สงขลา/แม่ร้องมิจฉาชีพฉวยโอกาสสร้างเฟสบุ๊คปลอม เอาเรื่องราวชีวิตลูกสาววัย13 ปีที่ป่วยหนักไปหากิน ให้โอนเงินเข้าบัญชีปลอม หลังจากที่มีการนำเรื่องราวลูกสาวที่ป่วยเป็นธาลัสซีเมีย
แม่ร้องมิจฉาชีพฉวยโอกาสสร้างเฟสบุ๊คปลอม เอาเรื่องราวชีวิตลูกสาววัย13 ปีที่ป่วยหนักไปหากิน ให้โอนเงินเข้าบัญชีปลอม หลังจากที่มีการนำเรื่องราวลูกสาวที่ป่วยเป็นธาลัสซีเมีย ไปลงเฟสบุ๊คเพื่อขอรับความช่วยเหลือเนื่องจากครอบครัวลำบาก จนมีคนหลงเชื่อโอนเงินไปให้ พร้อมเผยปาฏิหาริย์มีจริงลูกสาวช๊อคหมดสติชีพจรหยุดเต้นแพทย์บอกเสียชีวิตแล้วให้ทำใจแต่เมื่อน้ำตาของแม่หยดใส่แก้มนิ้วมือเริ่มกระดิกและฟื้นขึ้นมาอีกครั้ง
น.ส.นิมล สังข์ปลอด อายุ 49 ปี ชาวจ.กระบี่ ได้ร้องทุกข์ผ่านผู้สื่อข่าวหลังจากที่มีคนฉวยโอกาสสร้างเฟสบุ๊คปลอมขึ้นมาและบัญชีธนาคาร สำหรับบริจาคเงินมาช่วยเหลือน้องชาม อายุ 13 ปี ลูกสาวของตนที่ป่วยด้วยโรคธาลัสซีเมีย และอาการทรุดหนักเกือบเสียชีวิต และมีคนหลงเชื่อบริจาคเงินเข้าบัญชีปลอม ซึ่งเป็นการนำชีวิตของลูกสาวตนไปหากิน
น.ส.นิมล เล่าว่า เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาลูกสาวตนอากาวิกฤติหนักและรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลกระบี่ แต่ด้วยฐานะครอบครัวที่ลำบากและตนซึ่งทำงานเป็นแม่บ้านต้องหยุดงานมาดูแลลูกสาว 
ทางแม่บุญธรรมของลูกสาว จึงได้นำภาพถ่ายของน้องชาม และเรื่องราวที่ป่วยหนัก ที่ต้องถ่ายเลือดทุกเดือน เป็นมะเร็งในเม็ดเลือด และโรคภูมิแพ้ ไปโพสต์ลงเฟสบุ๊คเพื่อขอความช่วยเหลือจากผู้ใจบุญ
แต่ปรากฏว่าวันรุ่งขึ้นกลับมีคนมาสร้างเฟสบุ๊คปลอมขึ้นมาและให้โอนเงินไปเข้าบัญชีคนอื่นรวมทั้งเปลี่ยนแปลงรายละเอียดในเฟสทั้งที่อยู่ของลูกสาวจากจ.กระบี่เป็นจ.เพชรบูรณ์ และหมายเลขโทรศัพท์ที่ติดต่อกลับ
โดยเฟสจริงโพสต์ในชื่อของ Thipamas Phetthongma โอนเงินผ่านบัญชีตน น.ส.นิมล สังข์ปลอด ธนาคารกรุงไทยสาขาอ่าวลึกกระบี่ หมายเลขบัญชี 818-0-3519-9 และเบอร์โทรติดต่อ 061-2166967
แต่ในเฟสปลอมโพสต์ในชื่อ เนยเลว(มเหศวล) โอนเงินผ่านบัญชี น.ส.เนตรนรินทร์ วิชัยแสง ธนาคารกรุงไทย สาขาเพชรบูรณ์ เลขบัญชี 614-077823-9 เบอร์โทร 094-1632889 และในเฟสปลอมยังเปลี่ยนที่อยู่ในรายละเอียดของน้องชามว่าเป็นชาวอ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ แต่ในเฟสจริงอยู่ที่อ.อ่าวลึก จ.กระบี่
น.ส.นิมล กล่าวว่า หลังเกิดเหตุทางแม่บุญธรรมที่เป็นคนโพสต์เฟสบุ๊คได้ไปแจ้งความไว้แล้ว พร้อมกับเรียกร้องให้ตำรวจสืบสวนติดตามจับกุมผู้ที่สร้างเฟสปลอมขึ้นมาเนื่องจากเอาชีวิตและความเป็นความตายของน้องไปหากิน ที่สำคัญมีคนถูกหลอกให้โอนเงินไปแล้ว500 บาทและน่าจะมีคนหลงเชื่อโอนเงินเข้าไปอีก
น.ส.นิมล ยังกล่าวอีกว่า ระหว่างที่น้องชาม รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลกระบี่ แต่อาการทรุดหนักและช๊อคจนแน่นิ่งไปและชีพจรก็หยุดเต้น หมอบอกว่าให้ทำใจเพราะลูกสาวเสียชีวิตแล้ว แต่ปาฏิหาริย์มีจริงไม่เชื่อก็ต้องเชื่อเพราะขณะที่ตนไปดูหน้าลูกสาวเป็นครั้งสุดท้ายและร้องให้จนน้ำตาหยดใส่แก้มลูกสาว ปรากฏว่านิ้วมือของลูกค่อยๆกระดิกและรู้สึกตัวขึ้นมาอีกครั้งซึ่งแพทย์เองก็แทบไม่เชื่อกับสิ่งที่เกิดขึ้นและอาการก็ค่อยๆดีขึ้นตามลำดับจนกลับมาเดินได้
และล่าสุดในวันนี้ทางโรงพยาบาลกระบี่ได้ส่งตัวมาตรวจอาการเพิ่มเติมที่โรงพยาบาลสงขลานครินทร์หาดใหญ่ หรือม.อ.อีกครั้งและทำการรักษาน้องชามอย่างดีที่สุด
https://youtu.be/XvqOzZ2Ljec
ภาพ/ข่าว มณีรัตน์ แก้ววิเชียร ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดสงขลา
