ร้อยเอ็ดจัดงานวันสาธิตการปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์หลังฤดูทำนา เสริมอาชีพ สร้างรายได้ให้กับเกษตรกร
สมนึก บุญศรี/ร้อยเอ็ด/0885730542–
วันนี้(26 พฤศจิกายน 2561) ณ แปลงนา นายสุพล พลเยี่ยม บ้านคำแข้ หมู่ที่ 6 ตำบลแวง อำเภอโพนทอง จังหวัดร้อยเอ็ด นายวันชัย คงเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดร้ยเอ็ด เป็นประธานในพิธีเปิดงานวันสาธิตการปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ภายใต้โครงการสานพลังประชารัฐเพื่อสนับสนุนการปลูกข้าวโพดหลังฤดูทำนา ปี 2561/62 โดยการดำเนินงานของ นายประยงค์ ภูดินทราย เกษตรจังหวัดร้อยเอ็ด และคณะพร้อมด้วยเกษตรกรเข้าร่วมโครงการและที่สนใจเข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้
นายประยงค์ ภูดินทราย เกษตรจังหวัดร้อยเอ็ด เปิดเผยว่า.-จังหวัดร้อยเอ็ดมีเป้าหมายในการส่งเสริมการปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ จำนวน 40,583 ไร่ ขณะนี้มีเกษตรกรสนใจสมัครเข้าร่วมโครงการแล้ว 2,289 ราย พื้นที่ 15,099.75 ไร่ ซึ่ง
อำเภอโพนทองมีเกษตรกรสมัครเข้าร่วมโครงการ จำนวน 268 ราย พื้นที่ 1,655.50 ไร่ ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์หลังฤดูทำนา ถือได้ว่าเป็นพืชใหม่สำหรับเกษตรกร เนื่องจากที่ผ่านมาเกษตรกรยังไม่เคยปลูกมาก่อน เพื่อให้เกษตรกรสามารถปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์หลังฤดูทำนาให้ได้ผลดี
จังหวัดร้อยเอ็ดโดยสำนักงานเกษตรจังหวัดร้อยเอ็ดร่วมกับอำเภอโพนทอง สำนักงานเกษตรอำเภอโพนทองจัดงานวันสาธิตการปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ภายใต้โครงการสานพลังประชารัฐเพื่อสนับสนุนการปลูกข้าวโพดหลังฤดูทำนา
วัตถุประสงค์เพื่อ ให้เกษตรกรได้เรียนรู้การปลูกข้าวเลี้ยงสัตว์ในสภาพพื้นที่จริงแบบครบวงจร เกษตรกรได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ แลกเปลี่ยนประสบการณ์ระหว่างเกษตรกรกับเกษตรกร และเจ้าหน้าที่ทั้งภาครัฐและเอกชน
โดยมีสำนักงานสหกรณ์จังหวัดร้อยเอ็ด สถานีพัฒนาที่ดินร้อยเอ็ด โครงการชลประทานร้อยเอ็ด โครงการส่งน้ำและบำรุงน้ำชีกลาง ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรร้อยเอ็ด ศูนย์ส่งเสริมเทคโนโลยีการเกษตรด้านวิศวกรรมเกษตรจังหวัดร้อยเอ็ด บริษัทสมบัติการเกษตร บริษัทเขาวงอินเตอร์ บริษัทแปรซิฟิกเมล็ดพันธุ์ บริษัทเจริญโภคภัณฑ์โปรดิวส บริษัทเจริญชัยแทรกเตอร์(ร้อยเอ็ด) สาขาโพนทอง ร่วมจัดนิทรรศการและจัดเจ้าหน้าที่ให้ความรู้กับเกษตรกรโดยพร้อมเพรียงกัน
ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ดกล่าวว่า.- โครงการสานพลังประชารัฐสนับสนุนการปลูกข้าวโพดหลังฤดูทำนา จะได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐดังนี้
1.ได้รับสินเชื่อสนับสนุปัจจัยการผลิตให้แก่เกษตรกรไร่ละ 2,000 บาท ไม่เกิน 15ไร่ ดอกเบี้ยร้อยละ 0.01 ระยะเวลา 6 เดือน
2.ประกันภัยความเสี่ยงให้กับเกษตรกร เมื่อประสบภัยชดเชยไร่ละ 1,500 บาท
3.ให้คำแนะนำด้านเทคโนโลยีการผลิตข้าวโพดตลอดฤดูการผลิต
4.มีการรับซื้อผลผลิตโดยสหกรณ์ และภาคเอกชน ตามนโยบายรัฐบาล
5.มีการประกันราคารับซื้อผลผลิต ที่ความชื้น 14.5 เปอร์เซ็นต์ กิโลกรัมละ 8 บาท
จึงขอให้ผู้เข้าร่วมโครงการได้ศึกษาและฝึกปฏิบัติให้เข้าใจอย่างถ่องแท้ สามารถนำไปปลูกของตัวเองได้อย่างประสบความสำเร็จ หากมีปัญหาให้สอบถามเจ้าหน้าที่และบริษัทพี่เลี้ยง เพื่อให้เข้าใจลงมือปฏิบัติได้อย่างถูกต้อง
—///–
สุขสันต์ แก้วคีรี/ภาพ
สมนึก บุญศรี/ข่าว
