22 สิงหาคม 2567 ที่ บริเวณลานหลักหมุดผังเมือง ด้านหน้าศาลากลางจังหวัดอุตรดิตถ์ (หลังเก่า) ศูนย์ราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ นายศิริวัฒน์ บุปผาเจริญ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ เป็นประธานในพิธีบวงสรวง และเจริญพระพุทธมนต์ทำบุญบอกกล่าวสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำเมือง บรรพบุรุษและอดีตเจ้าเมือง ในการจะเริ่มต้นจัดสร้างศาลหลักเมืองจังหวัดอุตรดิตถ์ ที่ บริเวณลานหลักหมุดผังเมืองดังกล่าว ซึ่งเป็นการบอกกล่าวสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งจังหวัดอุตรดิตถ์พร้อมกันทุกอำเภอ
โดยแต่ละอำเภอจัดพิธีเช่นเดียวกันพร้อมกันตามที่กำหนด เช่น อำเภอลับแลจัดที่อนุสาวรีย์พระศรีพนมมาศ อำเภอน้ำปาดจัดที่บริเวณหน้าอนุสาวรีย์ท่านพ่อพญาปาด อำเภอพิชัยจัดที่หน้าที่ว่าการอำเภอพิชัย อำเภอตรอนจัดที่ที่ว่าการอำเภอตรอน เป็นต้น โดยมีส่วนราชการ หน่วยงานรัฐวิสาหกิจ ภาคเอกชน และประชาชนผู้มีจิตศรัทธาเข้าร่วมงานอย่างคับคั่งรวมทั้งในช่วงท้ายของงานมีการรำวงเมืองอุตรดิตถ์รำสักการะและเฉลิมฉลองในโอกาสการจัดงานดังกล่าวจากนางรำจำนวนมากกว่า 111 คน ซึ่งทุกคนที่มารำและมาร่วมงานต่างมีความสุข มีความปลื้มปิติยินดีในโอกาสที่จังหวัดอุตรดิตถ์จะได้มีการจัดสร้างศาลหลักเมืองขึ้น เพราะตั้งแต่ย้ายศาลากลางเมืองพิไชยจากพื้นที่อำเภอพิชัยเดิมมาตั้งที่ใหม่
ในพื้นที่ตำบลท่าอิฐ อำเภอเมืองอุตรดิตถ์ ปัจจุบันในสมัยรัชการที่ 5 และต่อมาในสมัยรัชกาลที่ 6 ได้พระราชทานเปลี่ยนนามเมืองจากเมือง “พิไชย” เป็น “อุตรดิฐ” จนกระทั่งปัจจุบัน จังหวัดอุตรดิตถ์เรายังไม่เคยมีศาลหลักเมืองเป็นทางการเลย ซึ่งถ้าหากเราเริ่มจัดสร้างในปี พ.ศ. 2567 นี้ ก็คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2569 ซึ่งจะถือเป็นโอกาสอันดีที่จะได้สมโภชและเฉลิมฉลองศาลหลักเมืองจังหวัดอุตรดิตถ์ ในโอกาสครบรอบ 111 ปี การเปลี่ยนนามเมืองอุตรดิตถ์พอดี
ทั้งนี้ นายศิริวัฒน์ บุปผาเจริญ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้จังหวัดอุตรดิตถ์ โดยมติคณะกรมการจังหวัดอุตรดิตถ์ได้เห็นชอบการจะจัดสร้างศาลหลักเมืองบริเวณดังกล่าวเรียบร้อย โดยกรมศิลปากรได้ส่งเจ้าหน้าที่มาดูสถานที่ก่อสร้าง พร้อมให้คำปรึกษาจากพระมหาราชครูพิธีศรีวิสุทธิคุณ ประธานคณะพราหมณ์ว่าเห็นสมควรยิ่งแล้ว ขั้นตอนต่อไปหลังจากการบวงสรวงบอกกล่าวสิ่งศักดิ์สิทธิและบรรพบุรุษแล้วก็จะเป็นส่วนของการขอความร่วมมือกรมศิลปากรในการออกแบบทั้งในส่วนของตัวเสาหลักเมืองและอาคารศาลหลักเมือง ให้มีเอกลักษณ์ อัตลักษณ์เป็นของจังหวัดอุตรดิตถ์ รวมทั้งการเร่งหาไม้มงคลในพื้นที่จังหวัดอุตรดิตถ์ เพื่อจะได้นำมาทำเป็นเสาหลักเมือง ซึ่งในเบื้องต้นกำหนดเป็นไม้สัก (มเหสักข์) เพราะเป็นไม้มงคลเป็นต้นไม้ประจำจังหวัดอุตรดิตถ์ โดยหากได้แล้วก็จะมีพิธีพลีกรรมตัดต้นไม้และส่งให้กรมศิลปากรดำเนินการจัดสร้างต่อไปและในส่วนของอาคารหากออกแบบเสร็จจะได้ดำเนินการวางศิลาฤกษ์ และก่อสร้างต่อไป โดยจังหวัดกำหนดแผนงานไว้ให้แล้วเสร็จรวมระยะเวลา 2 ปี และสมโภชเฉลิมฉลองในเดือนสิงหาคม 2569 ในโอกาสครบ 111 ปี การเปลี่ยนนามเมืองอุตรดิตถ์พอดี
จึงขอประชาสัมพันธ์เชิญชวนพี่น้องประชาชนจังหวัดอุตรดิตถ์ พี่น้องประชาชนชาวไทยและผู้มีจิตศรัทธาทุกท่าน ได้มีส่วนร่วมสร้างตำนาน สร้างประวัติศาสตร์ สร้างมหากุศล ในการสร้างศาลหลักเมืองจังหวัดอุตรดิตถ์ร่วมกัน โดยสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมหรือแจ้งความประสงค์ร่วมทำบุญได้ที่ สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดอุตรดิตถ์ โทร. 0 5540 3092 ในวันและเวลาราชการ
นาคา คะเลิศรัมย์ รายงาน