สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจ ในพื้นที่จังหวัดลำพูน
สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจ ในพื้นที่จังหวัดลำพูน
สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินเป็นองค์ประธานทรงเปิดอาคารเรือนนอน “สุขเขษม”และอาคาร “เกษตรเมธี” ที่โรงเรียนเฉลิมพระเกียรติ 48 พรรษา ในพระบรมราชูปถัมภ์ฯ ตำบลต้นธง อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน
เมื่อวันที่ 24 มกราคม 2562 ที่โรงเรียนเฉลิมพระเกียรติ 48 พรรษา ในพระบรมราชูปถัมภ์ฯ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีเสด็จพระราชดำเนินเป็นองค์ประธานทรงเปิดอาคารเรือนนอน “สุขเขษม”และอาคาร “เกษตรเมธี” นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างล้นพ้นต่อคณะกรรมการดำเนินงานโรงเรียนเฉลิมพระเกียรติ 48 พรรษา ในพระบรมราชูปถัมภ์ฯ โดยมี นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน พร้อมด้วย ศาล ทหาร ตำรวจ ข้าราชการและประชาชน เฝ้ารับเสด็จฯ
จากนั้น นางสายสม วงสาสุลักษณ์ ผู้รับใบอนุญาตโรงเรียนฯ กราบทูลรายงานความเป็นมาและวัตถุประสงค์ในการจัดสร้างอาคารเรือนนอน“สุขเขษม”และอาคาร “เกษตรเมธี” และกราบทูลเบิกผู้มีจิตศรัทธา เข้าเฝ้าฯถวายเงิน โดยเสด็จพระราชกุศลจำนวน 10 ราย และกราบบังคมทูลเบิกผู้เข้ารับพระราชทานเข็มที่ระลึกจำนวน 120 ราย
ต่อจากนั้นเสด็จฯ ทรงกดปุ่มไฟฟ้าเปิดแพรคุมป้ายอาคานเรือนนอน“สุขเขษม” ทรงทอดพระเนตรนิทรรศการอาคารเรือนนอน“สุขเขษม” ก่อนเสด็จฯ ไปยังอาคาร
“เกษตรเมธี” เพื่อทรงตัดริบบิ้นเปิดอาคาร “เกษตรเมธี” พร้อมทอดพระเนตรนิทรรศการอาคาร “เกษตรเมธี” และปลูกต้นพะยูง ทรงฉายพระรูปร่วมกับคณะกรรมการและครูอาจารย์จำนวน 4 ชุด ใต้อาคารเรือนนอน “สุขเขษม”สำหรับโรงเรียนเฉลิมพระเกียรติ 48 พรรษา ในพระบรมราชูปถัมภ์ฯ เดิมชื่อ โรงเรียนร่วมน้ำใจ เป็นโรงเรียนประจำหญิงล้วน ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2545 โดยมูลนิธิร่วมน้ำใจต้านภัยเอดส์ มีนางสายลม วงศาสุลักษณ์ ประธานมูลนิธิร่วมน้ำใจต้านภัยเอดส์ ร่วมกับคณะกรรมการก่อตั้งมูลนิธิฯ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้การอุปการะเด็กหญิงกำพร้าที่บิดามารดาเสียชีวิตจากโรคเอดส์ เด็กที่ขาดผู้อุปการะเลี้ยงดูรวมถึงเด็กด้อยโอกาสจากทุกจังหวัดทั่วประเทศ ที่จบชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 เพื่อให้ได้รับการศึกษาต่อในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-6 เป็นโรงเรียนกินนอนโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้นซึ่งต้องใช้งบประมาณปีละ ประมาณ 18 ล้านบาท ซึ่งงบประมาณดังกล่าวได้มาจากผู้มีจิตเมตตาบริจาคทั้งสิ้น และทางโรงเรียนยังได้รับพระเมตตาจากพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระราชทานความช่วยเหลือเป็นค่าอาหาร และค่าอุปกรณ์การเรียน การสอนแก่เด็กที่น่าสงสารเหล่านี้มาโดยตลอด ต่อมาในปี พ.ศ.2546 ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจาก
สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี โปรดเกล้าฯพระราชทานนามให้โรงเรียนใหม่ว่า”โรงเรียนเฉลิมพระเกียรติ 48 พรรษา” ในวโรกาสที่ทรงมีพระชนมายุครบ 48 พรรษา และเมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2559 ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงรับโรงเรียนเฉลิมพระเกียรติ 48 พรรษา อยู่ในพระราชูปถัมภ์ โดยใช้คำว่า”ในพระราชูปถัมภ์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี”ต่อท้ายชื่อโรงเรียน ปัจจุบันมีนักเรียนทั้งสิ้น 414 คน จากจำนวนนักเรียนที่เพิ่มมากขึ้นทุกปี ทำให้อาคารเรือนนอนทั้ง 3 หลัง ไม่เพียงพอต่อการรองรับจำนวนนักเรียนได้ทั้งหมด จึงจำเป็นต้องมีการสร้างอาคารเรือนนอนหลังใหม่ขึ้น ซึ่งต้องใช้งบประมาณในการก่อสร้างทั้งสิ้น เป็นเงิน 7,713,000 บาท ทางโรงเรียนจึงได้ของบประมาณจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชนเพื่อสนับสนุนการสร้างโดยได้รับการจัดสรรงบประมาณเป็นเงิน 5,399,100 บาท ทางโรงเรียนจึงต้องจัดหางบประมาณจากผู้มีเมตตาเพิ่ม อีกจำนวน 2,313,900 บาท และได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระราชทานชื่อ “อาคารสุขเขษม”
อีกทั้งโรงเรียนยังได้จัดทำโครงการเศรษฐกิจพอเพียงด้านการเกษตรในโรงเรียนโดยฝึกให้นักเรียนทำการเกษตรตามแนวหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง จึงได้จัดสร้างอาคารขึ้นเพื่อใช้เป็นแหล่งการเรียนรู้ให้กับเด็กเยาวชน และผู้ที่สนใจ โดยจัดให้มีนิทรรศการด้านการเกษตรอินทรีย์,การสาธิตฐานการเรียนรู้กลุ่มเศรษฐกิจพอเพียงของโรงเรียน นอกจากนี้ยังให้บริการในสถานที่ในการจัดกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินโครงการด้านการเกษตรอินทรีย์
สำหรับผู้มีจิตศรัทธาอยากจะร่วมบริจาคเงินกับให้โรงเรียนฯ สามารถบริจาคเงินโดยวิธีการโอนเข้าบัญชีโรงเรียนเฉลิมพระเกียรติ 48 พรรษ ธนาคารกรุงเทพ สาขาบางกะปิ เลขที่ 105-5-71544-4 หรือสามารถติดต่อขอรับบริจาคได้ที่ โรงเรียนพระเกียรติ 48 พรรษา ในพระราชูปถัมภ์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เลขที่ 5 หมู่ 9 ตำบลต้นธง อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน 51000 โทรศัพท์ 053-092444 โทรสาร 05092444 โดยสามารถนำใบเสร็จไปลดหย่อนภาษีได้ 2 เท่า ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.chalermprakietschool.org และ https://www.facebook.com/clpk48school
……………….
กฤตยชญ์ พิงคะสัน ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดลำพูน รายงาน