Reporter&Thai Army ข่าวประชาสัมพันธ์ ข่าวรอบรั้วภูธร ข่าวเด่น นิตยสารตำรวจ สถานีประชาชน

เปิดปฏิบัติการ “Guardian Angel” จับกุมหนุ่มใหญ่ภัยสังคม เจ้าของกลุ่มลับ Telegram ลวงเด็กถ่ายคลิปโป๊ บังคับเหยื่อตกเป็นทาส สั่งถ่ายคลิปหวิวตามบัญชา

เปิดปฏิบัติการ “Guardian Angel”
จับกุมหนุ่มใหญ่ภัยสังคม เจ้าของกลุ่มลับ Telegram ลวงเด็กถ่ายคลิปโป๊
บังคับเหยื่อตกเป็นทาส สั่งถ่ายคลิปหวิวตามบัญชา

ตามนโยบายของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี, นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ได้ให้ความสำคัญในการป้องกันปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีรวมถึงการกระทำผิดที่ส่งผลกระทบต่อเด็กและเยาวชนทุกรูปแบบ โดย พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. มอบหมายให้ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพชร์ รอง ผบ.ตร., พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้ช่วย ผบ.ตร. รรท.รอง ผบ.ตร. ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว ป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์และภาคประมง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือ ศพดส.ตร. ร่วมกันเร่งรัดขับเคลื่อนผลการปฏิบัติของตำรวจ
ทุกหน่วยที่เกี่ยวข้องทั่วประเทศให้ดำเนินการ ดังนั้น ภายใต้การอำนายการของ พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์ครบัญชา ผบช.สอท. จึงได้ดำเนินการตามนโยบายจนมีการเปิดปฏิบัติการตรวจค้นจับกุมอย่างเข้มข้นมาโดยตลอด พร้อมทั้งขยายผลเพื่อจับกุมผู้กระทำผิดให้ได้ทั้งขบวนการ

วันพฤหัสบดีที่ 25 ก.ค.67 เวลา 14.00 น. ณ ห้องสาทร ชั้น 2 อาคารเฉลิมพระเกียรติฯ 60 พรรษา บช.สอท.
นำโดย พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้ช่วย ผบ.ตร. รรท.รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท., พล.ต.ต.อรรถสิทธิ์ สุดสงวน รอง ผบช.สอท., พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ รอง ผบ.ตร., พล.ต.ต.ชูศักดิ์ ขนาดนิด ผบก.ตอท. และ พ.ต.อ.รุ่งเลิศ คันธจันทร์ ผกก.กลุ่มงานต่อต้านการล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็กทางอินเทอร์เน็ต บก.ตอท. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมแถลงข่าว ปฏิบัติการ “Guardian Angel” จับกุมหนุ่มใหญ่
ภัยสังคม เจ้าของกลุ่มลับ Telegram ลวงเด็กถ่ายคลิปโป๊ บังคับเหยื่อตกเป็นทาส สั่งถ่ายคลิปหวิว
ตามบัญชา

สืบเนื่องจากเมื่อเดือน กุมภาพันธ์ 2566 ได้มีผู้ปกครองของเด็กหญิงอายุ 9 ขวบ ได้เข้าร้องขอความช่วยเหลือจากมูลนิธิปวีณาว่า บุตรสาวของตนเองถูกคนร้ายอ้างว่าเป็นหมอดูหลอกให้ถ่ายภาพและคลิปลามกอนาจารไปให้ โดยบังคับข่มขู่เข็ญให้เด็กส่งข้อมูลดังกล่าวไปให้อย่างต่อเนื่องเป็นเวลากว่า 2 ปี จนผู้ปกครองทราบเรื่องจึงได้เข้าร้องขอความช่วยเหลือ

ต่อมา ศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว ป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ และภาคประมง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ศพดส.ตร. ได้ร่วมกับ บช.สอท. ร่วมกันสืบสวนกรณีดังกล่าว จนสามารถรวบรวมพยานหลักฐาน
และเข้าจับกุมนายนัฐพงษ์ หรือหมู อายุ 26 ปี พร้อมตรวจยึดโทรศัพท์มือถือของกลางจำนวน 5 เครื่อง
โดยจากการตรวจสอบข้อมูลในโทรศัพท์ของกลาง พบว่าเมื่อมีการล่อลวงเด็กให้ส่งสื่อลามกอนาจารไปให้แล้ว จะนำไปอวดกันในกลุ่มลับ Telegram ซึ่งจากการตรวจสอบข้อมูลภายในกลุ่มพบว่า มีเด็กผู้หญิงตกเป็นเหยื่อแล้วมากกว่า 30 ราย อีกทั้ง ยังมีการสอนสมาชิกในกลุ่มถึงวิธีการสนทนาหลอกล่อ และข่มขู่ให้เด็ก
ถ่ายภาพและคลิปลามกอนาจารให้ เป็นการบังคับให้เหยื่อเป็นเสมือนทาส หากกลุ่มคนร้ายอยากดูสื่อลามกอนาจารเมื่อไหร่ต้องได้ดู และวางแผนกันว่าจะดูตั้งแต่เหยื่อเป็นเด็กจนโตเป็นสาว

จากการสืบสวน ติดตามข้อมูลและขยายผลกลุ่ม Telegram ดังกล่าว พบว่ามีผู้ต้องสงสัยในคดีจำนวน 5 ราย คือ นายหมู นายกุ้ง และผู้ต้องสงสัยเพิ่มเติมอีก 3 ราย (ขอสงวนนามเนื่องจากอยู่ระหว่างขยายผล) โดยนายหมูได้ถูกจับกุมไปแล้วเมื่อ ก.พ.66 ที่ผ่านมา จากหลักฐานพบว่ากลุ่มดังกล่าวเป็นกลุ่มที่ 1 ในผู้ต้องสงสัยเพิ่มเติม 3 รายดังกล่าวเปิดขึ้นใหม่หลังจากที่นายหมูถูกจับกุม โดยเปิดขึ้นเมื่อวันที่ 13 ก.พ.67
มีพฤติการเช่นเดียวกับกลุ่มเทเลแกรมชื่อ “รักมัธยม” ซึ่งเป็นกลุ่มเดิมที่นายหมูเป็นเจ้าของและโดนจับกุม

เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้สืบสวนจนทราบว่าเจ้าของบัญชีเทเลแกรมลับดังกล่าวคือ นายไชยยาฯ หรือ กุ้ง อายุ 48 ปี ซึ่งเจ้าหน้าที่พบข้อมูลที่เชื่อมโยงไปยังนายกุ้ง ได้แก่ การโพสต์ภาพและวิดิโอลามกอนาจาร รวมถึงการโพสต์ภาพเด็กหญิงที่กล่าวอ้างว่าตนได้มีเพศสัมพันธ์ด้วย จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขอศาลจังหวัดตลิ่งชันออกหมายค้นได้สำเร็จ

ต่อมาเมื่อช่วงเช้ามืดของวันที่ 24 ก.ค.67 เจ้าหน้าที่ตำรวจกลุ่มงานต่อต้านการล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็กทางอินเทอร์เน็ต บก.ตอท. (TICAC) ได้ร่วมกันนำหมายค้นศาลจังหวัดตลิ่งชัน ที่ ค168/2567 ลงวันที่ 23 ก.ค.67 เข้าตรวจค้นคอนโดมิเนียมแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ ซอย 57 แขวงบางบำหรุ เขตบางพลัด กรุงเทพมหานคร และสามารถจับกุมตัวนายไชยยาฯ หรือกุ้ง อายุ 48 ปี สามารถตรวจยึดโทรศัพท์มือถือและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ จากการตรวจสอบข้อมูลภายในเครื่อง พบบัญชีเทเลแกรมที่ใช้โพสต์ภาพและคลิปไปยังกลุ่มดังกล่าว นอกจากนี้ พบว่านายกุ้งยังเป็นแอดมินกลุ่มเทเลแกรมอื่นๆ อีกหลายกลุ่ม และยังพบข้อมูลการสนทนากับเด็กผู้หญิงในเชิงลามกอนาจารอีกจำนวนมาก เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แจ้งข้อหา “ครอบครองและส่งต่อสื่อลามกอนาจารเด็กเพื่อประโยชน์ในทางเพศสำหรับตนเองหรือผู้อื่น, เพื่อประสงค์แห่งการค้าหรือโดยการค้า เพื่อการแจกจ่ายหรือเพื่อการแสดงอวดแก่ประชาชน ทำ ผลิต มีไว้ หรือทำให้แพร่หลายโดยประการใดๆ ซึ่งสื่อลามกอนาจารเด็ก, นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์หรือส่งต่อซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใด ๆ ที่มีลักษณะอันลามกและข้อมูล คอมพิวเตอร์นั้นประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้และ บังคับขู่เข็ญ ใช้ ชักจูง ยุยง ส่งเสริม หรือยินยอมให้เด็กแสดงหรือกระทำการอันมีลักษณะลามกอนาจาร ไม่ว่าจะเป็นไปเพื่อให้ได้มาซึ่งค่าตอบแทนหรือเพื่อประการใด เบื้องต้นผู้ต้องหารับสารภาพตลอดข้อกล่าวหาเพราะจำนนต่อหลักฐาน จึงนำตัวส่งดำเนินคดีตามกฎหมายและเร่งขยายผลเพื่อจับกุมผู้กระทำผิดที่ร่วมขบวนการดังกล่าวต่อไป

จึงขอฝากเตือนไปยังพี่น้องประชาชนให้หมั่นทำความเข้าใจกับบุตรหลาน โดยคนร้ายมีแผนประทุษกรรมที่มักพบได้บ่อย คือ
1.หลอกจะให้เงิน คนร้ายจะเสนอเงินหรือสิ่งของมีค่าให้เพื่อแลกกับการส่งภาพที่ไม่เหมาะสมไปให้
2.เชิญเป็นดารา คนร้ายจะปลอมเป็นโมเดลลิ่งหรือแมวมองชักชวนเข้าวงการ โดยจะให้เปิดเผยสัดส่วน
3.ชวนให้เปลื้องผ้า คนร้ายจะจีบเป็นแฟนแล้วล่อลวงให้ส่งภาพเปลือยกายในลักษณะลามกอนาจารให้
4.ท้าให้เปิดกล้อง โดยอ้างว่าเมื่อเป็นแฟนกันแล้วจะชักชวนวีดีโอคอลในลักษณะลามกอนาจาร
5.หลอกว่าเป็นหมอดู และให้กระทำการต่างๆ ตามที่หมอดูสั่ง
6.หากตกเป็นเหยื่อแล้ว คนร้ายจะบังคับให้ไปหาเพื่อนมาเป็นเหยื่อแทนตัวเอง

อย่างไรก็ตาม ผู้ปกครองควรทำความเข้าใจและให้ความรู้แก่เด็กเรื่อง กลลวงต่างๆ ของคนร้ายที่อาจแฝงตัวมาในโลกออนไลน์ พ่อแม่ผู้ปกครองต้องหมั่นดูแลเอาใจใส่บุตรหลานให้เล่นโซเชียลมีเดียอย่างมีสติ อย่าไว้ใจและหลงเชื่อคำพูดของคนแปลกหน้าในโลกออนไลน์ เพราะบุตรหลานเราอาจตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพที่จะเข้ามาล่อลวงให้ผลิตสื่อลามกอนาจารได้.