เมื่อ 22.30 น.วันที่ 25 มีนาคม 67 พ.ต.ท.นิพนธ์ พลอยขาว ผบ.ร้อย ตชด.425 พร้อมด้วย นายอาทิตย์ เพ็ชร์กุล ปลัดอำเภอ หัวหน้าฝ่ายความมั่นคงอำเภอคุระบุรี พ.ต.ท.สมนึก เพ็ญทอง สวป.สภ.ตะกั่วป่า นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดน 425 เจ้าหน้าที่กองร้อยอาสารักษาดินแดนอำเภอคุระบุรี ที่ 5 และกองร้อยอาสารักษาดินแดนอำเภอตะกั่วป่า ที่ 7 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ตะกั่วป่า ได้ไล่ล่าและตั้งจุดสกัด หลังจากได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่าขบวนการที่มีการลักลอบขนแรงงานต่างด้าวเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย จากจังหวัดระนองผ่านเส้นทางอำเภอตะกั่วป่า จังหวัดพังงา เพื่อไปส่งยังจังหวัดภูเก็ต และจังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยใช้รถกระบะและรถยนต์ 7 ที่นั่งให้แรงงานพม่านั่งอัดมาอยู่ด้านในรถ
โดยทางเจ้าหน้าที่ได้ตั้งจุดสกัดบริเวณถนนเพชรเกษมสายตะกั่วป่า – คุระบุรี ต.บางนายสี อ.ตะกั่วป่า ต่อมามีรถ 7 ที่นั่งสีดำ ลักษณะคล้ายกับบรรทุกของหนักมาผิดปกติ เจ้าหน้าที่จึงเปิดสัญญาณไฟให้รถคันดังกล่าวหยุดเพื่อขอตรวจค้น แต่เมื่อพบเห็นเจ้าหน้าที่กำลังตั้งจุดสกัด กลับเร่งเครื่องหลบหนีด้วยความเร็ว เจ้าหน้าที่จึงขับรถไล่ติดตามไปอย่างรวดเร็ว และหลบหนีไปได้ทางเจ้าหน้าที่จะตรวจสอบทะเบียนพร้อมเชิญเจ้าของรถมาให้ปากคำ ส่วนอีก 1 คันเป็นรถกระบะวีโก ตอนครึ่งสีขาว ป้ายแดง เลขทะเบียน ก – 0255 ระนอง ได้มี น.ส.ข้อดียะ นาบสนั่น อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 260/92 หมู่6 ต.บางริ้น อ.เมืองระนอง จ.ระนอง คนขับ มีนางรมล๊ะ ชาญสมุทร อายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 303/9 หมู่ที่ 6 ต.บางริ้น อ.เมืองระนอง จ.พังงา นั่งข้างคนขับ มีแรงงานพม่าชาย 2 คน หญิง 2 คน นั่งอัดอยู่ที่แค็ปด้านหลัง จากการตรวจสอบแรงงานต่างด้าวทั้งหมด ไม่พบหนังสือเดินทาง หรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทางเพื่อแสดงตัวตน ส่วนคันที่3 เป็นรถมิตซูบิชิ ปาเจโร่ สปอร์ต สีขาว หมายเลขทะเบียน ขง 6968 สงขลา มีนายขวัญชัย ผดุงชาติ อายุ 31 ปี คนขับ อยู่บ้านเลขที่ 226/42 หมู่ 6 ต.บางริ้น อ.เมืองระนอง จ.ระนอง และมีนายรอหีม มี๊ด อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 227/51 หมู่ที่ 4 ต.บางริ้น อ.เมืองระนอง จ.ระนอง นั่งข้างคนขับ ส่วนเบาะด้านหลังมีแรงงานพม่าจำนวน 6 คน เป็นชาย 3 คน หญิง 3 คน
เบื้องต้นทางผู้ตองหาให้การรับสารภาพว่า นำพาแรงงานต่างด้าวจากจังหวัดระนอง เพื่อเดินทางไปส่งจังหวัดภูเก็ต และ จังหวัดสุราษฎร์ฯ คิดค่าหัวคนละ 5000 – 6000 บาท ต่อคน โดยมีนายจ้างที่อยู่ประเทศพม่า สั่งการให้ไปรับตามจุดต่างๆที่ได้นัดหมายไว้ และนำไปส่งถึงต้นทาง ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัวทั้งหมดไป สภ.ตะกั่วป่า เพื่อสอบปากคำเพิ่มเติมถึงขบวนการลักลอบขนแรงงานเถื่อน เข้ามาในในอาณาจักรไทย โดยไม่มีหนังสือเดินทาง หรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทางเพื่อแสดงตัวตน พร้อมควบคุมตัวแรงงานทั้งหมดและคนขับรถนำพา ส่งพนักงานสอบสวน สภ.ตะกั่วป่า เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมกับประสาน เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) เพื่อผลักดันแรงานทั้งหมดกลับประเทศต่อไป.
