23 ตุลาคม 2567 จากกรณีที่ลูก 2 ครอบครัว เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปรางค์กู่ โดยเชื่อว่าแม่ถูกเจ้าลัทธิประหลาดหลอกลวง ทำให้สูญเงินสดกว่า 2 ล้านบาท ซึ่งได้กลับมาตั้งกลุ่มปฎิบัติธรรม ตามความเชื่ออีกครั้ง หลังถูกเจ้าหน้าที่บุกจับสึกสั่งปิดสำนักสงฆ์ “วัดเนื้อนาบุญ” ไปแล้ว เมื่อปี 2564 ที่ผ่านมา
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า เมื่อช่วงปลายเดือน มี.ค. 2564 พระกรันยา ถาวรธัมโม ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าทำการจับกุมตัว หลังคณะสงฆ์จังหวัดศรีสะเกษ (ธรรมยุต) โดย พระวินัยเมธี เจ้าคณะจังหวัดศรีสะเกษ (ธรรมยุต) ออกแถลงการณ์การสอบอธิกรณ์ เรื่องการระงับอธิกรณ์ พระกรันยา ถาวรธัมโม ที่พักสงฆ์เนื้อนาบุญ สอนผิดเพี้ยนจากพระธรรมวินัย ซึ่งคำสอนที่ได้สั่งสอนอบรมสั่งสอน แก่ศิษยานุศิษย์นั้นเป็นคำสอนหรืออุบายธรรมที่ผิดเพี้ยนไปจากพระธรรมคำสอนที่ทรงตรัสรู้เองโดยชอบแล้ว ซึ่งพระกรันยา ถาวรธัมโม ได้อบรมให้ศิษยานุศิษย์ด้วยการกล่าววาจาเทศนาให้น้อมไปในทางเสพกามคุณและการสอนศิษยานุศิษย์ ให้เชื่อว่าการปฏิบัติธรรมสมาธิด้วยการกลั้นลมหายใจดำน้ำในตุ่ม จะช่วยให้บรรลุมรรคผลได้ และการใช้วาจาแนะนำบอกล่าวอุบายแก่ศิษยานุศิษย์ที่มาปฏิบัติธรรม ให้เป็นคู่รักกันได้ ถ้าตนเองไม่มีคู่รัก นอกจากนี้ยังสอนให้เชื่อว่าเมื่อบรรลุมรรคผลแล้วมีการร่วมกันจัดงานกิจกรรมการบันเทิงรื่นเริง ฟ้อนรำ ขับบรรเลงเพลงดนตรีภายในบริเวณอารามที่ถือว่าเป็นวัด จนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ของพุทธศาสนิกชนทั่วไป ว่าพระกรันยา แนะนำสั่งสอนอบรมให้ศิษยานุศิษย์ได้เชื่อถือและปฏิบัติธรรมผิดเพี้ยนไปตามวาจาที่ตนได้สอนไว้และยังได้บันทึกลงไปในสื่อออนไลน์ต่างๆ
จนเมื่อเกิดเรื่องความสงสัยวิพากษ์วิจารณ์วิธีการสอนของพระกรันยา จากพุทธศาสนิกชนว่า พระกรันยา ได้ทำการสอนพระธรรมผิดเพี้ยนไปจาก พระปริยัติ ปฏิบัติ ปฏิเวธ อย่างไรบ้าง เจ้าคณะจังหวัด เจ้าคณะอำเภอ เจ้าคณะตำบล จึงได้พิจารณาตรวจสอบคำสอนการสอนของพระกรันยา และให้ปรับปรุงวิธีอุบายการการสอนที่เป็นไปในทางผิดเพี้ยนไปนั้น ให้แก้ไขวิธีการสอนใหม่ให้ถูกต้อง แต่พระกรันยา ไม่ยอมปรับปรุงแก้ไข แต่กลับไปเพิ่มการโพนทะนาอุบายวิธีการอบรมสั่งสอนที่ปฏิบัติติผิดเพี้ยนของตนออก เจ้าคณะผู้ปกครองที่ได้มาตักเตือนให้โอกาสระลึกถึงการปฏิบัติผิดของตน แต่ พระกรันยา ก็ไม่ยอมรับโอวาทและไม่อาจระลึกได้ จากนั้นคณะสงฆ์ธรรมยุตจังหวัดศรีสะเกษ จึงพิจารณาเห็นว่าการอบรมสั่งสอนของพระกรันยา เป็นอันตรายต่อพระธรรมคำสอนที่ได้ทรงตรัสรู้เองโดยชอบแล้วตรัสสอน และการประพฤติการปฏิบัติในการสอนของพระกรันยา ย่อมชักนำไปสู่การต้องปรับอาบัติ ในที่ประชุมสงฆ์ตามพระวินัยเป็นที่สุด และการไม่ระลึกในการปฏิบัติผิดและสอนผิดเพี้ยนของพระกรันยา จึงมีมติสงฆ์เป็นที่สุดให้ พระกรันยา ถาวรธมฺโม ลาสิกขาออกจากความเป็นคณะสงฆ์ธรรมยุต ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป และสั่งปิดที่พักสงฆ์ป่าเนื้อนาบุญ มิให้เป็นที่พักสงฆ์ในคณะสงฆ์ธรรมยุต ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป จากนั้นคณะสงฆ์ได้นำตัว พระกรันยา ถาวรธมโม มาทำพิธีลาสิกขา และส่งตัวให้กับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามระเบียบกฎหมาย
ด้าน นายวิทยา ไชยเดชกำจร นายอำเภอปรางค์กู่ ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองร่วมกับตำรวจ สภ.ปรางค์กู่ เร่งรวบรวมพยานหลักฐาน และเตรียมนำกำลังลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงในเร็วๆนี้
บุญทัน ธุศรีวรรณ รายงาน
