บรรจบ พบหลักฐานเด็ด สตช. กลั่นแกล้ง ล็อครองผู้การฯเพชรบุรี ฐานหัวไม่เกรียน
พ.ต.อ.บรรจบ สุดใจ ข้องใจ สตช. หลังพบหลักฐานไลน์คำสั่ง ล็อครองผู้การฯเป็นเป้าหมาย 1 ส่งลูกน้องตรวจทรงผมทางลับอ้าง “ คำสั่งนายใหม่ ทำได้เหรอ”
อดีตนายตำรวจฯ พ.ต.อ.บรรจบ สุดใจ ข้องใจ จเรตำรวจแห่งชาติ สั่งลูกน้องสุ่มตรวจทรงผม จนมีการสั่งลงโทษรองผู้การฯเพชรบุรี ฐานผิดระเบียบ ก่อนสืบทราบจากทนายความรองผู้การฯเพชรบุรี มีหลักฐานยันจากไลน์สั่งการระบุการเล็งจับผิดรองผู้การฯไพรัตน์ เป็นเป้าหมาย 1 และลูกน้องรายงานว่าทำถูกระเบียบแต่กลับมีการลงโทษโดยไม่มีความผิด
คืบหน้ากรณีข่าว ส.ต.ท.ชงเอง สั่งย้าย 3 รองผู้การเมืองเพชรฐานไม่ตัดผมสั้น
พ.ต.อ.บรรจบ สุดใจ ข้องใจ สตช. หลังพบหลักฐานไลน์คำสั่ง ล็อครองผู้การฯเป็นเป้าหมาย 1 ส่งลูกน้องตรวจทรงผมทางลับอ้าง “ คำสั่งนายใหม่ ทำได้เหรอ”
อดีตนายตำรวจฯ พ.ต.อ.บรรจบ สุดใจ ข้องใจ จเรตำรวจแห่งชาติ สั่งลูกน้องสุ่มตรวจทรงผม จนมีการสั่งลงโทษรองผู้การฯเพชรบุรี ฐานผิดระเบียบ ก่อนสืบทราบจากทนายความรองผู้การฯเพชรบุรี มีหลักฐานยันจากไลน์สั่งการระบุการเล็งจับผิดรองผู้การฯไพรัตน์ เป็นเป้าหมาย 1 และลูกน้องรายงานว่าทำถูกระเบียบแต่กลับมีการลงโทษโดยไม่มีความผิด
เมื่อเวลา 18.00 น.วันนี้ (22 พ.ค.62) ความคืบหน้ากรณีที่มีการฟ้องร้องดำเนินคดี ระหว่าง พ.ต.อ.ดร.ไพรัตน์ ไพพรรณรัตน์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเพชรบุรี กับ ส.ต.ต.กมลวิสิฐ ลิบลับ ผบ.หมู่งานสาย ตรวจ 1 บก.จร.ที่อ้างคำสั่ง จเรตำรวจแห่งชาติ ให้เดินทางมาตรวจทรงผมนายตำรวจที่ บก.ภ.จว.เพชรบุรี โดยหนึ่งในนั้นคือ พันตำรวจเอกไพรัตน์ ไพพรรณรัตน์ รองผบก.ภ.จว.เพชรบุรี ซึ่งได้มีการตัดผมตรงตามระเบียบ แต่กลับถูกกล่าวหาว่ากระทำการผิดระเบียบเรื่องทรงผม จนมีคำสั่งลงโทษเรียกเข้าศูนย์ฝึกเป็นเวลานานกว่า 15 วัน จนนำมาสู่การฟ้องร้องดำเนินคดี
จากเหตุการณ์นี้ได้ผ่านมา 1 ปีเต็ม ซึ่งผู้สื่อข่าวและประชาชนยังมีการติดตามและให้ความสนใจอยู่โดยตลอด ปรากฏว่า พ.ต.อ.บรรจบ สุดใจ อดีตนายตำรวจชื่อดังที่เกษียรอายุราชการไปแล้ว ปัจจุบันมีตำแหน่งประธานอนุกรรมการไต่สวนข้อเท็จจริง (ปปท.)มีความข้องใจและติดตามเหตุการณ์ดังกล่าวมาโดยตลอด ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวจังหวัดเพชรบุรี ว่า ล่าสุดได้ทราบเรื่องจากทนายความของ พันตำรวจเอก ดร.ไพรัตน์ ไพพรรณรัตน์ ว่าเรื่องนี้อยู่ระหว่างการต่อสู้ในชั้นศาล ซึ่งในวันที่ 20 มิถุนายน 2562 จะมีการสืบพยานโจทก์และจำเลย โดยทางทนายความได้พบหลักฐานชิ้นสำคัญคือไลน์สั่งการระหว่างจเรตำรวจและ ส.ต.ท.กมลวิสิฐ โดยในข้อความ มีการสั่งการให้ ส.ต.ท.กมลวิสิฐ ติดตาม พ.ต.อ.ไพรัตน์ ไพพรรณรัตน์ ในทางลับ เป็นเป้าหมาย 1 ในเรื่องการตัดทรงผมตามระเบียบหรือไม่ ซึ่งต่อมา ส.ต.ท.กมลวิสิฐ มีการรายงานว่า พบตัว เป้าหมาย 1 แล้ว ตัดทรงผมเป็นตามระเบียบ แต่กลับมีคำสั่งจาก จเรตำรวจแห่งชาติ ให้ลงโทษ พ.ต.อ.ดร.ไพรัตน์ ไพพรรณรัตน์ ว่ากระทำการผิดระเบียบโดยไม่ตัดทรงผม และให้ย้ายไปประจำที่ ศปก.ในทันที
พ.ต.อ.บรรจบ สุดใจ กล่าวอีกว่า เรื่องนี้จึงทำให้ตนคับข้องใจมาก ว่า ข้าราชการตำรวจทำงานกันแบบไหน เป็นไปด้วยสุจริตหรือไม่ หรือว่าเป็นการกลั่นแกล้งกัน ซึ่งตนในฐานะเป็นอดีตนายตำรวจและเป็นอาจารย์สอนนายตำรวจมาแล้วหลายรุ่น จึงอยากให้เรื่องนี้กระจ่างและเกิดความเป็นธรรมมากที่สุด เพราะที่ผ่านมาวงการตำรวจเป็นที่สนใจและจับตามองของประชาชนอยู่ตลอด จึงอยากขอให้สื่อมวลชนช่วยกันตรวจสอบข้อเท็จจริง ใครผิด ใครถูก ก็ว่ากันไปตามกฏหมาย การกลั่นแกล้งกัน ในวงการสีกากีไม่ควรมีหรือเกิดขึ้นกับวงการตำรวจของเราในลักษณะนี้อีก ตนอยากให้เรื่องนี้กระจ่างตำรวจดีๆจะได้มีกำลังใจในการทำหน้าที่ต่อไป
ทีมข่าว เพชรบุรี