นายธีรวงศ์ สรรค์พิพัฒน์ ผู้อำนวยการศูนย์ผดุงธรรม ได้รับการร้องเรียนว่ามีกลุ่มคนจีนได้แปลงสัญชาติไทยและเข้ามาถือกรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์ ทำธุรกรรมฉ้อฉลในไทย โดยมีการประกอบธุรกิจเป็นวงกว้าง เช่น กรณีกลุ่มชาวต่างชาติแอบอ้างเป็นตัวแทนขายเครื่องดับเพลิงว่าเป็นตัวแทนขายจากองค์การวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีอวกาศประเทศจีน (CASC) เพื่อให้คนหลงเชื่อว่าได้รับอนุญาตให้เป็นตัวแทนแต่เพียงผู้เดียว เป็นเหตุให้มีผู้หลงเชื่อซื้อถังดับเพลิงดังกล่าวโดยสำคัญผิด การเรียกเงินลงทุน รวมถึงการได้มาซึ่งสัญชาติไทยของกลุ่มชาวจีนดังกล่าวว่าได้รับสัญชาติไทยมาในคราวเดียวกัน และวันเดียวกันเป็นไปได้หรือไม่
ซึ่งจากการตรวจสอบเบื้องต้นเป็นการได้รับสัญชาติไทยเมื่อวันที่ 1 ตค. 2550 ข้อสังเกตุในวันที่ดังกล่าวเป็นวันที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยอยู่ในตำแหน่งวันสุดท้าย และเป็นที่น่าสังเกตุเพิ่มเติมว่าการแปลงสัญชาติจากจีนมาเป็นไทยสามารถได้รับอนุญาตตามกฎหมายหรือไม่ และสาเหตุเงื่อนไขของการได้รับสัญชาติไทยทั้ง 3 คนประกอบด้วยบิดา มารดา และบุตรสามารถกระทำในคราวเดียวกันได้หรือไม่ และได้ปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องหรือไม่ มีการแปลงสัญชาติและได้ยื่นสละสัญชาติจีนหรือไม่ โดยจะมีการยื่นตรวจสอบการได้รับสัญชาติไทยของกลุ่มชาวต่างชาติในช่วงปี 2550 ต่อไปรวมถึงยื่นเอกสารที่เกี่ยวข้องของการแปลงสัญชาติและการดำเนินการธุรกิจในไทยของกลุ่มคนจีนให้กับสถานทูตจีนตรวจสอบต่อไป
ทั้งนี้การได้มาซึ่งสัญชาติไทยของคนไทยภายใต้กฎหมายแห่งราชอาณาจักรไทยมีหลักการได้มาซึ่งสัญชาติไทยอยู่ 2 ลักษณะใหญ่คือ
1. ได้สัญชาติโดยการเกิด แบ่งเป็น 2 กรณี
1.1 ได้โดยหลักสายโลหิต คือ บิดาหรือมารดาผู้ให้กำเนิดเป็นผู้มีสัญชาติไทย ในขณะที่บุตรเกิด ทั้งเกิดในหรือนอกราชอาณาจักรไทย
1.2 ได้โดยหลักดินแดน ซึ่งจะต้องเป็นผู้ที่เกิดในราชอาณาจักร โดยมีบิดามารดาเป็นคนต่างด้าวจำแนกได้ หลายกรณี เช่น
1.2.1 บิดา มารดา มีถิ่นพำนักถาวรในราชอาณาจักร (มีใบสำคัญถิ่นที่อยู่) บุตรเกิดในราชอาณาจักรจะได้ สัญชาติไทยตั้งแต่เกิด
1.2.2 ถ้าบิดามารดาไม่มีถิ่นพำนักในราชอาณาจักร (มีใบสำคัญถิ่นที่อยู่) บุตรเกิดในราชอาณาจักรจะได้ สัญชาติไทยต่อเมื่อต้องยื่นเรื่องขอสัญชาติไทย และได้รับอนุมัติจากผู้มีอำนาจตามกฎหมาย