สงขลา/หาดใหญ่ คืบหน้าสาวจีนตกน้ำตกเสียชีวิตคาดว่าไม่ใช่อุบัติเหตุคดีนักท่องเที่ยวสาวชาวจีนที่ตกน้ำตกโตนงาช้างเสียชีวิตมีเงื่อนงำพบพิรุธหลายอย่างเชิญตัวเพื่อนชาวจีนสอบเครียดที่ไปเที่ยวน้ำตกด้วยกันแต่ยังปฏิเสธ
ความคืบหน้ากรณีพบ น.ส.LEI TIAN อายุ 28 ปี นักท่องเที่ยวชาวจีน เสียชีวิตที่บริเวณแอ่งน้ำชั้น1 ของน้ำตกโตนงาช้าง ต.ทุ่งตำเสา อ.หาดใหญ่ เมื่อวันที่ 21 กันยายน ที่ผ่านมาซึ่งคดีนี้เจ้าหน้ายังอยู่ระหว่างการสอบสวนว่ามาจากอุบัติเหตุหรือฆาตรกรรมอำพรางเนื่องจากพบพิรุธหลายอย่าง ทั้งจากกระเป๋าเครื่องใช้ส่วนตัวที่ถูกนำมาทิ้งในถังขยะและโทรศัพท์มือถือที่ถูกทิ้งในน้ำแต่ถูกถอดซิมการ์ดออกไป
ล่าสุดทาง พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว ได้สั่งตั้งทีมสืบสวนขึ้นมาคลี่คลายคดีนี้โดยเฉพาะเนื่องจากพบปมต้องสงสัยหลายอย่างที่บ่งชี้ว่าน่าจะเป็นการฆาตรกรรมอำพราง
และในวันนี้ทางตำรวจท่องเที่ยวหาดใหญ่กองกำกับการ 3 กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว ได้เชิญตัวชายชาวจีนซึ่งตกเป็นผู้ต้องสงสัยว่าอาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิต ของ น.ส. LEI TIAN มาทำการสอบสวนแต่ยังคงให้การปฏิเสธว่าไม่รู้จักกับผู้ตาย และตำรวจยังได้ยึดรถเก๋งฮอนด้าซิตี้สีขาว หมายเลขทะเบย WB 6579 G ที่ขับไปเที่ยวน้ำตกในวันเกิดเหตุมาตรวจสอบสวน
แต่จากการสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐานพบว่าทั้งสองคนเป็นเพื่อนกันทำงานด้านซอฟอยู่ที่เดียวกันที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ประเทศมาเลเซีย ฝ่ายหญิงเดินทางเข้าทางเครื่องบินส่วนฝ่ายชายเดินทางมากับเพื่อนด้วยรถเก๋งทางด่านพรมแดนสะเดา
และในวันเกิดเหตุเมื่อช่วงเที่ยงของวันที่19 กันยายน ทั้งคู่ได้เดินทางไปเที่ยวที่น้ำตกโตนงาช้าง โดยชายคนนี้ขับรถเก๋งไปพร้อมกับเพื่อน ส่วนน.ส. LEI TIAN ได้เหมารถแท็กซี่ขับตามไปทีหลัง
และจากการสอบถามคนขับแท๊กซี่บอกว่าระหว่างที่อยู่ในรถผู้ตายได้โทรศัพท์ไปคุยกับใครบางคน และเมื่อไปถึงน้ำตกก็ชี้ไปยังรถเก๋งคันนี้และชายคนหนึ่งซึ่งเหมือนกับมีการนัดเจอกันไว้ก่อนแล้วและบอกให้รถแท็กซี่กลับไปไม่ต้องรอ และปรากฏว่าในช่วงเย็นรถเก๋งคันนี้ก็เป็นรถคันสุดท้ายที่ออกจากน้ำตก กระทั่งมาพบร่าง น.ส. LEI TIAN เสียชีวิตอยู่บริเวณชั้น1ในวันที่20 กันยายน
ส่วนชายคนนี้หลังกลับจากน้ำตกได้เช็คเอ้าต์ออกจากโรงแรมที่พักในอ.หาดใหญ่ และไปนอนที่ตัวเมืองสงขลา2 คันและเดินทางต่อไปยังจ.กระบี่ 1 คืน ก่อนที่ตำรวจท่องเที่ยวจะไปเชิญตัวมาสอบสวนแต่ยังคงให้การปฏิเสธไม่รู้จักผู้ตายและไม่มีส่วนรู้เห็นกับการเสียชีวิตแต่ยอมรับว่าในวันเกิดเหตุไปเที่ยวน้ำตกจริง และจากการตรวจสอบข้อมูลในโทรศัพท์มือของชายคนนี้พบว่าได้ถูกล้างข้อมูลไปหมดแล้ว ซึ่งสวนทางกับแนวทางการสอบสวน
สำหรับคดีนี้ทางเจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถดำเนินคดีใดๆกับชายชาวจีนคนนี้ได้เพราะยังไม่มีหลักฐานแม้ผลการสอบสวนจะพบพิรุธหลายอย่าง โดยขณะนี้ยังคงเร่งรวบรวมพยานหลักฐานโดยเฉพาะผลการตรวจชันสูตรศพของแพทย์นิติเวชน์โรงพยาบาลหาดใหญ่ว่ามาจากอุบัติเหตุหรือถูกฆาตรกรรมซึ่งผลยังไม่ออกมา รวมทั้งเจ้าหน้าที่จะทำการกู้ข้อมูลในโทรศัพท์มือถือของทั้งคนเพื่อใช้เป็นหลักฐานมัดตัว เพราะคาดว่าคดีน่าจะเป็นการวางแผนลวงไปฆ่าอย่างแนบเนียน
มณีรัตน์ แก้ววิเชียร ข่าว/ภาพ
Comments are closed.