รับสมัครเลือกตั้งนายกอบจ.เชียงใหม่คึกคัก ลงชิงนายกฯ 3 คน “พิชัย-พันธุ์อาจ-พล.ต.พนม”
เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2567 ที่จุดรับเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ และ สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ ณ ห้องประชุมสภาฯ ชั้น 2 อาคารหอประชุมสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ วันแรกกลุ่มการเมืองใหญ่ในเชียงใหม่ “แดง-ส้ม” พรรคการเมืองของฝ่ายรัฐบาลพรรคเพื่อไทย ในนาม”เพื่อไทยเชียงใหม่” นำโดย นายพิชัย เลิศพงศ์อดิศร อดีตนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ และฝ่ายค้าน พรรคประชาชน นำโดยนายพันธุ์อาจ ชัยรัตน์ และสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ จำนวน 42 เขต ครบทั้ง 2 พรรค และพลตรี ดร.พนม ศรีเผือด ผู้สมัครอิสระ อดีตผอ.กอ.รมน.จังหวัดเชียงใหม่ อดีตผู้สมัครส.สพรรครวมไทยสร้างชาติ
บรรยากาศการลงรับสมัครเลือกตั้งนายกอบจ.และส.อบจ.เชียงใหม่คึกคักมีรถแห่พร้อมกองเชียร์ เข้ามาให้กำลังใจ ลุ้นการจับสลากเลือเบอร์ ของผู้สมัครทั้ง 2 พรรค โดยนายพิชัย เดินทางมาลงเวลาทะเบียนผู้สมัครนายกอบจ.เชียงใหม่ เวลา 06.51 เป็นคนแรก นายพันธ์ุอาจ ลงทะเบียนเวลา 07.33 น. และพล.ต.ดร.พนม ลงทะเบียนเวลา 08.49 น. ในส่วนของจับฉลากหมายเลขประจำตัวผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ นายพิชัย เลิศพงษ์อดิศร ได้หมายเลขประจำตัวผู้สมัครหมายเลข 2, นายพันธุ์อาจ ชัยรัตน์ ได้หมายเลขประจำตัวผู้สมัครหมายเลข 1 และพลตรี ดร.พนม ศรีเผือด ผู้สมัครอิสระ ได้หมายเลขประจำตัวผู้สมัครหมายเลข 3
นายพิชัย เลิศพงศ์อดิศร ผู้สมัครรับเลือกตั้งนายกอบจ.เชียงใหม่ หมายเลข 2 พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า แม้การเลือกตั้งครั้งนี้จะมีผู้สมัครตำแหน่งนายกอบจ.เชียงใหม่ 3 คน แต่ตนก็มั่นใจมากเพราะตลอดระยะเวลา 4 ปีที่ผ่านมาได้สร้างผลงานและทำงานอย่างเต็มที่ มีผลงานเป็นที่ประจักษ์ให้พี่น้องประชาชนนำไปประกอบพิจารณาว่าควรจะมาเป็นนายกอบจ.เชียงใหม่สมัยที่ 2 ต่อหรือไม่
“การเลือกตั้งไม่ใช่การแข่งขัน แต่เป็นการนำเสนอผลงานว่าที่ผ่านมาทำงาน มีผลงานอย่างไร ซึ่งการเลือกตั้งครั้งนี้นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีจะมาเป็นผู้ช่วยหาเสียงให้ผมด้วย ซึ่งการเลือกตั้งนายกอบจ.เชียงใหม่ครั้งก่อนอดีตนายกฯทักษิณอยู่ต่างประเทศก็ใช้วิธีวิดีโอคอลมาช่วยหาเสียงให้ แต่ครั้งนี้อดีตนายกฯทักษิณ จะมาขึ้นเวทีพบปะพี่น้องชาวเชียงใหม่ในทุกอำเภอ เชียงใหม่เป็นเมืองหลวงของพรรคเพื่อไทย และอดีตนายกฯทักษิณก็สร้างผลงานไว้มากมายจึงทำให้ผมมั่นใจล้านเปอร์เซ็นต์” นายพิชัย กล่าว
ลำพังครั้งก่อนได้คะแนน 402,179 คะแนน ในการเลือกตั้งครั้งนี้ด้วยผลงานที่ทำมาตลอด 4 ปีที่ชาวเชียงใหม่เห็นเป็นที่ประจักษ์จึงทำให้มั่นใจว่าครั้งนี้จะได้คะแนนเลือกตั้งมากแน่นอน เพราะก่อนนั้นในปี 2551-2557 ตนเป็นสมาชิกวุฒิสภา และมาลงสมัครรับเลือกตั้งได้เป็นนายกอบจ.เชียงใหม่ 4 ปี ก็ลงพื้นที่ทุกอำเภอ อีกทั้งส.อบจ.เชียงใหม่ก็เข้มแข็ง มีจิตอาสาทำงานเพื่อพี่น้องประชาชนต่อไป ซึ่งผลงานที่ชัดเจนเช่นการจัดสร้างสวนสาธารณะบนที่ดินการรถไฟ ซึ่งตอนที่เป็นนายกอบจ.เชียงใหม่ ได้ขอให้การรถไฟยกให้อบจ.เชียงใหม่ดูแลและจะมีการพัฒนาต่อไป รวมถึงสวนสาธารณะบริเวณด้านหลังศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ ก็ได้พัฒนาให้เป็นสวนอบจ.เชียงใหม่เป็นสถานที่พักผ่อน ออกกำลังกายและนันทนาการ มีการจัดงาน Charming Chiang Mai ซึ่งขณะนี้ก็ยังจัดอยู่มีคนมาเที่ยวชมสวนดอกไม้กว่า 3 ล้านคน นอกจากนั้นในด้านสาธารณสุขก็จะดำเนินการก่อสร้างโรงพยาบาลอบจ.เชียงใหม่ขนาด 200เตียงซึ่งมีสถานที่ก่อสร้างเรียบร้อยแล้ว ก็พร้อมที่จะเข้ามาสานงานต่อในเรื่องนี้
นายพิชัย กล่าวด้วยว่า การจับสลากหมายเลขผู้สมัครรับเลือกตั้งครั้งนี้เนื่องจากบางเขตมีผู้สมัครอิสระด้วย จึงทำให้หมายเลขผู้สมัครนายกฯกับส.อบจ.เขตไม่ได้เบอร์เดียวกัน ก็ไม่ใช่เป็นปัญหาเพราะส.อบจ.แต่ละเขตลงพื้นที่และประชาสัมพันธ์ต่อประชาชน ซึ่งตลอด 4 ปีที่ผ่านมาทุกคนก็ลงพื้นที่และทำงานตลอดจึงมั่นใจว่าจะได้รับการเลือกตั้งยกทีม
และในวันนี้(23 ธ.ค.67)ช่วงเย็น อดีตนายกฯทักษิณจะขึ้นเวทีปราศรัยใหญ่ที่สนามฯ 700 ปี มีพี่น้องประชาชนจากทุกพื้นที่มาร่วมรับฟัง ส่วนวันที่ 24 ธ.ค.จะมี 3 เวที คือที่อ.สันป่าตองจะมีประชาชนสายใต้มาร่วมรับฟัง ภาคบ่ายที่ม.แม่โจ้ จะมีประชาชนจากสันทราย แม่ริม แม่แตงและรอบๆ มาร่วมรับฟัง ส่วนตอนเย็นเวทีที่สันกำแพงก็จะมีพี่น้องประชาชนจากดอยสะเก็ด สันกำแพง แม่ออนมารับฟังนโยบายจากตนและอดีตนายกฯทักษิณ
“การเลือกตั้งท้องถิ่นครั้งนี้ผมมั่นใจในตัวเองและทีมงานที่มีผลงานเป็นรูปธรรม โดยตั้งเป้าคะแนนไว้ประมาณ 6 แสนคะแนนอยากให้เป็นประวัติศาสตร์การเลือกตั้งท้องถิ่นของอบจ.เชียงใหม่” นายพิชัยกล่าว
ด้าน นายมงคล สุขใส ประธานกรรมการการเลือกตั้งประจำองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ เผยว่า ได้เตรียมความพร้อมการจัดการเลือกตั้งครั้งนี้อย่างเต็มที่ทั้งในด้านความปลอดภัยและการเตรียมความพร้อมในวันเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึงในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ และขอให้พี่น้องประชาชนออกมาใช้สิทธิ์เลือกตั้ง พร้อมทั้งช่วยกันเป็นหูเป็นตาให้กับการเลือกตั้งในครั้งนี้ด้วย
ส่วนบรรยากาศของฝั่งนายพันธุ์อาจ ชัยรัตน์ ผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นนายก อบจ.เชียงใหม่ จากพรรคประชาชน ระบุว่า การลงสมัครรับเลือกตั้งครั้งนี้ไม่หนักใจแต่อย่างใด ซึ่งพรรคประชาชน มีแนวนโยบายในการปฏิรูป อบจ.เพื่อทุกคนอยู่แล้ว ส่วนกรณีที่พรรคประชาชน มีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในพื้นที่มากกว่านั้น ตนเองคิดว่าต้องทำงานหนัก เพื่อให้ได้คะแนนเสียงของประชาชน ในส่วนทางด้านพลตรี ดร.พนม ศรีเผือด ผู้สมัครอิสระ ได้หมายเลขประจำตัวผู้สมัครหมายเลข 3 เนื่องจากเอกสารการรับสมัครไม่ครบจึงได้เดินทางกลับไปรวบรวมเอกสารในการลงรับสมัครเพื่อนำมาสมัครลงชิงนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ต่อไป.