ทหารพราน 31 สนธิกำลัง บช.ปส. เปิดยุทธการตรวจค้น บ้านเป้าหมาย….จับกุมผู้ประสานงานลำเลียงยานรก..ยึดทรัพย์ขยายผล…
เมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2561 เวลา 05.00 น. หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารม้าที่ 2 ส่วนแยก โดย หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 31 จัดกำลัง จำนวน 31 ชุดปฏิบัติการ สนับสนุนภารกิจของกองบัญชาการปราบปรามยาเสพติด, ตำรวจภูธรภาค 5 , สำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติดภาค 5 , ตํารวจตระเวนชายแดน, สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน, ฝ่ายปกครองอำเภอเวียงแก่น, หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำน้ำโขงเขตเชียงราย, ศูนย์ป้องกันและปราบปรามยาเสพติดชายแดนภาคเหนือ และหน่วยงานที
่เกี่ยวข้อง..เปิดยุทธการปิดล้อมตรวจค้นบ้านเป้าหมายกลุ่มขบวนการค้ายาเสพติด ในพื้นที่ตำบลปอ อำเภอเวียงแก่น จังหวัดเชียงราย จำนวน 30 เป้าหมาย ซึ่งจากการสืบสวนและขยายผลมาอย่างต่อเนื่อง พบว่าเป็นเป้าหมายในระดับสั่งการและประสานงานเครือข่ายค้ายาเสพติดอยู่ในพื้นที่ดังกล่าว รวมถึงพื้นที่อำเภอเทิง จังหวัดเชียงราย จำนวน 6 เป้าหมาย โดยมี พลตำรวจเอก เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และ พลตำรวจโท ชินภัทร สารสิน ผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด เดินทางมาอำนวยการปฏิบัติ ด้วย
ผลจากการเปิดยุทธการในการปิดล้อมตรวจค้นเป้าหมายและเครือข่ายยาเสพติดในพื้นที่อำเภอเวียงแก่นและอำเภอเทิง จังหวัดเชียงราย สามารถควบคุมตัวบุคคลตามเป้าหมายได้ จำนวน 1 คน พร้อมตรวจยึดของกลาง บริเวณบ้านเลขที่ 158 บ้านห้วยคุ หมู่ 8 ตำบลปอ อำเภอเวียงแก่น จังหวัดเชียงราย โดยผู้ต้องหาทราบชื่อ คือ นายศักดิ์ชัย แซ่ลี อายุ 33 ปี อาศัยอยู่บ้านเลขที่ 158 บ้านห้วยคุ หมู่ที่ 8 ตำบลปอ อำเภอเวียงแก่น จังหวัดเชียงราย ซึ่งมีพฤติการณ์เป็นผู้จัดหาทีมลำเลียงลักลอบขนยาเสพติด พร้อมทั้งประสานงานเส้นทางเป้าหมายจุดพักคอยสำหรับใช้ในการนำเรียงยาเสพติด และเป็นผู้ดำเนินการทางธุรกรรมการเงินให้กับกลุ่มเครือข่ายยาเสพติดด้วย
สำหรับของกลางที่เจ้าหน้าที่ทำการตรวจยึดได้ประกอบด้วย บ้านพักอาศัยพร้อมที่ดิน จำนวน 2 หลัง, รถยนต์ จำนวน 6 คัน, รถจักรยานยนต์ จำนวน 3 คัน, ทองรูปพรรณ, เงินสด
จากนั้นหน่วยจึงได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบัญชาการปราบปรามยาเสพติด และเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรภาค 5 ควบคุมตัวผู้ต้องหาและตรวจยึดของกลางดังกล่าว ส่ง พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเวียงแก่น เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายปัจจุบันหน่วยยังคงบูรณาการงานด้านการข่าวและการปฏิบัติการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการขยายผลกลุ่มเครือข่ายขบวนการค้ายาเสพติดอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้เป็นไปตามนโยบาย ของผู้บัญชาการทหารบกและ แม่ทัพภาคที่ 3 ที่เน้นย้ำให้ดำเนินการตามมาตรการที่เข้มข้นในการกวาดล้างอาชญากรรมและยาเสพติด ให้เห็นผลสัมฤทธิ์ภายใน 3 เดือน โดยเฉพาะในพื้นที่ตามแนวชายแดน และเส้นทางช่องทางธรรมชาติที่กลุ่มขบวนการค้ายาเสพติดมักใช้เป็นเส้นทางในการลักลอบลำเลียงยาเสพติดเข้ามายังภายในประเทศ โดยหน่วยจะยังคงจัดกำลังเข้าปฏิบัติการและสนับสนุนส่วนราชการที่เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่อง