เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนปราบปราม ตม.จ.จันทบุรี ติดตามจับกุมตัว นายโสพัธ เวิน อายุ 29 ปีสัญชาติกัมพูชา ซึ่งเป็นหนึ่งในคนต่างด้าวที่พบว่ามีหมายจับของศาล อยู่ระหว่างหลบหนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่ มาดำเนินคดี โดยทราบมาว่าก่อนหน้านี้ประมาณปลายปี 2565 ชายคนดังกล่าวได้ ก่อเหตุพกพาอาวุธบุกรุกเข้าไปในเคหสถานในเวลากลางคืน โดยใช้กำลังประทุษร้าย ข่มขืนกระทำชำเราหญิงหญิงสาวเพื่อนร่วมชาติเดียวกัน ในพื้นที่จังหวัดปทุมธานี แล้วหลบหนีไป โดยหลังจากที่เกิดเหตุแล้วผู้เสียหายได้ไปขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ตำรวจและแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองปทุมธานี ให้ดำเนินคดีกับชายชาวกัมพูชาที่ก่อเหตุดังกล่าว ซึ่งพบว่าในเวลาต่อมาศาลจังหวัดปทุมธานี ได้ออกหมายจับ นายโสพัธ เวิน ในความผิดฐาน “บุกรุกเคหสถานในเวลากลางคืนโดยใช้กำลังประทุษร้ายหรือขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้ายโดยมีอาวุธและข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้ายโดยผู้อื่นนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้” ตามหมายจับ ศาลจังหวัดปทุมธานี ที่ 246/2565 ลงวันที่ 16 ธ.ค.2567
ทันทีที่ได้รับคำสั่ง ฝ่ายสืบสวน ตม.จว.จันทบุรี ได้ทำการประสานความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ประจำจุดตรวจผ่านแดน เฝ้าระวังเพิ่มความเข้มงวดในการคัดกรองบุคคลต่างด้าวที่เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร โดยการสืบสวนหาข่าวมาโดยตลอด จนทำให้ทราบข่าวว่ามีคนต่างด้าวที่ลักษณะคล้ายบุคคลตามหมายจับนี้ เข้ามาทำงานเป็นลูกจ้างตัดไม้อยู่ที่ อำเภอขลุง จังหวัดจันทบุรี เมื่อเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนชุดจับกุมทราบดังนั้นจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบและวางแผนเข้าไปทำการตรวจสอบและจับกุมตัวคนต่างด้าวรายนี้มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไปได้ที่บริเวณด้านหลังลานจอดรถภายในปั๊มน้ำมันเชลล์ ตำบลขลุง อำเภอขลุง จังหวัดจันทบุรี
ทั้งนี้ พล.ต.ท.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย ผบช.สตม. และ พล.ต.ต.ณัฐกร ประภายนต์ ผบก.ตม.3 ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองทุกจังหวัด สืบสวนหาข่าว ติดตามจับกุมบุคคลต่างด้าวมีหมายจับศาลมาดำเนินคดีตามกฎหมาย อย่างจริงจังต่อเนื่อง ให้มีผลการปฏิบัติเป็นรูปธรรม และฝากถึงประชาชนหากพบบุคคลต่างด้าวกระทำความผิดตามกฎหมาย สามารถแจ้งมาที่สายด่วน 1178 ได้ตลอดเวลา
