24 กรกฎาคม 2567 แปลงนาที่มีต้นข้าวเขียวขจี ติดกับถนนสายด่านแม่คำมัน – ปลายราง หมู่ 5 ต.ด่านแม่คำมัน อ.ลับแล จ.อุตรดิตถ์ หรือออกจากตัวเมืองอุตรดิตถ์ ไปยัง อ.ศรีสัชนาลัย จ.สุโขทัย เพียง 15 กิโลเมตร กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวของชาวอุตรดิตถ์ และนักท่องเที่ยว เข้ามาสัมผัสความสดชื่นในพื้นที่กันอย่างคึกคัก ด้วยไอเดียเจ้าของปรับที่นา หลังรับมรดก 5 ไร่ ทำนาข้าวอินทรีย์ไว้ทานในครอบครัว พร้อมเปิดคาเฟ่ สร้างจุดขาย โดยเปิด “สถานีรถไฟจิ่ว ชมทุ่ง” แห่งแรกของจังหวัดอุตรดิตถ์ บรรยากาศตั้งแต่เปิดร้าน 08.00 – 20.00 น.ของทุกวัน คึกคักตลอดทั้งวัน ยิ่งวันหยุดและเทศกาลต่างๆ ลูกค้าเดินทางมาสัมผัสบรรยากาศท้องทุ่งนา เก็บภาพ เช็คอิน และ ทานอาหาร เครื่องดื่ม จำนวนมาก มีทั้งห้องแอร์ และ มุมนั่งชมธรรมชาติหลากหลายให้เลือก
น.ส.ปิยพร อ่อนวงษ์ (น้อง)เจ้าของชมทุ่งคาเฟ่ กล่าวว่า ตนมีแนวคิดปรับแปลงนามรดก พร้อมสร้างจุดขายเปิดให้ประชาชนนักท่องเที่ยวเข้าชม สร้างสะพานไม้ชมทุ่ง ห้างนาให้นั่งพัก ในรูปแบบ คาเฟ่ท้องทุ่งนา และมีกิจกรรม ที่ให้เด็กๆ ได้ใกล้ชิดธรรมชาติ เปิด“สถานีรถไฟจิ่ว ชมทุ่ง” แห่งแรกของจังหวัดอุตรดิตถ์ ตั๋วนั่งรถไฟชมทุ่ง เด็กราคา 20 บาท ผู้ใหญ่ 40 บาท นั่งรถไฟชมทุ่ง 2 รอบ พร้อมทั้งมีมุมฝึกสมาธิและจินตนาการของเด็กๆ ด้านศิลปะ ด้วยตุ๊กตาปูนปลาสเตอร์ระบายสี พร้อมสีและพู่กัน หรือจะซื้อกลับบ้าน ในราคาชุดละ 35 บาท
นอกจากนี้เรื่องของอาหาร เครื่องดื่ม มีให้เลือกหลากหลาย ครบครัน ยิ่งวันหยุด หรือ หยุดนักขัตฤกษ์ ทางร้านเปิดลานให้ประชาชนได้นำสินค้ามาร่วมจำหน่าย เป็นการสร้างรายได้ให้ชุมชน ทั้งของกิน ของฝาก เน้นอัตลักษณ์ความเป็นลับแล เช่น ข้าวพันผัก ขนมครกโบราณลับแล ก๋วยเตี๋ยวเรือชมทุ่ง และส้มตำชมทุ่ง ที่ซิกเนเจอร์คือ “ตำหมี่เหลืองทอดกรอบ” ดีใจและภูมิใจที่เห็นชาวจังหวัดอุตรดิตถ์ และนักท่องเที่ยวหลั่งไหลแวะเวียนมายัง “ชมทุ่งคาเฟ่” หลังเก็บเกี่ยวข้าวในแปลงนา ตั้งใจจะนำปอเทืองหว่าน ซึ่งเป็นปุ๋ยบำรุงที่ดี เป็นการพักหน้าดิน และดอกสีเหลืองของปอเทืองสวยงาม ยิ่งสร้างความสนใจ ซึ่งหวังว่าจะทำให้คนที่เข้ามาท่องเที่ยว บริการประชาชนและนักท่องเที่ยวตลอดทั้งปี เป็นการสร้างงาน สร้างรายได้สู่ชุมชนด้วย
นาคา คะเลิศรัมย์ รายงาน