชารัฐสามารถตอบโจทย์พี่น้องประชาชน โดยเฉพาะการที่จะร่วมรัฐบาลซึ่งสามารถนำปัญหาและงบประมาณลงมาถึงพี่น้องประชาชนได้ จึงได้ตัดสินใจที่จะลงเลือกตั้งในนามพรรคพลังประชารัฐ และได้ลาออกจากตำแหน่งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่แล้ว
นายพจนารถ กล่าวอีกว่า ตลอดช่วง 3 เดือนก่อนที่จะมีพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้งออกมาตนได้ลงพื้นที่พบปะพี่น้องประชาชนใน 9 ตำบลของเขตเทศบาลนครเชียงใหม่ซึ่งได้รับการตอบรับจากพี่น้องประชาชนอย่างมาก ซึ่งแรกๆ ก็ยอมรับว่าหนักใจเพราะเจ้าของพื้นที่เดิมเป็นส.ส.เพื่อไทยและเป็นคนคุ้นเคยกัน และได้สอบถามพี่น้องประชาชนแล้วว่าถ้าจะเลือกตั้งจะยึดที่ตัวบุคคลหรือพรรค ชาวบ้านบอกว่าดูที่คนเป็นหลัก คือเขาจะเลือกคนที่สามารถแก้ไขปัญหาได้ และยอมรับว่าแรกๆ ก็ต้องต่อสู้กับความรู้สึกของคนที่ชื่นชอบพรรคเดิมอยู่ แต่ตอนนี้บารมีของเจ้าของพื้นที่เดิมก็ลดลงแล้ว
“ผมกับนายบุญเลิศ บูรณุปกรณ์ นายกอบจ.เชียงใหม่เป็นเพื่อนกันและนายกฯบุญเลิศเป็นอาของน.ส.ทัศนีย์ บูรณุปกรณ์ อดีตส.ส.เชียงใหม่พรรคเพื่อไทย แต่ผมกับนายกฯบุญเลิศได้คุยกันแล้ว เขาก็ยินดีที่ผมขันอาสาลงสมัครรับเลือกตั้ง และบอกว่าไม่สนับสนุนใครและจะวางตัวเป็นกลางและจะให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสินใจเลือกส.ส.เอง”นายพจนารถ กล่าวและชี้แจงอีกว่า
กลยุทธ์ในการหาเสียงผมคงไม่ได้ชูนโยบายของพรรคพลังประชารัฐทั้งหมด เพราะสภาพพื้นที่แตกต่างกัน เขต 1 อยู่ในเขตเทศบาลนครเชียงใหม่เป็นเขตเมืองปัญหาหลักๆ เป็นเรื่องการจราจร สิ่งแวดล้อม ผังเมืองและการเป็นเมืองท่องเที่ยวซึ่งตอนนี้ก็ยังมีปัญหามากมาย การจะแก้ไขปัญหาเหล่านี้ได้จะต้องให้รัฐบาลสนับสนุนทั้งเรื่องของระบบขนส่งมวลชน รถไฟฟ้ารางเบา สนามบินแห่งใหม่ การจะเป็นเมืองมรดกโลกซึ่งทุกอย่างท้องถิ่นทำเองไม่ได้
นายพจนารถ กล่าวว่าไม่รู้สึกหนักใจที่พรรคพลังประชารัฐจะชูพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีและเคยเป็นพื้นที่ของเสื้อแดง เพราะตลอดช่วง 5 ปีทีผ่านมาเรื่องของสีเสื้อได้จางลงไปแล้ว ไม่มีใครพูดถึงเรื่องเสื้อเหลือง เสื้อแดงกันอีก แต่ตอนนี้เรามาคุยกันว่าเชียงใหม่มีปัญหาอะไรที่จะต้องแก้ไขกันบ้าง ผมในฐานะผู้ที่ขันอาสาเข้ามาก็จะเสนอข้อเท็จจริงมากกว่าที่จะพูดถึงฐานเสียงเดิมหรือเรื่องของสีเสื้อ.