23 กันยายน 2567 ภาพจากกล้องวงจรปิดจับภาพผู้ต้องสงสัย เป็นหญิงวัยประมาณกลางคน ถือถุงหิ้วทำทีเดินเข้ามาเร่ขายหอยเชอร์รี่ ภายในร้านเตี๋ยวกะยำ AT 20.20 ตำแซ่บนัวร์ ตึกแถวบริเวณริมถนนหน้า มหาวิทยาลัยราชภัฏศรีสะเกษ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ จากนั้นได้หยิบโทรศัพท์มือถือที่วางไว้บริเวณเคาร์เตอร์แคชเชียร์ ซึ่งเป็นของเจ้าของร้านหลบหนีไป เหตุเกิดเมื่อวันที่ 20 ก.ย.67 เวลาประมาณ 19.00 น.
จากนั้นผู้สื่อข่าวจึงได้เดินทางลงพื้นที่ไปพบกับ นายธนัชกฤศ เจริญสุข อายุ 37 ปี เจ้าของร้าน ได้เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า วันเกิดเหตุ ขณะที่ตนและภรรยา กำลังทำอาหารให้ลูกค้าภายในครัวในร้านดังกล่าว อยู่นั้น ได้มีผู้หญิงวัยกลางคน สวมเสื้อสีเหลือง กางเกงขายาวสีดำ ขับรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า ดรีม สีน้ำเงินขาว ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน ขับขี่มาจอดหน้าร้าน และเดินเข้ามาทำทีพูดคุย และเสนอขายหอยเชอร์รี่ ที่ใส่ถุงพลาสติกหิ้วมาด้วย ตนจึงตกลงซื้อช่วย จำนวน 3 ถุง รวมเป็นเงิน 210 บาท ตนจึงได้เดินเข้าไปหาภรรยาในครัว เพื่อจะนำเงินมาจ่ายให้
จังหวะนั้น คนร้ายได้หยิบเอาโทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อซัมซุง รุ่นกาแล็คชี่ เอ53 5จี มีซิมการ์ด ของตนที่วางไว้หน้าเคาร์เตอร์แคชเชียร์ หยิบไป ตนจึงพยายามเดินหาโทรศัพท์เพื่อที่จะนำมาแสกนจ่ายเงินให้แม่ค้าหอย แต่หาโทรศัพท์ไม่เจอ ขณะนั้นสังเกตเห็นแม่ค้าหอย ท่าทางมีพิรุธ รุกรี้รุกรน ผิดปกติ แล้วก็รีบเดินหนีออกจากร้านไป ตนจึงได้ตะโกนถามว่า ได้เงินค่าหอยแล้วหรือ แม่ค้าหอยรีบตอบว่า ได้แล้ว ได้แล้ว แล้วก็รีบขับรถ จยย.หนีไป ตนจึงเอาโทรศัพท์อีกเครื่องโทรหา โทรติดแต่ไม่มีคนรับ
ต่อมาตนจึงได้เช็คดูสัญญาณจีพีเอส ที่ติดตั้งไว้ในเครื่องโทรศัพท์ ก็พบว่าสัญญาณจีพีเอสระบุตำแหน่งของเครื่องโทรศัพท์มือถือ อยู่ที่ชุมชนแห่งหนึ่ง ในเขตเทศบาลเมืองศรีสะเกษ ตนจึงได้ขับรถติดตามสัญญาณไป ปรากฏว่า พบรถ จยย.คันเดียวกันกับแม่ค้าขายหอย ที่เข้ามาขายหอยวันนั้น จึงมั่นใจว่าคนร้ายที่ขโมยมือถือตนไป คือแม่ค้าขายหอย จึงได้เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวนเพื่อติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีและนำมือถือของตนกลับมาคืนโดยด่วน และอยากฝากเป็นอุทาหรณ์ให้ระวังกลุ่มมิจฉาชีพที่อาจแฝงตัวมาในรูปแบบต่างๆ เพื่อป้องกันทรัพย์สินสูญหายต่อไป.
ทีมข่าว จ.ศรีสะเกษ รายงาน
