20 สิ่งต้องห้าม ! พลาด เที่ยวคลองท่อมเมืองสปาน้ำพุร้อน
วันที่ 24 สิงหาคม 2561 เวลาประมาณ 10.00 น. โดยมีนาย สมโภชน์ โชติชูช่าง ปลัดจังหวัดกระบี่ เป็นประธานในงาน ร่วมกับนาย ไพศาล ศรีเทพ นายอำเภอคลองท่อม และนาย อภิชัย อรัญญิก ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวจังหวัดกระบี่ ในงานมีกิจกรรมการถ่ายทอดความรู้ที่เป็น โมเดลต้นแบบ การพัฒนาสินค้าบริการใหม่เป็น โมเดลต้นแบบการพัฒนาสินค้าบริการใหม่การเปิดตัว 20 สิ่ง ต้องห้ามพลาดนะคลองท่อมหรือ klongthom’s signatrue โดยการดำเนินงานของสถาบันพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ซึ่งได้รับทุนสนับสนุนจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย ซึ่งได้รับทุนสนับสนุนจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) ให้ดำเนินโครงการการสร้างมูลค่าเพิ่ม ให้สินค้าและบริการเชิงสร้างสรรค์ กรณีศึกษาเมืองสปาน้ำพุร้อน อำเภอคลองท่อม จังหวัดกระบี่
การท่องเที่ยวเป็นกลไกหลัก ในการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ โดยเฉพาะการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ที่กำลังได้รับความนิยมในกลุ่มท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ รัฐบาลจึงได้กำหนดเป้าหมาย การเติบโตของภาคการท่องเที่ยวอย่างมีคุณภาพ และยั่งยืน โดยแนวทางหนึ่งที่สำคัญคือการพัฒนาสินค้า และบริการท่องเที่ยวเพื่อสร้างรายได้ ให้กับประเทศแต่ทว่าความท้าทายของการพัฒนาสินค้าและบริการท่องเที่ยวคือจะทำอย่างไร เพื่อจะเพิ่มคุณค่าและมูลค่าให้กับสินค้าและบริการท่องเที่ยว แต่ยังคงอัตลักษณ์ของชุมชนรวมทั้งสอดคล้องกับความต้องการของตลาดกลุ่มเป้าหมาย อำเภอคลองท่อมอยู่ในระหว่างการพัฒนาเป็นเมืองสปาน้ำพุร้อน (klongthom spa Town) ซึ่งจะดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เดินทางเข้ามาจำนวนมาก แต่ยังขาดสินค้าบริการทางการท่องเที่ยว ผลิตภัณฑ์ของฝากของที่ระลึกที่มีความโดดเด่น เป็นอัตลักษณ์ตลอดจนการสร้างสรรค์ ภาพลักษณ์หรือเรื่องราวที่ดึงดูดใจลูกค้าเพื่อมิให้เสียโอกาส จึงควรเร่งยกระดับพัฒนาวิสาหกิจชุมชน OTOP วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ให้สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มคุณค่าเพิ่มจากเรื่องราว จุดขาย story กับธีมเชิงสุขภาพให้แก่สินค้าและบริการอย่างสร้างสรรค์ โดยการสำรวจความต้องการของตลาดเป้าหมาย การศึกษาอัตลักษณ์ที่โดดเด่น ซึ่งสอดคล้องกับยุทธศาสตร์การพัฒนาของจังหวัดกระบี่ โดยได้มีการแต่งตั้งคณะทำงานพัฒนาคลองท่อมเมืองสปาน้ำพุร้อน เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาอำเภอคลองท่อมสู่การเป็นเมือง สปาระดับโลกทางด้าน นส สุทธิวรรณ อมาตยกุล สถาบัน SME ได้กล่าวทิ้งท้ายว่า ขอบคุณคณะผู้วิจัยที่ได้มุ่งมั่นผลิตงานศึกษา ที่จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการกำหนดทิศทางการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ของไทยในอนาคต และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการอภิปรายในเวทีนี้ จะนำไปสู่การสร้างวิสัยทัศน์ร่วม และสร้างแรงผลักดันเชิงบวก ที่จะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงอย่างสร้างสรรค์ เพื่อความเป็นอยู่ที่ดีอย่างยั่งยืนของคนไทย
ข้อมูลข่าว / ภาพ
มโนธรรม ใจหาญ จ.กระบี่ รายงาน
