โอทีซี ไดเฮ็น เอเชีย รุก เปิดตัวโชว์รูมใหม่ ที่นิคมอุตฯนวนคร จ.ปทุมธานี ย้ำเป็นผู้นำด้าน หุ่นยนต์เครื่องเชื่อม รองรับ”ไทยแลนด์4.0″
นายเคอิกิ โมริโมโตะ รองประธานอาวุโสและสมาชิกคณะกรรมการ บริษัท OTC DAIHEN Asia จำกัดกล่าวว่า บริษัทฯ ได้เล็งเห็นถึงการเติบโตของตลาดหุ่นยนต์ และเริ่มพัฒนาหุ่นยนต์สำหรับงานเชื่ิอมโลหะมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้บริษัทฯเป็นผู้นำในการผลิตเครื่องเชื่อมอาร์ก และหุ่นยนตฺ์รายใหญ่ของโลก จากประสบการณ์ที่ประเทศญี่ปุ่นเป็นเวลานานกว่า 99 ปี เข้ามาก่อตั้งในประเทศไทยเป็นเวลากว่า 29 ปี จนนำไปสู่ความเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านหุ่นยนต์เชื่อมโลหะที่มีประสิทธิภาพสูงเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้แก่อุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์ได้เป็นอย่างดึ
สำหรับโชว์ใหม่แห่งนี้ มีรูปแบบ ตอบสนองตามความต้องการของลูกค้าทุกกลุ่ม อีกทั้งยังพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ขึ้นเพื่อให้เหมาะสมกับเทคโนโลยีใหม่ๆที่เกิดขึ้นในโลกปัจจุบัน น โดยนอกเหนือจากกลุ่มอุตสาหกรรมผลิตชิ้นส่วนยานยนต์แล้วนั้น ทางโอทีซีฯ ยังขยายไปยังกลุ่มอุตสาหกรรมอื่นๆอีก เช่น กลุ่มอุตสาหกรรมการเกษตร กลุ่มอุตสาหกรรมก่อสร้าง กลุ่มอุตสาหกรรมเครื่องครัวและเครื่องใช้สำนักงาน ที่มีศักยภาพ ทั้งเทคโนโลยี และนวัตกรรม ช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันตามนโยบาย”ไทยแลนด์4.0″
ด้าน นายฟูมิโยชิ คาวาฮาระ ประธานบริษัท โอทีซี ไดเฮ็น เอเชีย ประจำสำนักงานใหญ่กรุงเทพ กล่าวว่า โชว์รูมใหม่ที่นิคมอุตสาหกรรมนวนครแห่งนี้ เป็นการนำผลิตภัณฑ์ที่เป็นเทคโนโลยีอนาคต ของหุ่นยนต์ และเครื่องเชื่อม ซึ่งผลิตภัณฑ์บางส่วนผลิตในญี่ปุ่น และอีกส่วนหนึ่งผลิตในไทย เพื่อตอบสนองความต้องการของกลุ่มค้า ทั้งอุตสาหกรรมรถยนต์ และจักรยานยนต์ เป็นหลัก และตอนนี้เริ่มผลิตตอบสนองลูกค้ากลุ่มผู้เผลิตเครื่องจักรกลการเกษตรด้วย เช่น รถแทรคเตอร์ เป็นต้น ซี่งลูกค้าและผู้แทนสินค้า จะได้มาสัมผัสหุ่นยนต์และทดลองใช้ เพื่อพัฒนาให้ดียิ่งขึ้น
สำหรับแนวโน้มการเติบโตของอุตสาหกรรมหุ่นยนต์ในประเทศไทยนั้น นายฟูมิโยชิ คาวาฮาระ คาดว่าภายใน 3 ปีจะเติบโตขึ้น 3 เท่าตัว ยกตัวอย่างจากปัจจุบันที่บริษัทฯ ผลิตหุ่นยนต์เชื่อมได้ประมาณ 500 ตัวต่อปี ก็จะเพิ่มขึ้นเป็น ประมาณ 1พันตัว ขณะที่มูลค่ารวมของตลาดหุ่นยนต์ ซึ่งรวมถึง หุ่นยนต์หยิบจับ หรือ handling มีประมาณ 6-7 พันตัวต่อปี ในจำนวนนี้ ทางโอทีซี ฯมีมาร์เก็ตแชร์ที่เป็นหุ่นยนต์เชื่อม ประมาณ 60% จึงนับว่าอุตสาหกรรมหุ่นยนต์มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง