Uncategorized

มุกดาหาร อปพส เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่รัฐ

มุกดาหาร อปพส เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่รัฐ

เมื่อวันที่ 23 ธ.ค. 62 ศ.ดร.ดุษฎีวัฒน์ แก้วอินทร์ อายุ 48 ปี ที่อยู่เลขที่ 499/110 หมู่ที่ 7 ตำบล หมากแข้ง อำเภอเมืองอุดรธานี จังหวัดอุดรธานี ชมรมพิทักษ์พระพุทธศาสนา พร้อมด้วย หม่อมหลวง กานต์พงศ์ วรวุฒิ นายอัยย์ เพชรทอง ได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ในจังหวัดมุกดาหาร ในกรณีการก่อสร้างมัสยิดกลางจังหวัดมุกดาหาร ใน 3 ข้อกล่าวหา ดังนี้ ร้องทุกข์ กล่าวโทษ ม.157 กับเจ้าหน้าที่ในมุกดาหาร ในกรณีปกปิดข้อเท็จจริงในการร้องคัดค้านการสร้างมัสยิด ร้องทุกข์ กล่าวโทษในการนำข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ และร้องทุกข์ กล่าวโทษ ในการอนุมัติให้สร้างมัสยิดโดยไม่ได้ทำประชาพิจารณ์ ซึ่งขัดกับกฏหมายรัฐธรรมนูญและระเบียบสำนักนายก

หม่อมหลวง กานต์พงศ์ วรวุฒิ ผู้สังเกตการณ์ และวิทยากร กล่าวว่า โดยการแจ้งความของ อปพส. กับชมรมพิทักษ์พระพุทธศาสนา และชาวบ้านที่เขามาร่วมให้กำลังใจ กับองค์กรในประเด็นข้อกฎหมายที่ประชาชนยังไม่เข้าใจ คือ การสร้างอะไรก็ตามที่มีผลกระทบกับสิ่งแวดล้อม หรือวิถีชุมชนต้องได้รับทำประชาพิจารณ์ หรือประชามติก่อน ซึ่งเรื่องนี้มันมีอยู่ในกฎหมายรัฐธรรมนูญ ก่อนหน้านี้ถ้าดำเนินการก่อสร้างมัสยิดมันมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมชุมชนไหม บางแห่งมีการพูดจากับบางคนบอกว่า ไม่ต้องมีประชาชนอยู่สร้างก็ได้ เพื่อให้มีส่วนไปที่มาตรา23 กับมาตรา 26 ขอให้มี 3 มัสยิด และขอให้กรรมการอิสลามจังหวัด ซึ่งมันกลายเป็นการเข้าหากฎหมาย กฎหมายซึ่งตอนนี้ก็มีปัญหา เพราะกระทบกระเทือนจิตใจคนทั่วไป สิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องอันตรายอย่าบิดเบือน ดังนั้นกฎหมายที่เขียนไว้มีมัสยิด 3 มีกรรมการอิสลามประจำจังหวัด สิ่งเหล่านี้บิดเบือน ท่านต้องพิจารณา ดังนั้นในรัฐธรรมนูญเขียนว่า สิ่งใดที่ทำมีผลต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชนของชาวบ้านวิถีชีวิต ต้องทำประชาพิจารณ์ ส่วนการสร้างมัสยิดไม่มีการบอกกล่าวกับชุมชน เพื่อให้เข้าองค์ประกอบของกฎหมายมีมัสยิด 3 แห่ง
ทั้งนี้ทาง อปพส. และชมรมพิทักษ์พระพุทธศาสนาเขาดูทั่วประเทศ เจ้าหน้าที่ของรัฐถ้าไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย หรือข้อกฎหมายที่กล่าวในรัฐธรรมนูญ จะโดนข้อหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งเรื่องนี้ไม่มีการบิดเบือนกล่าวอ้างใด ๆ ส่วนคำถามที่จะฝากถามทุก ๆ ท่าน ท่านทำจริงหรือไม่ ถ้าทำจริงท่านเสี่ยงต่อผิดกฎหมาย เรามาเพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย ไม่ได้มาตามปฏิบัติตามใจ เราปฏิบัติตามกฎหมายทั่วประเทศ ส่วนที่ไปยื่นต่อรัฐสภามี 4 คณะ คือ กรรมาธิการศาสนา กรรมาธิการปกครอง กรรมาธิการงบประมาร กรรมาธิการทุจริตประพฤติมิชอบ และ ปปช. ของท่านเสรี ฯ และท่านเสรีฯ ยังย้ำว่าจะมารับเรื่องเองและจะไม่ปล่อยเรื่องนี้ให้ลอยนวลแน่นอนหม่อมหลวง กานต์พงศ์ กล่าว..

ด้านนายทัน โฉมเฉลา ประธานชุมชนศรีพัฒนา 2 กล่าวว่า มีคนบอกว่าจะสร้างมัสยิด และได้ถามว่าได้ขออนุญาตหรือยัง เขาบอกว่าขออนุญาตแล้ว ขอดูเอกสารเขาไม่ให้ดู ผมก็เลยร้องเรียนไปที่ เทศบาลเมือง และทางอำเภอ ท่านก็ได้ไกล่เกลี่ย บอกว่าทุกศาสนาอยู่ร่วมกันได้ ส่วนการทำประชาพิจารณ์นั้นไม่มี เพระว่าคนในชุมชนคัดค้านหมด ทุกคนไม่เห็นด้วย และยังไม่แน่ใจว่าเขาจะสร้างอะไรเห็นแต่ถมที่ไว้ และเรื่องที่เคยร้องคัดค้านก็ยังไม่ได้ถอนออกนายทัน กล่าว..
ศ.ดร.ดุษฎีวัฒน์ แก้วอินทร์ ชมรมพิทักษ์พระพุทธศาสนา กล่าวว่า ชมรมพิทักษ์พระพุทธศาสนา ร่วมกับ อปพส. ได้เดินทางมาที่ สภ.เมืองมุกดาหาร ในกรณีการก่อสร้างมัสยิดซึ่งเรามองว่าเป็นการก่อสร้างโดยมิชอบ และจังหวัดมุกดาหาร ก็ได้ออกแถลงการณ์อย่างเป็นทางการออกมาว่า การสร้างมัสยิดนั้นเป็นไปโดยชองด้วยกฎหมาย แต่ว่าเรายังติดใจ และได้เดินทางมาร้องทุกข์กล่าวโทษ กับพนักงานสอบสวน ใน 3 ข้อหา 1.ร้องทุกข์ กล่าวโทษ ม.157 กับเจ้าหน้าที่ในจังหวัดมุกดาหาร ในกรณีปกปิดข้อเท็จจริงในการร้องคัดค้านการสร้างมัสยิด 2. ร้องทุกข์ กล่าวโทษในการนำข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ และ3. ร้องทุกข์ กล่าวโทษ ในการอนุมัติให้สร้างมัสยิดโดยไม่ได้ทำประชาพิจารณ์ ซึ่งขัดกับกฏหมายรัฐธรรมนูญและระเบียบสำนักนายก และในวันนี้จะมีการแจ้งความดำเนินคดีกับปกครองจังหวัดมุกดาหาร โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร เป็นหัวหน้า

ไกรสมุทร นามโพธิ์ไทร/รายงานจากมุกดาหาร
081-0501177