ข่าวกาฬสินธุ์ ข่าวรอบรั้วภูธร ข่าวเด่น ทุกข์ร้อนชาวบ้าน เกษตรกร

เขื่อนลำปาวกาฬสินธุ์ ส่งน้ำช่วยพื้นที่ลำน้ำชีตอนล่าง ยันเพียงพอช่วงหน้าแล้ง

เขื่อนลำปาว จังหวัดกาฬสินธุ์ส่งน้ำเฉลี่ยวันละ 5.6 ล้านลบ.ม.เพื่อช่วยเหลือพื้นที่ลำน้ำชีตอนล่างในช่วงหน้าแล้งที่ประสบปัญหาฝนทิ้งช่วง และช่วยในการอุปโภค บริโภค พร้อมประกาศหยุดส่งน้ำเพื่อการเกษตรช่วงฤดูแล้งปี 2566/2567 เพื่อให้เกษตรกรเก็บเกี่ยวผลผลิตข้าวนาปรัง และเพื่อซ่อมแซมคลองส่งน้ำให้พร้อมใช้งานในช่วงหน้าฝน ด้านผอ.โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำปาว ยืนยันปริมาณน้ำเขื่อนมีเพียงพอจนถึงช่วงฤดูฝนอย่างแน่นอน


วันที่ 26 เมษายน 2567 นายสำรวย อินพิทักษ์ ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำปาว หรือเขื่อนลำปาว เปิดเผยว่า ขณะนี้เขื่อนลำปาวมีปริมาณน้ำอยู่ที่ 840 ล้าน ลบ.ม.หรือคิดเป็นประมาณ 42 % จากความจุอ่าง 1,980 ล้าน ลบ.ม. โดยตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2566 ระยะเวลาเกือบ 5 เดือนผ่านมา ทางโครงการฯได้ส่งน้ำ เพื่อช่วยเหลือพื้นที่การเกษตร ทั้งข้าวนาปรัง พืชผัก พืชไร่ บ่อปลา และบ่อกุ้งในพื้นที่ชลประทานเขื่อนลำปาวรวมประมาณ 300,000 ไร่ และขณะนี้ได้เข้าสู่ช่วงฤดูกาลเก็บเกี่ยวข้าวนาปรัง ทางโครงการฯจึงได้ออกประกาศหยุดการส่งน้ำ เพื่อการเกษตรทั้งคลองฝั่งซ้ายและฝั่งขวา เมื่อวันที่ 24 เมษายน 2567 ที่ผ่านมา เพื่อให้เกษตรกรได้เก็บเกี่ยวผลผลิต รวมทั้งทางโครงการฯจะดำเนินการปรับปรุงซ่อมแซมคลองส่งน้ำ และอาคารประกอบ เพื่อเตรียมความพร้อมให้แล้วเสร็จ และพร้อมใช้งานก่อนการส่วงน้ำฤดูฝน 2567 ที่จะถึงนี้
นายสำรวย กล่าวต่อว่า ปัจจุบันแม้ทางโครงการฯจะหยุดส่งน้ำเพื่อการเกษตรกร แต่ยังคงส่งน้ำทางอาคารระบายน้ำลงลำน้ำเดิม หรือจุดผันน้ำ และส่งน้ำผ่านอาคารระบายน้ำ หรือสปิลเวย์ ลงสู่ลำน้ำปาวไหลเติมไปยังแม่น้ำชี เพื่อให้ได้ใช้น้ำตลอดสาย และเพื่อเป็นการช่วยเหลือพื้นที่ลำน้ำชีตอนล่างในช่วงหน้าแล้ง ซึ่งหลายพื้นที่ประสบปัญหาฝนทิ้งช่วง และเพื่อช่วยในการอุปโภค บริโภค การเกษตร และเลี้ยงสัตว์ ทั้ง จ.ร้อยเอ็ด จ.ยโสธร จ.อุบลราชธานี รวมทั้งเพื่อรักษาระบบนิเวศ เฉลี่ยวันละ 5.6 ล้าน ลบ.ม.


นายสำรวย กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตามที่ผ่านมาทางโครงการฯได้ประชุมคณะกรรมการจัดการชลประทานหรือเจเอ็มซี ร่วมกับทุกภาคส่วน หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และกลุ่มผู้ใช้น้ำ โดยได้มีการวางแผนการใช้น้ำอย่างเป็นระบบไว้แล้ว ยืนยันว่าปริมาณน้ำของเขื่อนลำปาวที่มีอยู่ในตอนนี้ มีเพียงพอที่ต่อการอุปโภค บริโภค และทุกกิจกรรมไปจนถึงช่วงหน้าฝนอย่างแน่นอน แต่ก็ขอความร่วมมือประชาชนร่วมกันใช้น้ำให้คุ้มค่า และเกิดประโยชน์มากที่สุด ทั้งนี้ในส่วนการบริหารจัดการน้ำหลังจากนี้ ทางโครงการฯจะมีการประชุมคณะกรรมการจัดการชลประทานอีกครั้งในช่วงเดือนมิถุนายนนี้ เพื่อกำหนดแผนการส่งน้ำในช่วงหน้าฝนต่อไป